“สุวัจน์”จัดประชุมใหญ่ กลับมาใช้ชื่อ “ชาติพัฒนา“ตามเดิม

จ.นครราชสีมา 25 เม.ย.-“สุวัจน์” จัดประชุมใหญ่เลือก กก.บริหารพรรค-เปลี่ยนชื่อพรรคกลับมาใช้ชื่อเดิม “ชาติพัฒนา“


โรงแรมแคนทารี จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิกพรรค ประจำปี 2567 โดยในที่ประชุมมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานประชุม พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบรายบัญชี นายประสาท ตันประเสริฐ เลขาธิการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และ สมาชิกของพรรคเข้าร่วม

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า เป็นการประชุมใหญ่สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยมีเรื่องสําคัญ เรื่องแรกคือ พรรคได้แจ้งให้สมาชิกพรรคได้ทราบถึงการดำเนินการของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้บริการจัดตั้งรัฐบาล แล้วหัวหน้าพรรคได้ไปช่วยงานนายกฯในตําแหน่งที่ปรึกษา คุณวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค ไปช่วยงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี นอกจากนั้นก็ได้รายงานให้ที่ประชุมได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เข้าไปมีส่วนร่วม


นอกจากนั้น ได้รายงานให้สมาชิกพรรคได้ทราบเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้น ที่ได้ช่วยกันสนับสนุนผลักดัน เช่น โครงการแก้ไขน้ำประปาขาดแคลน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมา 1,900 ล้านบาท ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ของจังหวัดนครราชสีมา และรายงานให้ทราบถึงการเปิดมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงกับพี่น้องประชาชนภาคอีสาน อย่างสงกรานต์ปีนี้ในถนนมิตรภาพ สถิติอุบัติเหตุต่างๆ ก็ลดลง และพี่น้องประชาชนเดินทางได้รวดเร็ว ที่เปิดเพียงครึ่งหนึ่ง รวมทั้งได้รายงานให้ทราบถึงการดําเนินการในส่วนของการสนับสนุนเรื่อง ชอฟต์พาวเวอร์ เรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ร่วมกันดําเนินการอันนี้เป็นเรื่องภาพรวม

เรื่องที่สอง คือ เรื่องของการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคที่ว่างลง เนื่องจากมีรองหัวหน้าพรรค  ได้ลาออกไป วันนี้ได้มีการแต่งตั้งสองตำแหน่ง คือ ส.ส.วุฒิพงศ์ทองหลา สส.จังหวัดปราจีนบุรี ที่ประชุมเห็นชอบมีมติให้ดํารงตําแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และ ดร.อรัญ พันธุมจินดา เดิมเป็นรองเลขาธิการพรรค ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค

ส่วนเรื่องที่ 3 ได้หารือกันในเรื่องความเหมาะสมของชื่อพรรค คือ ก่อนการเลือกตั้งได้มีการเปลี่ยนจากชาติพัฒนา เป็นชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เลือกตั้งแล้วเสร็จ วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญ ได้มีเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคอยากให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในมุมมองแตกต่าง ในเรื่องของชื่อพรรค ซึ่งได้สอบถามสมาชิกพรรค ได้เห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าอยากจะให้ทางพรรคได้กลับมาใช้ชื่อเดิม เปลี่ยนจากชาติพัฒนากล้า เป็น พรรคชาติพัฒนา โดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงมีมติ ว่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นชื่อเดิมคือ พรรคชาติพัฒนา ซึ่งต้องไปแก้ไขข้อบังคับ


ในส่วนโลโก้ อักษรชื่อ ช้างไขว้ เหมือนเดิมมีปรับองศานิดหน่อย วันนี้ขึ้นคำว่า ”พรรคชาติพัฒนา 2567 Re-Start-Up” เพื่อแสดงผลงานให้พี่น้องประชาชนฟังว่า สส.พรรคชาติพัฒนาทุกคนมีบทบาทในสภาหมด

นายสุวัจน์ กล่าวว่าเป็นจุดเริ่มต้นกลับมา Re-Start-Up ต้องทำงานกันด้วยวิสัยทัศน์ ด้วยนโยบายอะไรใหม่ๆ  โดยเฉพาะการที่ได้คนใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทํางาน อย่างสนามท้องถิ่นทีมโคราชชาติพัฒนา สท.สจ. ที่เป็นฐานเก่าๆ ต้องรักษาฐานที่มั่น ทำงานกันต่อไป เมื่อกลับมาใช้ชื่อเดิม ”ชาติพัฒนา“ จะเป็นการสร้างขวัญกําลังใจ เหมือนคนเรา เปลี่ยนชื่อ ก็รู้สึกว่าดีขึ้น มั่นใจ โชคดีขึ้น เป็นสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนโคราช วันนี้ในที่ประชุม 300 กว่าคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชาติพัฒนากลับมาอยู่ในหัวใจ วันนี้ก็เอาหัวใจกลับคืน เปลี่ยนชื่อเป็น ชาติพัฒนา คิดว่าเป็นขวัญกําลังใจที่ดี ในการที่จะสร้างการทํางานที่จังหวัดนครราชสีมาให้เข้มแข็งขึ้น

ฉะนั้น เราคงต้องทํางานกันอย่างเข้มแข็ง สมาชิกคนรุ่นใหม่ อย่าง สส.วุฒิพงศ์ ถือว่าเป็นคนหนุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไฟแรง หรือ ดร.อรัญ รองหัวหน้าพรรคก็เป็นคนรุ่นใหม่ ดังนั้น ตอนนี้พรรคพยายามที่จะเปิดโอกาสให้กว้าง รับสมาชิกพรรคใหม่ๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้คนในพรรคได้เติบโตขึ้นมาอยู่ในตําแหน่งบริหารที่สูงขึ้น  เพื่อเป็นการเข้ามาช่วยกันใช้กําลังใช้ความคิดใหม่ๆ เข้ามาช่วยกันปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น

ส่วนในเดือนมิถุนายนนี้  ครม.สัญจร ที่โคราช ถือเป็นโอกาสดีที่นายกฯ  ครม.จะมาประชุมโคราช  พี่น้องประชาชนชาวโคราช ก็ควรต้อนรับ แล้วก็คงจะมีข่าวดีๆ อะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาโคราช ทางพรรคยินดีต้อนรับ และสนับสนุน นโยบาย อะไรที่ดีๆ ก็จะได้มีโอกาสนําเสนอคณะรัฐมนตรี ตามทีจะเห็นเหมาะสม

ส่วนเรื่องการปรับ ครม. นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อไหร่ และเห็นว่าการปรับรัฐมนตรีนั้น จะทําให้การทํางานในการพัฒนาประเทศหรือการแก้ไขปัญหาของประชาชนดีขึ้น  เพราะถ้าปรับแล้ว ตนเชื่อว่า ประชาชนก็ต้องคิดว่าปรับแล้วดีขึ้น ได้คนเก่งขึ้น ได้คนดีขึ้น การทํางานกระจับกระเฉ่งขึ้น อันนี้คือ ความคาดหวังของประชาชน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ขอโทษ อ้างป้องกันตัว

กรุงเทพฯ 3 ส.ค. – มือมีดทำร้าย “เป๊ก ผลิตโชค” ยืนยันไม่ได้ตั้งใจเอามีดฟัน อ้างไม่ใช่คู่กรณี แต่เห็นคนทะเลาะกัน เลยเข้าไปห้าม แต่ “เป๊ก” ปรี่เข้าหา จึงชักมีดพกขึ้นมาป้องกันตัว อยากขอโทษ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 01.30 น. พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกมีดฟันบาดเจ็บในปั๊มน้ำมันซอยรามคำแหง 76 เขตบางกะปิ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับสายตรวจและอาสากู้ภัย พบคนเจ็บคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร อายุ 40 ปี ดารานักร้องชื่อดัง ถูกมีดฟันใต้คางเป็นแผลฉกรรจ์ ทำให้ต้องเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนพาตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้ก่อเหตุคือ นายชุติเทพ อายุ 21 ปี ไม่ได้หนีไปไหน ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมอาวุธมีดยาว 20 เซนติเมตร ที่ใช้ฟันเป๊ก ผลิตโชค ตำรวจจึงคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นนายชุติเทพ ให้การอ้างขับรถไปรับแฟนออกจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน แต่ขณะแวะปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เห็นมีคนกำลังทะเลาะกัน คล้ายมีอาการมึนเมา อยู่ท้ายรถกระบะ ตนเองจึงเข้าไปช่วยเคลียร์ […]

ทบ.แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา

กองทัพบก 3 ส.ค. – โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่า กองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชา ก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง ปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่. – สำนักข่าวไทย

พระราชทานเพลิงศพ 7 ผู้วายชนม์ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

3 ส.ค. – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา วันนี้ ครอบครัวและญาติทำพิธีฌาปนกิจผู้เสียชีวิต 7 ราย จากเหตุกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้า เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี เชิญกล่องเพลิงพระราชทาน ผ้าไตรพระราชทาน และช่อดอกไม้จันทน์พระราชทาน มายังศาลาพุทธคุณ วัดมหาพุทธาราม พระอารามหลวง ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ เพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จากนั้นมีการอ่านหมายรับสั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการพระราชทานเพลิงศพผู้วายชนม์ 7 ราย ได้แก่ นางสาวรุ่งรัศ, เด็กหญิงทักษพร, เด็กชายพงศภัค, เด็กชายกิตติศักดิ์, นางสาวสาวิตรี, นางอรุณรัตน์ และนายสมศรี โดยมี 5 ราย เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมัน อ.กันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนอีก […]

คนร้ายยิง M16 ถล่มกำนัน ต.นาวง ดับคากระบะ

ตรัง 3 ส.ค. – ตำรวจ สภ.ห้วยยอด พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ตรวจสอบรถกระบะกำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังถูกคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่ม เสียชีวิตหน้าบ้านพัก เบื้องต้นตำรวจตั้งปมขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก คืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืน M16 ยิงถล่มรถกระบะนายบัณฑิต กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิตหน้าบ้านพักเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยยอด ประสานพิสูจน์หลักฐาน พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดศรีตรัง เข้าตรวจสอบรถกระบะของผู้เสียชีวิต พบถูกกระสุนปืน M16 ยิงใส่รถรวม 15 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นขัดแย้งส่วนตัว มุ่งเอาชีวิตเป็นหลัก เนื่องจากสภาพศพกระสุนปืนเข้าที่อวัยวะสำคัญ ทั้งศีรษะและลำตัวฝั่งขวาหลายนัด แต่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นๆ ที่อาจเกี่ยวข้องทิ้ง ทั้ง รื่องพิพาทผลประโยชน์สวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่วังวิเศษ หรือความเชื่อมโยงกับคดีลอบสังหาร “ทนายเหว่า” ซึ่งอยู่ระหว่างสืบสวนเชิงลึก และอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายจับ ผู้เกี่ยวข้องต่อไป.-สำนักข่าวไทย