“เศรษฐา” ตรวจโรงงานเก็บกากสารเคมี จี้หาสาเหตุไฟไหม้

ระยอง 27 เม.ย.- “เศรษฐา” ลงพื้นที่ตรวจโรงงานเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง จี้หาสาเหตุไฟไหม้ สั่งการแก้ปัญหา-เยียวยาประชาชน ชาวบ้านชูป้ายให้เอาโรงงานออกไป ฉะอธิบดีลงพื้นที่ช้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วินโพรเสส จำกัด ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ภัทรา​ วิชัยกุล​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม​ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ และนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี​


ทันทีที่นายกรัฐมนตรีมาถึง ได้ลงพื้นที่รับฟังการรายงานการดำเนินการในพื้นที่​จากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง​ ว่า​ ได้มีเจ้าหน้าที่สแตนบายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของไฟไหม้ว่าเกิดจากอะไร โดยต้องรอให้ไฟสงบและให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งดำเนินการ​ ก่อนที่จะถามหาว่าอธิบดีกรมโรงงานอยู่ที่ไหน​ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ​ มีการลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้เมื่อไหร่​ ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานตอบว่ามาเมื่อวานนี้ตอนเช้า​ ทำให้นายกรัฐมนตรีถามต่อว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อใด ทำไมจึงใช้ระยะเวลานานกว่าจะลงพื้นที่ ท่านเป็นอธิบดีกรมโรงงานน่าจะมาให้ไวกว่านี้​ เพราะนี่เป็นเรื่องซีเรียสว่า หากมีข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดจากอุณหภูมิ​ที่สูง​ ตนขอฝากท่านไปดูต่อด้วยก็แล้วกัน โรงงานอื่นๆ ในลักษณะเช่นนี้หน้าร้อนอุณหภูมิสูงมาก หากเป็นไปได้อยากให้ตรวจสอบให้ดี

ทั้งนี้ นายเศรษฐา สั่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสอง ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งการไหม้รอบใหม่มักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยขอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำหนดวัน และให้เร่งรัดสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ขณะที่พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า ขณะนี้ในเบื้องต้นกำลังจัดทำแผนที่คดี​ และดูว่า​มีวัตถุพยานอะไรบ้างแต่ต้องรอให้ เจ้าที่ตำรวจหรือมนุษย์สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้ด้วยความปลอดภัย นายกรัฐมนตรีจึงถามว่าเมื่อใดจึงจะปลอดภัยและสามารถเข้าไปได้ จึงรายงานว่า​ ขณะนี้ยังมีการปะทุของไฟอยู่ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นหนึ่งถึงสองวันนี้


ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ว่า เบื้องต้นได้อพยพคนจำนวน 78 คน จาก 2 ตำบล คือ ตำบาลบางบุตร และตำบลหนองบัว ไปศูนย์พักพิง ซึ่งตอนนี้เหลือ 39 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียง 4 คน โดยมีอาการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ และผู้ป่วยที่ผู้ป่วยติดเตียงได้รับการดูแลเป็นอย่างดียืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการได้รับสารจากเหตุไฟไหม้ และหลังเพลิงสงบ จะเข้าไปดูว่ามีสารเคมีใดหลงเหลือบ้าง เพื่อหาวิธีกำจัด

ด้านนายวิเชียร สุขเกิด ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย บอกนายเศรษฐา ว่า ชาวบ้านไม่เชื่อผลค่าวัดอากาศของหน่วยงานราชการ และตั้งแต่เกิดเพลิงจนถึงวันนี้ ประชาชนยังไม่ได้รับข้อเท็จจริง และชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2556 โดยในปี 2564 ศาลพิพากษาให้บริษัทกำจัดศาลเคมี โดยมีการจ้างบริษัทเอสเค ให้เริ่มขนย้ายในปี 66 แต่เมื่อหมดสัญญาแล้ว งานยังไม่แล้วเสร็จ กรมอุตสาหกรรมจะเข้ามากำจัดกากเคมีเอง โดยเมื่อวานนี้ได้ไปร้องอัยการเพื่อให้ประสานกับศาล ขอแถลงต่อศาลว่ากรมอุตสาหกรรมโรงงานจะบำบัดเอง


ส่วนผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท เอ็นพีซี ที่มีประสบการณ์ดับไฟจากโรงงานหมิงตี้ 64 เคมิคอล ที่เข้ามาช่วยดับไฟ กล่าวว่า ตอนนี้ควบคุมไฟได้เกือบ 100% แล้วแต่ยังมีไฟที่ต้องกลบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตทับด้วยทราย เพื่อไม่ให้ไฟลุก และป้องกันฝนที่จะตกลงมาในอนาคต โดยจะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สารเคมีคุกรุ่น เมื่ออะลูมิเนียมดรอสเจอกับน้ำ จะทำให้เกิดสารแอมโมเนีย

จากนั้น นายเศรษฐา ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย ดูแลควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมจัดทำแผนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร และตำบลหนองบัว เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยา ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้ กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน และเร่งนำกากเคมีอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง แลเตรียมพร้อมรับมือแก้ปัญหาในช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่ โดยให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่น ๆ อีก

จากนั้นนายเศรษฐา ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับปลัดกระทรวง​อุตสาหกรรม นางสาวพิมพ์​ภัทรา ทุกและ​ นพ.พรหมินทร์ โดยใช้เวลาประมาณ​ 5 นาที

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินมารับหนังสือ จากผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ โดยเรียกร้องให้นายกฯรัฐมนตรีนำผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว และให้นำกากสารเคมีไปทำลายนอกพื้นที่ รวมไปถึงให้ย้ายอธิบดีกรมการอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดออก เนื่องจากเคยไปเรียกร้องปัญหานี้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม ระหว่างขบวนรถนายเศรษฐา เดินทางออกจากโรงงาน มีชาวบ้านชูป้ายขอให้นายกรัฐมนตรี เอาโรงงานนรกออกไป พร้อมป้ายระบุข้อความว่า “ให้นำขยะพิษเหล่านี้ออกไปจากหนองพะวา”, “นายกฯ มาทั้งทีมีเวลาให้ชาวบ้านแค่ 30 นาที”, “ วอนนายกฯ ช่วยที 10 ปีแสนทรมาน”.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ฉายาสภาปี67

ฉายาสภาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้าน วุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์”

สื่อสภาตั้งฉายาปี 67 สส. “เหลี่ยม(จน)ชิน” ด้านวุฒิสภา “เนวิ(น)เกเตอร์” ส่วน “วันนอร์” รูทีนตีนตุ๊กแก ประธานวุฒิฯ “ล็อกมง” ส่วนผู้นำฝ่ายค้านฯ “เท้งเต้ง”

มติกฤษฎีกา “กิตติรัตน์” คุณสมบัติไม่ผ่านนั่งประธานบอร์ด ธปท.

คณะกรรมการกฤษฎีกา 3 คณะ มีมติไม่ผ่านคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เป็นประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย