“เศรษฐา” ตรวจโรงงานเก็บกากสารเคมี จี้หาสาเหตุไฟไหม้

ระยอง 27 เม.ย.- “เศรษฐา” ลงพื้นที่ตรวจโรงงานเก็บกากสารเคมี จ.ระยอง จี้หาสาเหตุไฟไหม้ สั่งการแก้ปัญหา-เยียวยาประชาชน ชาวบ้านชูป้ายให้เอาโรงงานออกไป ฉะอธิบดีลงพื้นที่ช้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วินโพรเสส จำกัด ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง พร้อมด้วยนางสาวพิมพ์ภัทรา​ วิชัยกุล​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม​ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข​ และนายแพทย์ พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี​


ทันทีที่นายกรัฐมนตรีมาถึง ได้ลงพื้นที่รับฟังการรายงานการดำเนินการในพื้นที่​จากผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง​ ว่า​ ได้มีเจ้าหน้าที่สแตนบายตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไฟลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของไฟไหม้ว่าเกิดจากอะไร โดยต้องรอให้ไฟสงบและให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ โดยนายกรัฐมนตรีขอให้เร่งดำเนินการ​ ก่อนที่จะถามหาว่าอธิบดีกรมโรงงานอยู่ที่ไหน​ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ​ มีการลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้เมื่อไหร่​ ซึ่งอธิบดีกรมโรงงานตอบว่ามาเมื่อวานนี้ตอนเช้า​ ทำให้นายกรัฐมนตรีถามต่อว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อใด ทำไมจึงใช้ระยะเวลานานกว่าจะลงพื้นที่ ท่านเป็นอธิบดีกรมโรงงานน่าจะมาให้ไวกว่านี้​ เพราะนี่เป็นเรื่องซีเรียสว่า หากมีข้อสันนิษฐานว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าเกิดจากอุณหภูมิ​ที่สูง​ ตนขอฝากท่านไปดูต่อด้วยก็แล้วกัน โรงงานอื่นๆ ในลักษณะเช่นนี้หน้าร้อนอุณหภูมิสูงมาก หากเป็นไปได้อยากให้ตรวจสอบให้ดี

ทั้งนี้ นายเศรษฐา สั่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาคสอง ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งการไหม้รอบใหม่มักเกิดขึ้นในช่วงเช้า โดยขอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำหนดวัน และให้เร่งรัดสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ขณะที่พลตำรวจโทสมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า ขณะนี้ในเบื้องต้นกำลังจัดทำแผนที่คดี​ และดูว่า​มีวัตถุพยานอะไรบ้างแต่ต้องรอให้ เจ้าที่ตำรวจหรือมนุษย์สามารถเข้าไปยังพื้นที่ได้ด้วยความปลอดภัย นายกรัฐมนตรีจึงถามว่าเมื่อใดจึงจะปลอดภัยและสามารถเข้าไปได้ จึงรายงานว่า​ ขณะนี้ยังมีการปะทุของไฟอยู่ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นหนึ่งถึงสองวันนี้


ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ว่า เบื้องต้นได้อพยพคนจำนวน 78 คน จาก 2 ตำบล คือ ตำบาลบางบุตร และตำบลหนองบัว ไปศูนย์พักพิง ซึ่งตอนนี้เหลือ 39 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียง 4 คน โดยมีอาการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ และผู้ป่วยที่ผู้ป่วยติดเตียงได้รับการดูแลเป็นอย่างดียืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากการได้รับสารจากเหตุไฟไหม้ และหลังเพลิงสงบ จะเข้าไปดูว่ามีสารเคมีใดหลงเหลือบ้าง เพื่อหาวิธีกำจัด

ด้านนายวิเชียร สุขเกิด ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย บอกนายเศรษฐา ว่า ชาวบ้านไม่เชื่อผลค่าวัดอากาศของหน่วยงานราชการ และตั้งแต่เกิดเพลิงจนถึงวันนี้ ประชาชนยังไม่ได้รับข้อเท็จจริง และชาวบ้านต้องอพยพออกจากพื้นที่

อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม รายงานว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2556 โดยในปี 2564 ศาลพิพากษาให้บริษัทกำจัดศาลเคมี โดยมีการจ้างบริษัทเอสเค ให้เริ่มขนย้ายในปี 66 แต่เมื่อหมดสัญญาแล้ว งานยังไม่แล้วเสร็จ กรมอุตสาหกรรมจะเข้ามากำจัดกากเคมีเอง โดยเมื่อวานนี้ได้ไปร้องอัยการเพื่อให้ประสานกับศาล ขอแถลงต่อศาลว่ากรมอุตสาหกรรมโรงงานจะบำบัดเอง


ส่วนผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท เอ็นพีซี ที่มีประสบการณ์ดับไฟจากโรงงานหมิงตี้ 64 เคมิคอล ที่เข้ามาช่วยดับไฟ กล่าวว่า ตอนนี้ควบคุมไฟได้เกือบ 100% แล้วแต่ยังมีไฟที่ต้องกลบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตทับด้วยทราย เพื่อไม่ให้ไฟลุก และป้องกันฝนที่จะตกลงมาในอนาคต โดยจะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สารเคมีคุกรุ่น เมื่ออะลูมิเนียมดรอสเจอกับน้ำ จะทำให้เกิดสารแอมโมเนีย

จากนั้น นายเศรษฐา ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทย และกรมป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย ดูแลควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมจัดทำแผนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตร และตำบลหนองบัว เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยา ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และให้ กรมควบคุมมลพิษ และกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชน และรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน และเร่งนำกากเคมีอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง แลเตรียมพร้อมรับมือแก้ปัญหาในช่วงฤดูฝน ที่อาจจะมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่ โดยให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม กำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด บูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่น ๆ อีก

จากนั้นนายเศรษฐา ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับปลัดกระทรวง​อุตสาหกรรม นางสาวพิมพ์​ภัทรา ทุกและ​ นพ.พรหมินทร์ โดยใช้เวลาประมาณ​ 5 นาที

จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินมารับหนังสือ จากผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ โดยเรียกร้องให้นายกฯรัฐมนตรีนำผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว และให้นำกากสารเคมีไปทำลายนอกพื้นที่ รวมไปถึงให้ย้ายอธิบดีกรมการอุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมจังหวัดออก เนื่องจากเคยไปเรียกร้องปัญหานี้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

อย่างไรก็ตาม ระหว่างขบวนรถนายเศรษฐา เดินทางออกจากโรงงาน มีชาวบ้านชูป้ายขอให้นายกรัฐมนตรี เอาโรงงานนรกออกไป พร้อมป้ายระบุข้อความว่า “ให้นำขยะพิษเหล่านี้ออกไปจากหนองพะวา”, “นายกฯ มาทั้งทีมีเวลาให้ชาวบ้านแค่ 30 นาที”, “ วอนนายกฯ ช่วยที 10 ปีแสนทรมาน”.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]