เตือนอากาศร้อนเสี่ยงฮีทสโตรก

ทำเนียบ วันนี้  (  26 เม.ย.)    รัฐบาลเตือนประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ   จากสภาพอากาศที่ยังร้อนจัด  แนะกลุ่มเสี่ยงเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งช่วงที่อากาศร้อนจัด เน้นดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ ลดความเสี่ยงฮีทสโตรก


นายชัย วัชรงค์   โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีสภาพอากาศที่ร้อนจัดต่อเนื่อง    โดยกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 25 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2567 ระบุว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน   ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไป   กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวันตลอดช่วง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด    โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นเวลานานตลอดช่วง    รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณสุข ก็ได้ออกมาย้ำคำเตือน แนะนำให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงนี้   เพื่อลดความเสี่ยงอาจป่วยด้วยโรคลมร้อน (Heat stroke) ที่อาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี    กล่าวถึงข้อมูลกรมอนามัย  ระบุว่าในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนสุดๆ จะยิ่งทำให้เรากระหายน้ำมากขึ้น   ซึ่งน้ำดื่มที่ดีที่สุดคือน้ำเปล่าสะอาด โดยไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องชูกำลัง  ชา กาแฟ น้ำอัดลม  อีกทั้งไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์จะส่งผลให้ร่างกายขาดน้ำ   โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนกลางวันอากาศร้อนจัด เสี่ยงต่อการป่วยจากความร้อนได้  และการดื่มน้ำให้เพียงพอจึงเป็นสิ่งสำคัญมากในช่วงสภาพอากาศที่ร้อนจัด โดยกรมอนามัยมีวิธีสังเกตจากสีของปัสสาวะให้ทุกคนไปลองเช็คตัวเอง คือ  สีเหลืองอ่อน = ดื่มน้ำอย่างเพียงพอแล้ว    เริ่มมีสีเหลืองเข้ม = ร่างกายเริ่มขาดน้ำ ควรดื่มน้ำมากขึ้น    สีเหลืองเข้ม = ร่างกายขาดน้ำ ควรดื่มน้ำบ่อย ๆ  สีเหลืองเข้มจัดอมส้มเข้ม = ร่างกายขาดน้ำรุนแรง ควรดื่มน้ำทันที  อย่างไรก็ตาม กรมอนามัยแนะนำว่าไม่ว่าสภาพอากาศแบบใด ทุกคนก็ควรดื่มน้ำให้เพียงพอหรือประมาณ 8-10 แก้วต่อวัน


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   ยังกล่าวว่า ขณะที่โฆษกกรมควบคุมโรค ได้เผยข้อมูลสถานการณ์โรคลมร้อน (Heat stroke)   ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2567 ระบุว่า เพียง 2 เดือน พบผู้เสียชีวิตแล้ว 30 ราย    เทียบปี 2566 ช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน 4 เดือนเสียชีวิต 37 ราย    โดยปีนี้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 2 เท่า    สำหรับโรคฮีทสโตรก เกิดจากภาวะร่างกายร้อนจัดจนส่งผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ เป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้   กลุ่มเสี่ยงเป็นผู้สูงอายุ เด็กเล็กวัยทารกถึงอนุบาล   เนื่องจากระบบระบายอากาศในร่างกายยังไม่สมบูรณ์ กลุ่มที่มีโรคเรื้อรัง เช่น  โรคหัวใจ โรคปอด โรคอ้วน   รวมถึงอาชีพเสี่ยงทั้งในกลุ่มคนทำงานกลางแจ้ง ทหาร ตำรวจ และ รปภ. เป็นต้น  

 จึงแนะนำให้ควรลดกิจกรรมช่วงเวลา 11.00 น. ไปจนถึง 15.00 น. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง ถ้าต้องออกไปข้างนอก ให้ดื่มน้ำบ่อย ๆ ทุกชั่วโมง   เสียเหงื่อมากดื่มน้ำเกลือแร่เพิ่มขึ้น ให้หลีกเลี่ยงช่วงอากาศร้อนจัด   สวมเสื้อผ้าระบายความร้อน ระบายอากาศได้ดี มีสีอ่อน    ทั้งนี้ ประชาชนสามารถสังเกตอาการได้ หากหน้ามืด เวียนศีรษะ คลื่นไส้ หายใจเร็ว ใจสั่น หน้าแดง เหงื่อไม่ค่อยออก   เป็นอาการเตือนความเสี่ยงฮีทสโตรก ต้องรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น รีบพาเข้าพักในที่อุณหภูมิเย็น อากาศถ่ายเท ใช้น้ำเย็นหรือน้ำแข็งประคบตามซอกพับ หน้าผาก คลายเสื้อผ้า ดื่มน้ำถ้ายังมีสติ ถ้าไม่มีน้ำเย็นให้ดื่มน้ำธรรมดาเพื่อระบายความร้อน ถ้าหมดสติให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

“รัฐบาลโดยหน่วยงานด้านสาธารณสุข ห่วงใยสุขภาพประชาชนทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่ทุกภาคของประเทศไทยยังคงมีสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสาร ทำตามคำแนะนำของทางราชการ ย้ำว่าให้ดื่มน้ำบ่อย ๆ รวมทั้งลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หลีกเลี่ยงการออกแดดเป็นเวลานาน ควรอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ควรใส่เสื้อผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี รวมไปถึงออกกำลังกายอย่างเหมาะสมกับร่างกาย ไม่หักโหมเกินไป ระวังอาการฮีทสโตรก และห้ามทิ้งใครไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแดด รถที่จอดตากแดดโดยไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ อาจมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้เร็วมากภายใน 10-20 นาที”  นายชัย กล่าว .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย