ก้าวไกลตั้งคำถาม ปม “ทักษิณ” ไปภูเก็ต

รัฐสภา 2พ.ค.-“ณัฐชา” เหน็บ “ทักษิณ” ทัวร์ภูเก็ต หลังปรับครม.เสร็จ บอกทำตัวเหมือนพ้นโทษ​ ทั้งที่พักโทษอยู่ ทำชาวบ้านสงสัย ถามมีครม.สัญจรกี่ที่-มีนายกฯ กี่คน เชื่อเป็นไปได้สูง “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย เพราะพรรคจัดตั้งรบ. เล่นเกมรุกคืบ สงสาร “เศรษฐา” หนักใจแน่ 


นายณัฐชา อินไชยบุญสวัสดิ์ สส. กทม. รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ถือว่าไม่เป็นการผิดแปลกอะไรที่นายทักษิณเดินทางไปพักผ่อนที่ภูเก็ต เนื่องจากน่าจะเสร็จภารกิจการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่น่าจะวุ่นวายพอสมควรในพรรคเพื่อไทย ฉะนั้น หลังจากจบปรับครม. แล้วก็ถือว่าเป็นการเดินทางไปพักผ่อนแบบเงียบๆแต่เดินทางไปพร้อมกับคณะใหญ่ และไปเยี่ยมโครงการดูแผนพัฒนาในเมืองภูเก็ต และยังมีแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆซึ่งนายทักษิณ สามารถทำได้ไม่ผิดแต่ความเหมาะสม ความสง่างาม ณ ตอนนี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะการพักโทษกับการพ้นโทษ

“ถึงแม้จะเขียนใกล้เคียงกัน อ่านฟังแล้วดูคล้ายกัน แต่คือความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การพักโทษอยู่ระหว่างการรับโทษแค่ได้พักโทษออกมาภายนอก เพราะฉะนั้นการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดก็ควรที่จะต้องมองถึงความเหมาะสม ไม่เช่นนั้นความเดือดร้อนจะตกกับข้าราชการประจำหรือ แม้กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่ต้องออกมาตอบข้อคำถามในประเด็นที่เคลือบแคลนสงสัย และเป็นความไม่สบายใจของผู้ที่ต่อสู้เพื่อความยุติธรรมมาตลอดระยะเวลา 17 ปี รวมทั้งพี่น้องประชาชนที่ต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมต่าง ๆ วันนี้ท่านกลับมาแล้ว อยู่ในระหว่างการพักโทษก็อยากให้ท่านใช้เวลา ในช่วงของการพักโทษให้เหมาะสมแก่สถานการณ์ และหลังจากนั้น หลังพ้นโทษไป ท่านจะดำเนินการอย่างไร ท่านจะนั่งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีหรือจะนำพานโยบายต่างๆของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไปพัฒนาที่ไหน จังหวัดไหนก็คิดว่าทำได้เลย ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” นายณัฐชา กล่าว


ส่วนที่นายทักษิณจะลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาด้วย  สะท้อนอะไร นายณัฐชา กล่าวว่า ยิ่งนายทักษิณลงพื้นที่เยอะ เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนจะสามารถคิดไปเองว่าเป็นการเดินสายแข่งกับครม.สัญจร แต่ของนายทักษิณเป็นอะไรสัญจรก็ขอให้พี่น้องประชาชนตั้งคำถาม เพราะวันนี้นายทักษิณเดินทางจนเรียกว่าพื้นที่ของการนำเสนอข้อมูลข่าวสารไปถึงพี่น้องประชาชน ว่า เป็นการนำเสนอเรื่องของอดีตนายกฯ มากกว่านายกฯคนปัจจุบันเสียอีก

เมื่อถามย้ำว่า การลงพื้นที่ของนายทักษิณ ถือเป็นการประกาศนัยยะทางการเมืองรวมถึงการปรับครม.ด้วยหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์อย่างหนึ่งว่าเมื่ออยู่ข้างผู้มีอำนาจแล้ว สามารถดำเนินการได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งทำให้สังคมตั้งคำถามว่า วันนี้เรามีนายกฯกี่คน และขณะนี้สังคมกำลังตั้งคำถามว่า เรามีครม.สัญจรกี่ที่ หากแนวทางการแก้ปัญหาตรงกัน สอดรับกันก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าขัดหรือค้านกันเมื่อไหร่ก็จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

“ถ้าแย่งกันทำงานก็ไม่ผิดแต่ถ้าแย่งกันทำงานแล้วไปคนละทิศละทาง นั้นผิด เพราะจะทำให้รัฐบาลชุดนี้ไม่มีเสถียรภาพ จะสร้างความอึดอัดให้กับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ถ้าแนวทางแบบนนี้การพักโทษและการดำเนินการแบบนี้เป็นบรรทัดฐานในอนาคต ในการพักโทษของนักโทษต่อไปที่จะต้องเกิดขึ้น ก็จะเกิดเหตุการแบบนี้ขึ้นได้ ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมและพฤติการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทุกคนก็สามารถทำได้ ถ้าเป็นบรรทัดฐานความยุติธรรมเดียวกัน” นายณัฐชา กล่าว


เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าอดีตนายกรัฐมนตรีอีกคนจะกลับมาในลักษณะนี้ก็สามารถทำได้เหมือนกันใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ตนคิดว่าสัญญาณ ณ ตอนนี้และการพูดของนายทักษิณเองว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะกลับมาเมื่อไหร่อย่างไร ก็มีการพูดออกมาเป็นระยะๆ ฉะนั้น หากกลับมาแล้วจะมีรูปแบบและพฤติกรรมแบบเดิม ตนคิดว่าคนที่น่าหนักใจที่สุดคือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี คนปัจจุบัน และความเป็นไปได้ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับประเทศ ตนคิดว่าจากสัญญาณอะไรต่างๆที่ทางผู้มีอำนาจได้ดำเนินการ และเกมรุกคืบของพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คิดว่าการกลับประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีความเป็นไปได้สูง.-312.-สำนักข่าวไทย       

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

9 ทันโลก : แจงด่วน! คณะมนตรีความมั่นคง ไทยนี้รักสงบ

25 ก.ค. – นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตามที่กัมพูชาร้องขอไว้ รายงาน 9 ทันโลก พาไปติดตามบทบาทและโอกาสของไทยบนเวทีสำคัญนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาตินานเกือบ 80 ปี จะได้แสดงบทบาทอีกครั้งในคณะมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการสื่อสารกับประชาคมโลก ถึงการกระทำของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายด้าน รวมถึงกฎบัตรสหประชาชาติที่ไทยยึดมั่น ในห้องประชุมนี้ ไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติ ลำดับที่ 55 จะทำหน้าที่อีกครั้งในภารกิจด้านสันติภาพ ตั้งแต่เข้าเป็นสมาชิกเมื่อปี 2489 ที่นี่ไทยเคยทำหน้าที่ประธานการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง โดยพลอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา และหม่อมหลวง พีระพงศ์ เกษมศรี ทำหน้าที่สองวาระ ในปี 2528 และ 2529 ในเวลาที่สงครามเย็นคุกรุ่น มาในวันนี้ไทยกำลังจะมีโอกาสอันดีที่ได้ใช้ช่องทางการทูตสำคัญ เสาหลักความมั่นคงของสหประชาชาติ ในอีกบทบาทหนึ่งที่ยังคงอยู่บนพื้นฐานการแสวงหาสันติภาพตามกลไกนี้ เมื่อประเทศสมาชิก ในกรณีนี้คือกัมพูชา ร้องขอให้เปิดประชุมเร่งด่วน สมาชิกคณะมนตรีซึ่งมีสมาชิกถาวร 5 ประเทศ และสมาชิกไม่ถาวร 10 ประเทศ พิจารณากรณีที่เป็นภัยคุกคามใดต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ เช่น กรณีการปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชา […]

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย