ก.ดีอี บูรณาการปราบเว็บพนันออนไลน์

ทำเนียบ 27 เม.ย.-“เกณิกา” เผยกระทรวงดีอี บูรณาการร่วมหลายหน่วยงาน เร่งปราบเว็บพนันออนไลน์ แก้ปัญหาบัญชีม้า-ซิมม้า พร้อมขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เดินหน้าดำเนินนโยบายปราบเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบอาชกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อทำงานอย่างบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงาน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กสทช. ปปง. กลต. ดีเอสไอ ธปท. เป็นต้น


โดยมีแนวทางการแก้ปัญหาสำคัญ เช่น มาตรการแก้ไขปัญหาบัญชีม้า เพื่อเร่งรัดกวาดล้างบัญชีที่ต้องสงสัยและบัญชีม้าในระบบธนาคาร โดยสมาคมธนาคารไทยสถาบันการเงิน ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยเร่งทำการตรวจสอบเหตุต้องสงสัย 19 ข้อ และทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีต้องสงสัยระหว่างธนาคาร เพื่อระบุและทำการระงับบัญชีธนาคาร ซึ่งที่ผ่านมามีการระงับไปแล้ว 3-4 แสนบัญชี ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. ได้ดำเนินการปิดบัญชีม้าไปแล้ว 318,298 บัญชี และศูนย์ AOC ระงับหรือปิดไปแล้ว 112,699 บัญชี และอีกมาตรการที่สำคัญคือ การอายัดบัญชีทันทีกรณีที่ผู้เสียหายแจ้งเหตุกับ AOC 1441 และผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์เรียบร้อยแล้ว จากเดิมระงับชั่วคราว 3 วันและต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

น.ส.เกณิกา กล่าวต่อว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังได้กวาดล้างซิมต้องสงสัยและซิมม้า โดยทาง กสทช.ได้กำหนดหลักเกณฑ์ในการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนสำหรับผู้ถือครองซิมการ์ด นอกจากนี้ ในส่วนของ สตช. และกระทรวงดีอีได้ประสานเพื่อระงับซิมม้า หรือซิมต้องสงสัยไปแล้วกว่า 8 แสนหมายเลข โดยนายประเสริฐ ได้สั่งการให้เข้มงวดในการเปิดใช้ซิมใหม่เพื่อป้องกันการนำซิมไปใช้กระทำผิดกฎหมาย


ในส่วนของเว็บพนันมีศูนย์กลางใหญ่อยู่ต่างประเทศ นั้น น.ส.เกณิกา กล่าวว่า กระทรวงดีอี สตช. กต. มท. บูรณาการประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์เชิงรุก โดยเคร่งครัดการตรวจสอบบุคคลเข้าออก และการเข้าออกผ่านช่องทางธรรมชาติ เพื่อลดปัญหาการเดินทางไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงการขนเงินออกนอกประเทศ และสนับสนุนการประสานงานเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านในประเด็นการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ รวมถึงอาชญากรรมออนไลน์อื่นๆ ด้วย

“จากข้อมูลช่วงระหว่างตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 5 มีนาคม 2567  กระทรวงดีอีได้ทำการระงับข้อมูลที่ไม่เหมาะสมทุกประเภทไปแล้วจำนวน 60,681 รายการ โดยปิดกั้นเว็บไซต์เกี่ยวกับพนันออนไลน์ จำนวน 25,571 รายการ เพิ่มขึ้น 13 เท่าตัวจาก 2,059 เว็บ ในช่วงเวลาเดียวกันปี 2566“น.ส.เกณิกา กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก