ยกระดับแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5

ทำเนียบรัฐบาล 9 เม.ย.-นายกฯ กำชับปรับปรุงระบบประปา ดูแลความปลอดภัยช่วงเทศกาล ยกระดับแก้ปัญหา PM 2.5  ตั้งคณะทำงานขนย้ายกากแคดเมียมให้ปลอดภัย


นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย การประปาภูมิภาค เร่งทบทวนปรับแผนเรื่องน้ำประปา และพัฒนาโครงข่ายท่อน้ำประปาในหลายพื้นที่สำคัญเช่น จังหวัดภูเก็ต พังงา ลำพูน อุดรธานี เป็นต้น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่  และให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เรื่องน้ำเป็นปัญหาใหญ่ เพราะตอนนี้หน้าแล้งเข้ามาแล้ว

นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยดูแล อำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในการเดินทาง เช่น กระทรวงคมนาคม เตรียมการเรื่องการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดูแลเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ห้องน้ำ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้สะอาด และพร้อมใช้งาน ดำเนินการเข้มงวดห้ามดื่มแล้วขับ และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวดขันเรื่องนี้ เพื่อป้องกัน และลดอุบัติเหตุ การสูญเสีย โดยไม่จำเป็น รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมความพร้อมการช่วยเหลือดูแลผู้ที่บาดเจ็บทางจราจร


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ที่แพร่หลายมากในเด็กเยาวชน ทั้งที่มีกฎหมายควบคุมอยู่แล้ว ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันดำเนินการปราบปราม จับกุม ผู้ลักลักลอบนำเข้า และผู้จำหน่ายอย่างจริงจัง เด็ดขาด โดยบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และขอให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา ร่วมกันออกมาตรการป้องกัน เช่นการลงเรื่องโทษเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับกฎหมาย รวมถึงให้มีมาตรการตรวจตราที่เข้มงวด ในสถานศึกษา และการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เยาวชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับปัญหา PM2.5 ได้กำชับยกระดับการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในช่วงสถานการณ์วิกฤตประจำปี 2567 โดยให้หน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการ ในการทำงานผ่าน 9 มาตรการ 1. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด และทหารในพื้นที่ระดมกำลังลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยง รวมถึงการจับกุม และบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่ลักลอบเผาผ่านทุกกรณีกรณี 2.ให้สำนักงานแห่งตำรวจแห่งชาติบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

“3.ให้กระทรวงมหาดไทย สั่งการจังหวัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับกระทรวงทรัพฯ จัดชุดปฏิบัติการเฝ้าระวัง ลาดตระเวนพื้นที่เสี่ยงต่อการเผา 4.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และประกาศ Work From Home ตามความจำเป็น เพื่อลดปัญหาการกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชน 5.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาตัดสิทธิ์การได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่าง ๆ จากภาครัฐ หากตรวจพบว่ามีการเผาในพื้นที่เกษตรกรของตนเอง” นายกรัฐมนตรี กล่าว


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 6.ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มความถี่การปฎิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกัน และบรรเทา สถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ฝุ่นละอองอย่างเร่งด่วน ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ให้เพียงพอในการช่วยเหลือดับไฟป่า 7.ให้กระทรวงสาธารณสุข จัดชุดเคลื่อนที่เยี่ยมบ้านประชาชนอย่างทั่วถึง ทันท่วงที และสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันต่อกลุ่มเสี่ยง 8.ให้สำนักงานงบประมาณ พิจารณาสนับสนุนงบกลางให้แก่จังหวัด ให้ทันต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติปี 2567 ตามความเหมาะสม จำเป็นเร่งด่วน 9.กรณีหมอกควันข้ามแดน ขอให้กระทรวงการต่างประเทศ ยกระดับการร่วมมือเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งเมียนมา ลาว ให้ลดการเผา และตั้ง KPI ให้ชัดเจน ช่วงบ่ายวันนี้ ทั้ง 9 ข้อ และรายละเอียดต่าง ๆ จะประชุมการการทำงานในการดับไฟป่าของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน ซึ่งจะแถลงต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของการขนย้ายสังกะสีปนแคดเมียม มอบให้กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการตรวจสอบการขนย้าย โดยให้ครอบคลุมทั้งการสืบหาข้อเท็จจริง และข้อบกพร่อง ในแต่ละขั้นตอน เพื่อหามาตรการแก้ไข และกำกับการขนย้ายจากแคดเมียมที่ยึดครองไว้ ตลอดจนกากแคดเมียมที่เหลืออยู่ และการเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมที่กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ต้องดำเนินการขนย้ายให้ถูกต้อง และดำเนินการขนไปฝังกลบที่จังหวัดตากอย่างปลอดภัย

“ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านอสังหาริมทรัพย์ และการเตรียมการเพื่อรองรับการดำเนินการยกระดับประเทศไทย สู่เมืองอุตสาหกรรมระดับโลก  โดยจะมีการแถลงข่าว 14:30 น. ซึ่งมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้แถลง ส่วนการยกเลิกใบ ตม.6 จากเดิมยกเลิกให้คนต่างด้าว ที่ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ทำให้มีความต้องการในการเพิ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และไม่มีผลกระทบด้านความมั่นคง จึงได้มีการยกเว้นการกรอกใบ ตม.6 เพิ่มอีก 12 จุด ทั้งทางบก และทางน้ำเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน – 15 ตุลาคมปีนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. ยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ศึกษารายละเอียดผลการพิจารณาการศึกษากรรมการวิสามัญการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาเสนอต่อ ครม. ภายใน 30 วัน.-317.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”