ทำเนียบรัฐบาล 23 เม.ย.-“วราวุธ” แจง พม.สื่อสารคลาดเคลื่อน เงื่อนไขครอบครัวอุปถัมภ์ดูแลผู้สูงอายุ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงกรณีมีการเข้าใจผิด เงื่อนไขสำคัญในการพิจารณาเงินครอบครัวอุปถัมภ์ สำหรับการช่วยเหลือดูแลผู้สูงอายุยากจน ซึ่งไม่ได้ให้ทุกคนนั้น ว่า ตนเองต้องขออภัย หากการให้ข่าวก่อนหน้านี้ จากอธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ทำให้เกิดความสับสนเล็กน้อย
โดยตั้งแต่วันนี้ (23 เม.ย.) ถึง 15 พ.ค. จะเปิดรับคำขอรับเงินครอบครัวอุปถัมภ์ เพื่อดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งสามารถยื่นขอรับสิทธิตามภูมิลำเนา ได้ที่กรมกิจการผู้สูงอายุ หรือ พม.จังหวัด
นายวราวุธ ย้ำว่า งบประมาณที่กระทรวงฯ ได้รับในปี 67 ได้รับการสนับสนุนมาเพียง 1,107 ครอบครัวเท่านั้น ไม่สามารถครอบคลุมกับผู้สูงอายุทุกคนได้ แต่ในปีงบประมาณปี 68 เราจะติดต่อเพื่อขอให้ได้รับงบประมาณเพิ่มมากขึ้น แต่จะได้เท่าใดนั้น ต้องประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป นายวราวุธ กล่าวถึงเงื่อนไขสำหรับการได้รับเงินครอบครัวอุปถัมภ์ว่า จะต้องดูแลผู้สูงอายุมีฐานะยากจน ไม่มีผู้ดูแล เช่น ถูกทอดทิ้งอยู่เพียงลำพัง ผู้สูงอายุมีฐานะยากจน มีผู้ดูแล แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ เช่น บุตร หรือญาติที่ดูแลไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่เพียงพอ หรือต้องลาออกจากงานมาดูแล ขาดรายได้ประจำ ซึ่งผู้ดูแลผู้สูงอายุต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และผู้สูงอายุที่รอคิวเข้ารับบริการในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ หรือสถานสงเคราะห์ของรัฐ หรือมูลนิธิที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายนั้น ก็สามารถขอรับเงินจำนวน 2,000 บาทได้ แต่หากครอบครัวใดมีความจำเป็นมากกว่านั้น ก็อาจได้ถึง 3,000 บาทต่อครอบครัว ซึ่งจำนวนเงินนี้ก็จะได้ทุกเดือน ไม่ใช่ได้ครั้งเดียว แม้ข้ามปีงบประมาณก็ยังได้รับอยู่ แต่สิทธิ์เหล่านี้จะหมดไป เมื่อผู้สูงอายุนั้นเสียชีวิต หรือมีลูกหลานรับไปดูแล.-317.-สำนักข่าวไทย