นายกฯ ตรวจเยี่ยมกรมทางหลวง-สงกรานต์รถจะติดกว่าปีใหม่ 20%

กรมทางหลวง 11 เม.ย.- นายกฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ กรมทางหลวง ขอบคุณจนท.เสียสละ ปิดทองหลังพระ ยอมรับ สงกรานต์รถจะติดกว่าปีใหม่ 20% เชื่อเปิด M6 ช่วยลดเวลาเดินทาง กำชับไม่ให้มีดื่มแล้วขับ


นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เดินทางเข้าตรวจติดตามสภาพการจราจรและตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ  กรมทางหลวง

โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวรายงานว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาท่องเที่ยวทำให้หลายเส้นทางมีปริมาณการจราจรหนาแน่นและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงสูงกว่าในช่วงปกติกรมทางหลวง ในฐานะผู้รับผิดชอบ ตระหนักในภารกิจสำคัญที่จะอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชน  ได้บูรณาการวางแผนลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและรองรับการเดินทางของประชาชนระหว่างวันที่ 12 – 17 เมษายน 2567  โดยช่วงคุมเข้ม 7 วัน ระหว่าง วันที่ 11 – 17 เมษายน มีการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามดูแลสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดเส้นทางและตลอดช่วงสงกรานต์นี้ โดยกรมทางหลวง คาดการณ์ว่า วันที่ 12 เมษายน จะมีปริมาณรถขาออกจากกรุงเทพฯ มากที่สุด ประมาณกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งจะมีการเปิดช่องทางพิเศษเพิ่มทุกเส้นทางหลักไปอีสาน ถนนสายมิตรภาพ และสายเอเชีย ขึ้นภาคเหนือ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตั้งด่านตรวจวัดความเร็วและตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตลอดเส้นทาง  พร้อมเปิดสายด่วน 1356 รับ เรื่องร้องเรียนและอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง


นายเศรษฐา กล่าวว่า กรมทางหลวง เป็นหน่วยงานที่ได้รับคำชมเชยอย่างมากเพราะปิดทองหลังพระมาโดยตลอด  เช่นเทศกาลปีใหม่ แทนที่จะได้อยู่กับครอบครัว ไปเที่ยวสนุกสนาน ก็ต้องมาอยู่ที่นี่ เพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาจำนวนรถติดน้อยลง และผู้เสียชีวิตลดน้อยลงไปมาก เป็นเรื่องที่ทุกคนใส่ใจอยู่ตลอดเวลา และเป็นเรื่องที่เราควรต้องขยายผล  โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์ M6 ซึ่งตัดสินใจเปิดชั่วคราวก็ช่วยทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขมากแทนที่จะมาติดรถเป็น 10 ชั่วโมง สามารถกลับไปเยี่ยมบรรพบุรุษ หรือไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมง หรือการซ่อมถนนพระราม 2 ซึ่งดำเนินการมา 50 ปีแล้ว ก็มีแผนชัดเจนว่าจะเสร็จภายในสิ้นปีหน้า ระหว่างนี้จะมีแผนงานระยะสั้น เพื่อจะรองรับการจราจรในบริเวณดังกล่าว

ช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดการณ์ไว้ว่าการจราจรจะติดมากขึ้นจากช่วงปีใหม่ ตนมั่นใจว่าในการจัดการที่ดี ใส่ใจในทุกๆ ปัญหา การจราจรก็จะไม่ติดมากเท่าที่คิด  รัฐบาลขอขอบคุณกรมทางหลวง และหน่วยงานที่ดูแลระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นท่าอากาศยาน การท่าเรือ รถ บขส. หรือ รถไฟ รวมถึงฝ่ายความมั่นคงที่ช่วยกันดูแลและลงทุกรายละเอียดแก้ไขปัญหาอย่างตลอด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการ

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณเพิ่มเติมว่า วันนี้มาดูการเตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทางช่วงสงกรานต์และที่ผ่านมาช่วงปีใหม่ก็มาตรวจเยี่ยมและถือว่าผลงานออกมาดีมาก ซึ่งอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ก็ลดน้อยลงระยะเวลาที่จะเดินทางไปจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หัวหิน เขาใหญ่ การจราจรก็ลดน้อยลงไป ไม่มีคนบ่นมากนัก  เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมก็ทำงานหนักในช่วงที่ประชาชนพักผ่อนก็มีการเสียสละที่จะมาทำงาน


“วันนี้ตนก็เลยต้องมาให้กำลังใจและมาดูแผนบูรณาการทั้งหมดว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นและปริมาณรถแบบ real time ก็มีความสบายใจขึ้น แต่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็มีรถจำนวนมาก ส่วนสงกรานต์ปีใหม่ไทย มีการคาดการณ์ว่าจะมีรถเยอะขึ้นอีกประมาณ 20% เพราะฉะนั้นความคาดหวังก็คงมีรถติดบ้าง แต่จะทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา  โดยเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6)  จะช่วยการจราจรช่วงสงกรานต์ได้ถึง 35% ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี” นายเศรษฐา กล่าว  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนถนนพระราม 2 รถติดตลอดมีการซ่อมแซมมายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีคมนาคมบอกว่าจะเสร็จสิ้นปีหน้า เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงบริหารจัดการกันไปก่อนในแง่ของการทำถนน ขอให้ยกเลิกช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อจะเปิดทุกช่องทางได้จะไม่มีการก่อสร้างในช่วงนี้ พร้อมฝากพี่น้องประชาชนว่าอย่าดื่มแล้วขับ อย่าให้มี  ได้ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าให้ดูแลอย่างเคร่งครัดในเรื่องนี้  

นายกรัฐมนตรี ได้อวยพรประชาชนในช่วงสงกรานต์ ว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันผู้สูงอายุด้วย และเป็นวันครอบครัวไทย ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทุกท่านที่จะเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ขอให้ทุกท่านมีความสุขสุขภาพแข็งแรงและเดินทางโดยสวัสดิภาพ อย่าดื่มแล้วขับ.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช.สั่งหยุดจ่ายไฟ

“อนุทิน” ลั่นมหาดไทยพร้อมสับสวิตช์ หาก สมช. สั่งหยุดจ่ายไฟ ชี้หากเพื่อนบ้านทำผิดกระทบความมั่นคง เตรียมหาแหล่งพลังงานใหม่ มอง กฟภ. ทำเกินหน้าที่ร่วมลงพื้นที่ บอกเป็นหน่วยงานรับปฏิบัติ

นายกฯ​ เปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025

นายกฯ​ ขอการท่องเที่ยวปีนี้ปังๆ ร่วมเปิดงาน Amazing Thailand Grand Tourismand Sports Year 2025 ย้ำรัฐบาลหวังจีดีพีเติบโตจากการท่องเที่ยว มอบผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด จัดกิจกรรมดึงนักท่องเที่ยวทั้งปี ปลุกคนไทยช่วยแชร์ข่าวจริง หลังถูกบิดเบือน​ “สรวงศ์” ตั้งเป้าการท่องเที่ยว 35 ล้านคน

เร่งล่าหนุ่มบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท ในห้างดังย่านลำลูกกา

ตำรวจเร่งล่าคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองในห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองในถาดกว่า 100 บาท หลบหนีลอยนวล

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]