ภูเก็ต 2 พ.ค.-ป.ป.ช. เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน จัดการคนเอี่ยวขนกากแคดเมียมขายนายทุนข้ามชาติ เห็นใจ จนท.รัฐ ทำงานภายใต้อิทธิพล
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการลักลอบขนย้ายกากแคทเมียมมาขายให้กลุ่มทุนข้ามชาติ ว่า ป.ป.ช.ภาค 6 รวบรวมข้อมูลที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน เนื่องจากเดิมที่จังหวัดตาก แม่สอดมีโรงงานประกอบกิจการ และมีของเหลือเป็นกากแคทเมียม แต่ได้ฝังกลบไปแล้ว แต่เนื่องจากเป็นสารที่มีมูลค่า ทำให้มีขบวนการขุดกากแคดเมียมมาขายต่อให้บริษัท ซึ่งเราพอทราบว่าเป็นทุนต่างประเทศมารับซื้อ และเกิดปัญหาในการขนส่ง ดังนั้น ขณะนี้ ป.ป.ช.ภาค 6 จึงอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง พยานหลักฐานว่า มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ โยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรม
เมื่อถามว่า ทราบว่าตอนที่ขนมา มีหน่วยงานในพื้นที่อนุญาตให้ขนออกมาด้วย นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องมีการตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับหน่วยงานอะไรในจังหวัด ใครมีอำนาจอนุญาต อนุมัติ ใครมีหน้าที่ควบคุม ดูแลตอนที่มีการขนย้าย ทั้งนี้ในการรวบรวมข้อมูล เข้าใจว่าจะมีข้อมูลเพียงพอที่จะหยิบยกขึ้นมาได้แล้ว แต่กำลังจะดูว่า จะให้ ป.ป.ช.ส่วนกลางทำ หรือ ป.ป.ช.ภาค 6 ที่เป็นคนรวบรวมข้อมูลดำเนินการ เพราะเป็นคนอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น เมื่อคืนเกิดเกตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมีที่อ.ภาชี นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าเป็นเรื่องน้ำเสีย กากแร่อุตสาหกรรม โรงงานปล่อยของเสีย เหล่านี้ต้องดูเป็นรายกรณีไป ว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปร่วม อนุมัติ อนุญาต การประกอบกิจการ การปล่อยของเสียอย่างไร หากปล่อยของเสียตั้งแต่ต้น เจ้าหน้าที่ของรัฐรู้เห็นหรือไม่ ต้องให้ความเป็นธรรมหน่วยงานด้วย เพราะเข้าใจว่าตอนมาขออนุญาตเปิดโรงงานนั้น เข้าใจว่ามีรายละเอียดเกี่ยวกับการกำจัดของเสียอยู่แล้ว แต่หลังได้ใบอนุญาตแล้วก็ต้องดูว่ามีการเดินเครื่องกำจัดของเสียหรือไม่ เพราะถือเป็นต้นทุนของโรงงาน บางโรงงานเพื่อลดต้นทุนก็ปล่อยของเสียลงแม่น้ำเลย ดังนั้น ต้องดูว่าเจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบ ติดตามหรือไม่ ถ้ารู้แล้วยังเพิกเฉย เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบ
“ล่าสุด อธิบดีกรมโรงงานเขียนหนังสือลาออก จะส่งผล ดังนั้น อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่อย่างไร นายนิวัติไชย กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้เราก็เห็นใจเจ้าหน้าที่หน่วยงานของรัฐ โดยเฉพาะต่างจังหวัด บางครั้ง การดำเนินการต่างๆ มีอิทธิพลมาแฝง เจ้าหน้าที่รัฐภายใต้หน้าที่ของตัวเองก็จะมีสายการบังคับบัญชาอยู่มาก เพราะฉะนั้นความกดดันในการทำหน้าที่ก็มีมากพอสมควร น่าเห็นใจ อย่างไรก็ตาม วันนี้ ป.ป.ช. มีอยู่ทุกจังหวัด การแก้ไขปัญหาทางออกง่ายๆ คือมาร่วมการทำงานกับ ป.ป.ช.พบเห็นอะไรผิดปกติ หากมีอิทธิพลแทรกแซง ก็มาหา ป.ป.ช.ได้ ซึ่งป.ป.ช.ยินดี ประสานงาน ช่วยแก้ไขปัญหาทึกเรื่อง ดีกว่าปล่อยให้ผ่านไป ซึ่งจะมีผู้ที่ต้องรับผิดชอบ วันนี้ป.ป.ช. ใช้แนวทางป้องนำปราบ เข้าไประงับยับยั้ง แก้ไขก่อน วันนี้ยังแก้ไขได้ก็แก้ไขก่อนอย่าให้ปัญหาเกิดขึ้น หากความผิดเกิดขึ้นแล้ว เราป้องไม่ได้ เราก็ต้องลงไปดำเนินการตรวจสอบ ไต่สวนต่อ รวมถึงประชาชนสามรถแจ้งได้ที่สำนักงาน ป.ป.ช.ทุกจังหวัด ซึ่งป.ป.ช.จะมีการปกปิดข้อมูลส่วนตัว รวมถึงมีกองทุนเยียวยาหากได้รับผลกระทบ” เลขาธิการป.ป.ช. กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย