fbpx

เตือนคนไทยงดเว้นเดินทางไปยังอิสราเอล-อิหร่าน

18 เม.ย. – เตือนคนไทยให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่อิสราเอลและอิหร่าน รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่นและจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน


ตามที่มีรายงานข่าวการโจมตีอิหร่านในวันที่ 19 เมษายน 2567 โดยสถานการณ์ยังมีพัฒนาการและมีความไม่แน่นอนสูง นั้น วันนี้ (19 เมษายน 2567) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมทางไกลร่วมกับเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กรุงเตหะราน และกรุงอัมมาน เพื่อติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ รวมถึงการเตรียมการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยในอิสราเอลและอิหร่านได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

โดยที่ขณะนี้สถานการณ์ยังมีความเสี่ยงและมีพัฒนาการที่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ จึงขอแจ้งเตือนคนไทยให้พิจารณางดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข่าวสารของทางการท้องถิ่นและจากสถานเอกอัครราชทูตไทยทุกแห่ง โดยเฉพาะสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ และสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน


ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้หารือกับสถานเอกอัครราชทูตทั้งสองแห่งซึ่งได้ประสานทางการที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉินและหากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการอพยพช่วยเหลือคนไทย สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงนี้หากพี่น้องคนไทยต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือเร่งด่วน สามารถติดต่อได้ดังนี้

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ:
หมายเลขฉุกเฉิน : +972 546368150, +972 503673195
อีเมล์ : thaiembassy.tav@mfa.go.th
เฟสบุ๊ก: www.facebook.com/thaiembassytelaviv (ทุกเรื่องเมืองยิว)

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเตหะราน:
หมายเลขฉุกเฉิน : +98 912 500 7933, +98 912 159 8699
อีเมล์ : thaiembassy.thr@mfa.go.th
เฟสบุ๊ก: www.facebook.com/ThailandinIran
หรือ Call Center กรมการกงสุล 02 572 8442 (24 ชม.) .-312-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553