“สุวัจน์”จัดประชุมใหญ่ กลับมาใช้ชื่อ “ชาติพัฒนา“ตามเดิม

จ.นครราชสีมา 25 เม.ย.-“สุวัจน์” จัดประชุมใหญ่เลือก กก.บริหารพรรค-เปลี่ยนชื่อพรรคกลับมาใช้ชื่อเดิม “ชาติพัฒนา“


โรงแรมแคนทารี จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิกพรรค ประจำปี 2567 โดยในที่ประชุมมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เป็นประธานประชุม พร้อมแกนนำพรรคและกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรค และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบรายบัญชี นายประสาท ตันประเสริฐ เลขาธิการพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และ สมาชิกของพรรคเข้าร่วม

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมว่า เป็นการประชุมใหญ่สามัญของพรรคชาติพัฒนากล้า โดยมีเรื่องสําคัญ เรื่องแรกคือ พรรคได้แจ้งให้สมาชิกพรรคได้ทราบถึงการดำเนินการของพรรคชาติพัฒนากล้าที่ผ่านมา ตั้งแต่เข้าร่วมรัฐบาล สนับสนุนให้บริการจัดตั้งรัฐบาล แล้วหัวหน้าพรรคได้ไปช่วยงานนายกฯในตําแหน่งที่ปรึกษา คุณวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค ไปช่วยงานรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ในตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี นอกจากนั้นก็ได้รายงานให้ที่ประชุมได้ทราบถึงความคืบหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลที่พรรคชาติพัฒนากล้า ได้เข้าไปมีส่วนร่วม


นอกจากนั้น ได้รายงานให้สมาชิกพรรคได้ทราบเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้น ที่ได้ช่วยกันสนับสนุนผลักดัน เช่น โครงการแก้ไขน้ำประปาขาดแคลน ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมา 1,900 ล้านบาท ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ของจังหวัดนครราชสีมา และรายงานให้ทราบถึงการเปิดมอเตอร์เวย์ ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงกับพี่น้องประชาชนภาคอีสาน อย่างสงกรานต์ปีนี้ในถนนมิตรภาพ สถิติอุบัติเหตุต่างๆ ก็ลดลง และพี่น้องประชาชนเดินทางได้รวดเร็ว ที่เปิดเพียงครึ่งหนึ่ง รวมทั้งได้รายงานให้ทราบถึงการดําเนินการในส่วนของการสนับสนุนเรื่อง ชอฟต์พาวเวอร์ เรื่องการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ร่วมกันดําเนินการอันนี้เป็นเรื่องภาพรวม

เรื่องที่สอง คือ เรื่องของการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคที่ว่างลง เนื่องจากมีรองหัวหน้าพรรค  ได้ลาออกไป วันนี้ได้มีการแต่งตั้งสองตำแหน่ง คือ ส.ส.วุฒิพงศ์ทองหลา สส.จังหวัดปราจีนบุรี ที่ประชุมเห็นชอบมีมติให้ดํารงตําแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา และ ดร.อรัญ พันธุมจินดา เดิมเป็นรองเลขาธิการพรรค ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าพรรค

ส่วนเรื่องที่ 3 ได้หารือกันในเรื่องความเหมาะสมของชื่อพรรค คือ ก่อนการเลือกตั้งได้มีการเปลี่ยนจากชาติพัฒนา เป็นชาติพัฒนากล้า ตอนนี้เลือกตั้งแล้วเสร็จ วันนี้เป็นการประชุมใหญ่สามัญ ได้มีเสียงสะท้อนจากสมาชิกพรรคอยากให้ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในมุมมองแตกต่าง ในเรื่องของชื่อพรรค ซึ่งได้สอบถามสมาชิกพรรค ได้เห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าอยากจะให้ทางพรรคได้กลับมาใช้ชื่อเดิม เปลี่ยนจากชาติพัฒนากล้า เป็น พรรคชาติพัฒนา โดยไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงมีมติ ว่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคชาติพัฒนากล้า มาเป็นชื่อเดิมคือ พรรคชาติพัฒนา ซึ่งต้องไปแก้ไขข้อบังคับ


ในส่วนโลโก้ อักษรชื่อ ช้างไขว้ เหมือนเดิมมีปรับองศานิดหน่อย วันนี้ขึ้นคำว่า ”พรรคชาติพัฒนา 2567 Re-Start-Up” เพื่อแสดงผลงานให้พี่น้องประชาชนฟังว่า สส.พรรคชาติพัฒนาทุกคนมีบทบาทในสภาหมด

นายสุวัจน์ กล่าวว่าเป็นจุดเริ่มต้นกลับมา Re-Start-Up ต้องทำงานกันด้วยวิสัยทัศน์ ด้วยนโยบายอะไรใหม่ๆ  โดยเฉพาะการที่ได้คนใหม่ๆ เข้ามาร่วมกันทํางาน อย่างสนามท้องถิ่นทีมโคราชชาติพัฒนา สท.สจ. ที่เป็นฐานเก่าๆ ต้องรักษาฐานที่มั่น ทำงานกันต่อไป เมื่อกลับมาใช้ชื่อเดิม ”ชาติพัฒนา“ จะเป็นการสร้างขวัญกําลังใจ เหมือนคนเรา เปลี่ยนชื่อ ก็รู้สึกว่าดีขึ้น มั่นใจ โชคดีขึ้น เป็นสิ่งที่คิดว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในใจของคนโคราช วันนี้ในที่ประชุม 300 กว่าคน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ชาติพัฒนากลับมาอยู่ในหัวใจ วันนี้ก็เอาหัวใจกลับคืน เปลี่ยนชื่อเป็น ชาติพัฒนา คิดว่าเป็นขวัญกําลังใจที่ดี ในการที่จะสร้างการทํางานที่จังหวัดนครราชสีมาให้เข้มแข็งขึ้น

ฉะนั้น เราคงต้องทํางานกันอย่างเข้มแข็ง สมาชิกคนรุ่นใหม่ อย่าง สส.วุฒิพงศ์ ถือว่าเป็นคนหนุ่มคนรุ่นใหม่ที่ไฟแรง หรือ ดร.อรัญ รองหัวหน้าพรรคก็เป็นคนรุ่นใหม่ ดังนั้น ตอนนี้พรรคพยายามที่จะเปิดโอกาสให้กว้าง รับสมาชิกพรรคใหม่ๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ให้คนในพรรคได้เติบโตขึ้นมาอยู่ในตําแหน่งบริหารที่สูงขึ้น  เพื่อเป็นการเข้ามาช่วยกันใช้กําลังใช้ความคิดใหม่ๆ เข้ามาช่วยกันปรับปรุงพรรคให้ดีขึ้น

ส่วนในเดือนมิถุนายนนี้  ครม.สัญจร ที่โคราช ถือเป็นโอกาสดีที่นายกฯ  ครม.จะมาประชุมโคราช  พี่น้องประชาชนชาวโคราช ก็ควรต้อนรับ แล้วก็คงจะมีข่าวดีๆ อะไรที่เกี่ยวกับการพัฒนาโคราช ทางพรรคยินดีต้อนรับ และสนับสนุน นโยบาย อะไรที่ดีๆ ก็จะได้มีโอกาสนําเสนอคณะรัฐมนตรี ตามทีจะเห็นเหมาะสม

ส่วนเรื่องการปรับ ครม. นายสุวัจน์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะปรับเมื่อไหร่ และเห็นว่าการปรับรัฐมนตรีนั้น จะทําให้การทํางานในการพัฒนาประเทศหรือการแก้ไขปัญหาของประชาชนดีขึ้น  เพราะถ้าปรับแล้ว ตนเชื่อว่า ประชาชนก็ต้องคิดว่าปรับแล้วดีขึ้น ได้คนเก่งขึ้น ได้คนดีขึ้น การทํางานกระจับกระเฉ่งขึ้น อันนี้คือ ความคาดหวังของประชาชน.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษทำเข้าใจคลาดเคลื่อน ปมเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน

สระแก้ว 24 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว ขอโทษที่ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน กรณีเอกสารสิทธิ์ที่ดินบ้านหนองจาน ยืนยันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในราชอาณาจักรไทย ให้ประชาชนผู้มีหลักฐานยื่นคำขอออกโฉนดที่ดินได้ วันที่ 23 ส.ค.68 เพจ สวท.สระแก้ว เผยแพร่สารจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ชี้แจงกรณีเอกสารสิทธิ์ชาวบ้านหนองจาน อ.โคกสูง ระบุว่า ผมกราบขอโทษพี่น้องประชาชนทุกท่าน ที่ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกรณีพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง ทั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า พื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง อยู่ในราชอาณาจักรไทย ประชาชนผู้มีหลักฐานแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) ใบจอง (ส.ค.2) และหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) บริเวณบ้านหนองจาน และบริเวณหลักเขตแดนที่ 45-49 สามารถยื่นคำขอออกโฉนดที่ดิน ต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานที่ดินจังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศได้ โดยเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่มีสิทธิทุกราย ภายใต้อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด.-สำนักข่าวไทย

พายุ “คาจิกิ” แนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค. ฝนหนักหลายพื้นที่

กทม. 24 ส.ค.-กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 พายุ “คาจิกิ” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น เตือน 24-27 ส.ค.68 ไทยฝนเพิ่มมากขึ้น ตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่กับมีลมแรง บริเวณอีสานตอนบน ภาคเหนือ กลาง ตะวันออก และใต้ฝั่งตะวันตก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 7 เรื่อง พายุ “คาจิกิ” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (24 ส.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 570 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 17.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 112 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น […]

กู้ซากคานสะพานลอยคนข้ามพังถล่ม เปิดการจราจรแล้ว

23 ส.ค. – เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุคานสะพานลอยคนข้ามขนาดใหญ่ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มูลค่าเกือบ 7 ล้านบาท พังถล่มลงมากีดขวางถนน สาย 317 จันทบุรี–สระแก้ว ล่าสุดกู้ซากคานสะพานลอย ออกจากถนน และเปิดการจราจรได้ตามปกติแล้ว เหตุคานสะพานลอยถล่ม บริเวณพื้นที่ก่อสร้างสะพานลอยข้ามถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว ระหว่างฝั่งขาเข้าเมือง บ้านมะทาย ต.ปัถวี ข้ามไปยังตลาดกลางเทศบาลตำบลมะขามเมืองใหม่ อ.มะขาม จ.จันทบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ที่ผ่านมา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดผลกระทบ สภาพการจราจรติดขัด ตลอดช่วงสายและบ่าย เป็นระยะทางยาวกว่า 1 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ได้ พยายามเร่งกู้ซากสะพานลอย ประสาน นำเครื่องจักรกลหนักทั้ง รถแบ็กโฮ 3 คัน รถแบ็กโฮหัวขุดเจาะ 2 คันและรถเครนใหญ่อีก 1 คัน ระดมลงพื้นที่เกิดเหตุ โดยบริษัทผู้รับเหมา ต้องใช้รถหัวขุดเจาะ 2 คัน ทำการขุดเจาะกระแทกแผ่นคอนกรีตให้แตก จนเหลือแต่เส้นเหล็กจากนั้นได้ใช้ชุดเชื่อมทำการใช้ไฟแก๊สตัดเหล็ก แยกชิ้นส่วนของคานคอนกรีตออก […]

ตามล่านักโทษชายหลบหนีเรือนจำนนทบุรี

นนทบุรี 23 ส.ค. – นักโทษเรือนจำนนทบุรีหลบหนี ขณะออกมาทำงานนอกเรือนจำ เจ้าหน้าที่พบชุดนักโทษ ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม กล้องวงจรปิด บันทึกเหตุการณ์ ช่วงบ่ายวันนี้ หลังตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับเเจ้งว่ามีนักโทษชายหลบหนีจากร้านหับเผย อ.เมือง จ.นนทบุรี ตรวจสอบเบื้องต้นทราบชื่อ นช.อนุชิต อายุ 29 ปี เป็นผู้ต้องขังกองนอกประจำร้านหับเผย ของเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ชุดที่หลบหนีสวมชุดสีส้มของเรือนจำ ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเรมเบสต้า สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร หลบหนี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบชุดที่นักโทษสวมใส่ถอดทิ้งไว้ใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ อยู่ระหว่างไล่ติดตาม สำหรับ นช.อนุชิต สุขสด ถูกตำรวจ สภ.บางบัวทอง จับกุมเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ข้อหาพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะในการกระทำผิด หลังจับกุม สภ.บางบัวทอง นำตัวส่งเรือนจำกลางจังหวัดนนทบุรี วันที่ 27 ธันวาคม 2567 ศาลตัดสินโทษจำคุก 1 ปี โดยจะพ้นโทษในวันที่ในวันที่ […]