ขอดูคำร้องคัดค้าน “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นสอบหนึ่งใน กรรมการ ป.ป.ช.

ป.ป.ช. 22 เม.ย.-เลขาฯ ป.ป.ช. ขอดูข้อเท็จจริงคำร้องคัดค้าน หลัง “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นสอบหนึ่งใน กรรมการ ป.ป.ช. เผยเพิ่งยื่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไม่ทราบเอกสารหลุดจากไหน โบ้ยเจ้าตัวปล่อยหรือไม่ ยัน ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย


นายนิวัติไชย เกษมมงคล  เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีหนังสือคัดค้านการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ  ป.ป.ช. จากพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า เราได้รับหนังสือมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการร้องคัดค้านในเรื่องอะไร

ส่วนเท่าที่ดูในเบื้องต้น มีการยื่นคัดค้านเรื่องอะไรบ้างนั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตนขอไปดูข้อกฎหมายก่อน เพราะเวลามีเรื่องกัน มันมีส่วนได้เสีย มีสาเหตุโกรธเคืองกัน สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเหตุคัดค้านตามข้อกฎหมาย


ส่วนจะต้องสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. คนดังกล่าวก่อนหรือไม่ นายนิวัติไชย  กล่าวว่า ต้องรับฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นเพียงแค่คำร้อง ต้องตรวจสอบคำร้องว่าระบุอย่างไร

เมื่อถามว่ามีสำนวนของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ อยู่ในป.ป.ช. ด้วย จะต้องกันคณะกรรมการป.ป.ช. คนนี้ออกหรือไม่ นายนิวัติไชย ย้ำว่า ต้องดูข้อเท็จจริงตามคำร้องก่อน เวลาเมื่อมีการไต่สวน มีการร้องคัดค้านเข้ามาอยู่เรื่อยๆ บางครั้งคำคัดค้านก็ฟังไม่ขึ้น ส่วนจะใช้กรอบเวลาในการพิจารณาเท่าไหร่นั้น ต้องดูว่าคำร้องที่ส่งมามีข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานอะไรบ้าง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะโอกาสที่คณะกรรมการป.ป.ช. ถูกคัดค้านก็มีเยอะ

เมื่อถามว่าต้องมีการกลับไปไล่ดูตั้งแต่กระบวนการสรรหาหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องกระบวนการสรรหาคงไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช.  ต้องไปอยู่กับคนที่เขาสรรหามา ป.ป.ช. รับผิดชอบเฉพาะกรณีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐ ว่าปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือทุจริตต่อหน้าที่ ส่วนกรณีการกล่าวหาคณะกรรมการป.ป.ช. ไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช. ต้องเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระอื่นที่จะต้องพิจารณา


ส่วนต้องเรียกสองบุคคลที่ถูกอ้างอิงในท้ายคำร้องมาพูดคุยหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ส่วนที่มีชื่อของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อยู่ในเอกสารนั้น ต้องไปดูว่าพลเอกประวิตร เป็นพยานในเรื่องอะไร ซึ่งก็เป็นแนวทางยืนยันว่า ยังไม่มีข้อยุติ ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง ยังไม่มีมีการไต่สวน คงต้องพิจารณาว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหามากี่เรื่อง หากได้รับผลกระทบอีกหลายคดี จะต้องไปดูในทุกๆ เรื่อง อย่างไรก็ตามหลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากพลตำรวจ สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการกรรมป.ป.ช. รายดังกล่าว ส่วนจะมีการส่งเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่นั้น ต้องดูข้อพิจารณาก่อนว่าป.ป.ช. มีอำนาจส่งเรื่องให้กับประธานสภาฯ หรือไม่ พร้อมย้ำว่ากระบวนการสรรหาเป็นเรื่องที่ทางสภาฯ จะต้องไปตรวจสอบกันเองว่าสรรหามาอย่างไร

ทั้งนี้ มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องคำร้องเรียนต้องดูที่ข้อเท็จจริง ตนถึงบอกว่าคณะกรรมการป.ป.ช. ก็ถูกกล่าวหาได้โดยง่าย

“วันนี้คณะกรรมการป.ป.ช. ทำอะไรปุ๊บ ก็ถูกอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้าน ผมถึงบอกว่ามันมีประจำอยู่แล้ว วันหนึ่งในการประชุมก็มีเรื่องการคัดค้านเข้ามาเยอะ ส่วนการคัดค้านเป็นไปตามข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบ เพราะเป็นคำร้องเท่านั้นเอง ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย” นายนิวัติไชย  กล่าว

เมื่อถามว่าการถ่วงเวลาในการพิจารณาคดีของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์หรือไม่นั้น นายนิวัติไชย  กล่าวว่า ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่ง เรื่องแต่ปัจจุบันเรื่องของการตรวจสอบก็ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ยังอยู่ในระดับชั้นของเจ้าหน้าที่ ถือว่ายังไม่กระทบ และยังไม่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีของ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กระแสข่าวว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ จะเดินทางมาในวันนี้(22 เม.ย.) ยังไม่ได้รับการประสานมา

ส่วนเอกสารหลุดออกมาได้อย่างไรนั้น เลขาฯ ป.ป.ช. ถามกลับว่า  ”ตัวเขาเอาไปให้ผู้สื่อข่าวเองหรือเปล่า ไม่ใช่ ป.ป.ช. แน่ๆ ผมไม่รู้นะอันนี้“

ส่วนกรณีคณะพนักงานสอบสวน ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ทำคดีเว็บพนัน BNK Master ได้ส่งสำนวนคดี ที่มีการกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีกสำนวนมาให้ ป.ป.ช. พิจารณาเมื่อวันศุกร์ที่ 19 เมษายนนั้น เลขา ป.ป.ช. กล่าวว่า เพิ่งยื่นเมื่อวันศุกร์ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา ยังคงไม่เร็วถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องไปไล่ดู ว่าอีกสำนวนหนึ่งหรือไม่ เพราะการกระทำมีหลายกรรม ต้องไปดูว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวกับเรื่องความผิดต่อหน้าที่หรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องทุจริตหรือไม่ หรือมีประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินหรือไม่ จึงต้องขอเวลาพิจารณาก่อน

ส่วนรายละเอียดในสำนวน มีข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินนั้นจะต้องรับไว้ดำเนินการเองหรือส่งสำนวนกลับไปให้ ตำรวจดำเนินการนั้น ก็คงต้องดูอีกทีและขอดูก่อนว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย