นายกฯ ตรวจเยี่ยมกรมทางหลวง-สงกรานต์รถจะติดกว่าปีใหม่ 20%

กรมทางหลวง 11 เม.ย.- นายกฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ กรมทางหลวง ขอบคุณจนท.เสียสละ ปิดทองหลังพระ ยอมรับ สงกรานต์รถจะติดกว่าปีใหม่ 20% เชื่อเปิด M6 ช่วยลดเวลาเดินทาง กำชับไม่ให้มีดื่มแล้วขับ


นายเศรษฐา  ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  เดินทางเข้าตรวจติดตามสภาพการจราจรและตรวจความพร้อมการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ที่ศูนย์บริหารจัดการจราจรและอุบัติเหตุ  กรมทางหลวง

โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวรายงานว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางกลับภูมิลำเนาท่องเที่ยวทำให้หลายเส้นทางมีปริมาณการจราจรหนาแน่นและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุบนทางหลวงสูงกว่าในช่วงปกติกรมทางหลวง ในฐานะผู้รับผิดชอบ ตระหนักในภารกิจสำคัญที่จะอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับประชาชน  ได้บูรณาการวางแผนลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและรองรับการเดินทางของประชาชนระหว่างวันที่ 12 – 17 เมษายน 2567  โดยช่วงคุมเข้ม 7 วัน ระหว่าง วันที่ 11 – 17 เมษายน มีการจัดเจ้าหน้าที่ติดตามดูแลสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยตลอดเส้นทางและตลอดช่วงสงกรานต์นี้ โดยกรมทางหลวง คาดการณ์ว่า วันที่ 12 เมษายน จะมีปริมาณรถขาออกจากกรุงเทพฯ มากที่สุด ประมาณกว่า 6 ล้านคัน ซึ่งจะมีการเปิดช่องทางพิเศษเพิ่มทุกเส้นทางหลักไปอีสาน ถนนสายมิตรภาพ และสายเอเชีย ขึ้นภาคเหนือ มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ตั้งด่านตรวจวัดความเร็วและตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตลอดเส้นทาง  พร้อมเปิดสายด่วน 1356 รับ เรื่องร้องเรียนและอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง


นายเศรษฐา กล่าวว่า กรมทางหลวง เป็นหน่วยงานที่ได้รับคำชมเชยอย่างมากเพราะปิดทองหลังพระมาโดยตลอด  เช่นเทศกาลปีใหม่ แทนที่จะได้อยู่กับครอบครัว ไปเที่ยวสนุกสนาน ก็ต้องมาอยู่ที่นี่ เพื่อดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาจำนวนรถติดน้อยลง และผู้เสียชีวิตลดน้อยลงไปมาก เป็นเรื่องที่ทุกคนใส่ใจอยู่ตลอดเวลา และเป็นเรื่องที่เราควรต้องขยายผล  โดยเฉพาะมอเตอร์เวย์ M6 ซึ่งตัดสินใจเปิดชั่วคราวก็ช่วยทำให้พี่น้องประชาชนมีความสุขมากแทนที่จะมาติดรถเป็น 10 ชั่วโมง สามารถกลับไปเยี่ยมบรรพบุรุษ หรือไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาหลายชั่วโมง หรือการซ่อมถนนพระราม 2 ซึ่งดำเนินการมา 50 ปีแล้ว ก็มีแผนชัดเจนว่าจะเสร็จภายในสิ้นปีหน้า ระหว่างนี้จะมีแผนงานระยะสั้น เพื่อจะรองรับการจราจรในบริเวณดังกล่าว

ช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ คาดการณ์ไว้ว่าการจราจรจะติดมากขึ้นจากช่วงปีใหม่ ตนมั่นใจว่าในการจัดการที่ดี ใส่ใจในทุกๆ ปัญหา การจราจรก็จะไม่ติดมากเท่าที่คิด  รัฐบาลขอขอบคุณกรมทางหลวง และหน่วยงานที่ดูแลระบบขนส่งมวลชนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นท่าอากาศยาน การท่าเรือ รถ บขส. หรือ รถไฟ รวมถึงฝ่ายความมั่นคงที่ช่วยกันดูแลและลงทุกรายละเอียดแก้ไขปัญหาอย่างตลอด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการ

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณเพิ่มเติมว่า วันนี้มาดูการเตรียมความพร้อมเรื่องการเดินทางช่วงสงกรานต์และที่ผ่านมาช่วงปีใหม่ก็มาตรวจเยี่ยมและถือว่าผลงานออกมาดีมาก ซึ่งอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ก็ลดน้อยลงระยะเวลาที่จะเดินทางไปจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หัวหิน เขาใหญ่ การจราจรก็ลดน้อยลงไป ไม่มีคนบ่นมากนัก  เจ้าหน้าที่ของกระทรวงคมนาคมก็ทำงานหนักในช่วงที่ประชาชนพักผ่อนก็มีการเสียสละที่จะมาทำงาน


“วันนี้ตนก็เลยต้องมาให้กำลังใจและมาดูแผนบูรณาการทั้งหมดว่าปัญหาที่จะเกิดขึ้นและปริมาณรถแบบ real time ก็มีความสบายใจขึ้น แต่ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาก็มีรถจำนวนมาก ส่วนสงกรานต์ปีใหม่ไทย มีการคาดการณ์ว่าจะมีรถเยอะขึ้นอีกประมาณ 20% เพราะฉะนั้นความคาดหวังก็คงมีรถติดบ้าง แต่จะทำให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา  โดยเส้นทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางปะอิน – นครราชสีมา (M6)  จะช่วยการจราจรช่วงสงกรานต์ได้ถึง 35% ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี” นายเศรษฐา กล่าว  

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนถนนพระราม 2 รถติดตลอดมีการซ่อมแซมมายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว ซึ่งรัฐมนตรีคมนาคมบอกว่าจะเสร็จสิ้นปีหน้า เพราะฉะนั้นช่วงนี้จึงบริหารจัดการกันไปก่อนในแง่ของการทำถนน ขอให้ยกเลิกช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อจะเปิดทุกช่องทางได้จะไม่มีการก่อสร้างในช่วงนี้ พร้อมฝากพี่น้องประชาชนว่าอย่าดื่มแล้วขับ อย่าให้มี  ได้ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้วว่าให้ดูแลอย่างเคร่งครัดในเรื่องนี้  

นายกรัฐมนตรี ได้อวยพรประชาชนในช่วงสงกรานต์ ว่าวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ เป็นวันผู้สูงอายุด้วย และเป็นวันครอบครัวไทย ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทุกท่านที่จะเดินทางไปเยี่ยมญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด ขอให้ทุกท่านมีความสุขสุขภาพแข็งแรงและเดินทางโดยสวัสดิภาพ อย่าดื่มแล้วขับ.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

รวบพระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกดับ

นครราชสีมา 30 พ.ค. – รวบแล้ว พระเอกลิเกทุบหัวลูกเลี้ยงออทิสติกเสียชีวิต และล่วงละเมิดลูกเลี้ยงผู้หญิงคนเล็กอายุ 11 ขวบ เจ้าตัวยังปากแข็ง แต่จำนนด้วยหลักฐาน ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา บุกรวบตัว นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเก “ลักยิ้มทับทิมสยาม” ได้คาบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยขณะนี้คุมตัวอยู่ในห้องขัง สภ.เมืองนครราชสีมา ขณะจับกุมตัวผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา” และ “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี” ขณะนี้กำลังเค้นสอบปากคำ เนื่องจากผู้ต้องหายังปากแข็ง แต่จำนวนด้วยหลักฐาน ก่อนเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายวันนี้ คดีนี้สืบเนื่องจาก น.ส.หมิว อายุ 46 ปี นางเอกลิเก พาลูกสาวอายุ 11 ปี เข้าร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี หลังลูกชายคนโต อายุ 18 ปี ซึ่งป่วยออทิสติก […]

“สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 หมอ คดีชั้น 14

สธ. 29 พ.ค. – “สมศักดิ์” วีโต้แล้ว! ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เผย “สมศักดิ์” สภานายกพิเศษ ส่งคำตอบให้มติแพทยสภาให้ลงโทษ 3 แพทย์ กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจเมื่อวานนี้ ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ให้ใช้คำว่าเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย นายกองตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณาตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ได้ยื่นรายงานความเห็นจากคณะกรรมการฯ ต่อมติแพทยสภาให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) สภานายกพิเศษฯ ได้ทำหนังสือตอบกลับไปยังแพทยสภาแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. โดยที่ตนเองก็ยังไม่ทราบว่า มีเนื้อหาบ้าง แต่ขออย่าใช้คำว่า วีโต้ ขอให้ใช้คำว่ามีส่วนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เบื้องต้นเป็นความส่งความเห็นกลับต่อมติของแพทยสภา ซึ่งมีการพิจารณาเรื่องร้องเรียนแพทย์จำนวน 4 […]

จับแล้ว! “สามีภรรยา” คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง

29 พ.ค.- จับแล้ว! สองสามีภรรยา คนสนิทอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง มือคุมบัญชีประมูลร้านค้างานประจำปี – ร้านค้าสวัสดิการ หลังศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ออกหมายจับ วันนี้ ( 29 พ.ค.68) เวลา 16.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่ กก.5 บก.ป. นำกำลังเข้าจับกุม สองสามีภรรยา คนสนิทนายแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง หลังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับ ในความผิดฐาน ข้อหาฟอกเงิน และ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อหรือการรักษาทรัพย์ แต่กลับเบียดบังหรือทุจริตทรัพย์นั้นมาเป็นของตน, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” โดยสามารถจับกุมตัวทั้งสองได้ภายในค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มาสอบปากคำยัง กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ขณะเดียวมีรายงานว่า นอกเหนือจากผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้ พนักงานสอบสวนยังได้ขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อนุมัติออกหมายจับอดีตพระลูกวัดคนสนิท ทิดแย้ม ซึ่งถูกจับกุมก่อนหน้านี้ และถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดย พนักงานสอบสวน เตรียมประสานไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ […]

ข่าวแนะนำ

มติวุฒิสภาเดินหน้าโหวตองค์กรอิสระ-สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์วุ่น

รัฐสภา 30 พ.ค.- ตามคาด! “วุฒิสภา” เดินหน้าโหวตตั้งองค์กรอิสระ-ตุลาการศาล รธน. แม้ยอมให้ถกญัตติชะลอนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้าน สว.เสียงข้างน้อย วอล์กเอาต์ไม่ขอร่วมสังฆกรรม พร้อมให้เหตุผลขัดกันแห่งผลประโยชน์ สว.กว่า 100 คนถูกกล่าวหาฮั้ว ขู่หากเดินหน้าเสี่ยงถูกร้องจริยธรรม ขณะที่ “ฉัตรวรรษ” โต้ ยังเป็น สว. ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซัด “ดีเอสไอ” ดำเนินการโดยมิชอบ การประชุมวุฒิสภาวันนี้มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าในการระเบียบวาระเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561) ซึ่งเป็นการประชุมลับ ขอให้สว.ใช้บัตรลงคะแนนของตัวเอง ไม่สามารถออกเสียงด้วยวาจาแทนได้ แต่ขอหารือหยิบยกเรื่องด่วนที่ 5.ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องและมีผลต่อการพิจารณาเรื่องให้ความเห็นชอบ คือเรื่องด่วนชอให้ ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้งและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ ที่เสนอโดยนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่าต้องขอบคุณสมาชิกและวิปวุฒิที่ใจกว้างให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมา และระบุว่าตนเข้าใจและเห็นใจเพื่อนสว.ทุกคนที่โดนเรียกไปรับทราบข้อกล่าวหา โดยเห็นกระบวนการไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น […]

กกต.ออกหมายเรียกอีก 22 สว. แจงคดีฮั้ว

กทม. 30 พ.ค.- หมายเรียก สว.ฮั้ว ลอต 5 ออกแล้ว คณะกรรมการสืบสวนฯ กกต. เรียกอีก 22 สว.แจง รวมเรียกทั้งหมด 127 คน มีรายงานแจ้งว่า คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน คณะที่ 26 ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เรียกสมาชิกวุฒิสภา เข้ารับทราบและชี้แจงข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 22 คน กรณีถูกกล่าวหาว่าอาจพัวพันกับกระบวนการฮั้วเลือก สว. ประกอบด้วย 1.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม 2.นางเจียระไน ตั้งกีรติ 3.นางมยุรี โพธิแสน 4.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี 5.น.ส.สุกัญญา ประจวบเหมาะ 6. นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ 7.นายธนภัทร ตวงวิไล 8.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ 9.นายกัมพล สุภาแพ่ง 10.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ 11.นายอัครวินท์ ขำขุด 12.นางธารณี ปรีดาสันติ์ 13.นางรจนา เพิ่มพูน […]

ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาชายแดน

กองทัพบก 30 พ.ค.-ทบ.แถลงการณ์ “กองทัพบกไทย-กัมพูชา” ยึด 4 ข้อแก้ปัญหาพิพาทชายแดน ยันทหาร 2 ฝ่ายถอนกำลังจากจุดปะทะช่องบกแล้ว วอนประชาชนรับฟังข้อมูลสื่อหลัก ขอเชื่อมั่นทหารปกป้องอธิปไตยทุกตารางนิ้ว กองทัพบก ออกหนังสือแถลงการณ์ผลการเจรจาระหว่าง ผบ.ทบ.ไทย – ผบ.ทบ.กัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ 1.ผู้บัญชาการทหารบกได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียกำลังพลจากเหตุการณ์ปะทะ และเน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญต่อเจตนารมณ์ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของทั้งสองประเทศ ที่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อยุติความขัดแย้ง พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการพูดคุยเจรจาด้วยสันติวิธีในการหาข้อตกลงร่วมกัน และขอยืนยันว่าจะไม่มีการรุกรานอธิปไตยหรือการหยิบยกประเด็นข้อขัดแย้งในอธิปไตยของกัมพูชาโดยเด็ดขาด การเจรจาครั้งนี้จะส่งผลดีต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ 2.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทยและกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้ตกลงที่จะเคลื่อนออกจากพื้นที่ ถือเป็นการคลี่คลายความตึงเครียดระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายยังมีความเห็นพ้องในการใช้กลไกคณะกรรมการร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยบริเวณชายแดน หรือ Reqional Border Committee (RBC) เพื่อคลี่คลายข้อสงสัยที่อาจค้างคา และส่งเสริมกลไก JBC ให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น […]

ทบ.จ่อออกแถลงการณ์ห้ามทหารกัมพูชาเข้าใช้พื้นที่เนิน 745

กองทัพบก 30 พ.ค.- ทบ. เตรียมออกแถลงการณ์จุดปะทะช่องบก ไม่ให้ทหารกัมพูชาเข้ามาใช้พื้นที่เนิน 745 – ต้นสัตบรรณ ถึงสามแยกลาว เล็งพูดคุยจัดชุดลาดตระเวนร่วม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พิธีไถ่ชีวิตกระบือ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพพระราชินี 3 มิ.ย. โดยในวันนี้ กองทัพบกเตรียมออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ ภายหลังวานนี้ (29 พ.ค.) พล.อ.พนา ได้หารือกับ พลเอก เมา โซะพัน ผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา และคณะฝ่ายกัมพูชา ในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน กรณีเกิดเหตุปะทะช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนได้ข้อสรุป 3 ข้อ 1.กรณีข้อขัดแย้งบริเวณช่องบก กองทัพบกไทย และกัมพูชา มีความเห็นร่วมกันในการใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ Joint Boundary Committee (JBC) ซึ่งเป็นกลไกในระดับรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งผลการประชุม JBC คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในอีก 2 สัปดาห์ 2.ปัจจุบันกำลังทั้งสองฝ่ายที่เคยปะทะได้เคลื่อนออกจากพื้นที่แล้ว […]