เร่งส่งเสริมเกาะสมุยเป็น Tourism Hub ฝั่งอ่าวไทย

สุราษฎร์ธานี 8 เม.ย.- “เกณิกา” เผย “สุดาวรรณ” คุยผู้ประกอบการ เร่งส่งเสริมให้เกาะสมุยเป็น Tourism Hub ฝั่งอ่าวไทย ตามนโยบายของรัฐบาล


น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง การลงพื้นที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการต่างๆ เพื่อยกระดับ เพิ่มศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยว สร้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ รวมถึงได้มีการรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิด

โดย นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว นำทีมผู้ประกอบการในพื้นที่เข้าพบและเรียกร้องขอให้รัฐบาลส่งเสริมให้เกาะสมุยเป็น Tourism Hub ฝั่งอ่าวไทย ตามนโยบาย Ignite Tourism Thailand และการขยายระยะเวลาท่องเที่ยว หรือการขอวีซ่าจากเดิม 30 วัน เป็น 90-120 วัน และทำวีซ่ารูปแบบ Multiple Entry Visa หรือการขอวีซ่าสำหรับเข้าออกหลายครั้ง เพื่อเพิ่มโอกาสในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น และจะเป็นการกระจายรายได้ทั่วประเทศ ทำให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้นอย่างครอบคลุม


ผู้ประกอบการรายย่อยเสนอให้รัฐบาลช่วยให้สถาบันทางการเงินปล่อยสินเชื่อในภาคธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อรองรับการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยว ตามนโยบายหลักของรัฐบาล เพราะหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 สถาบันทางการเงินให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวยากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาด้านเงินทุน ในการดำเนินธุรกิจ ฟื้นฟูธุรกิจ ขยายกิจการ

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังได้ปรึกษานางสาวสุดาวรรณ เพื่อขอให้รัฐบาลดูแลอยากให้ สปา ซึ่งถือเป็น Soft Power ของไทยอยู่ในหมวดของ Wellness ด้วย รวมถึงค่าแรงที่จะขึ้นก็ยังมีโรงแรมขนาดเล็กที่ยังไม่พร้อม จึงอยากให้ช่วยดูแลในส่วนนี้เช่นกัน ซึ่งทางผู้ประกอบการยังได้กล่าวขอบคุณและรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่นายกรัฐมนตรีและนางสาวสุดาวรรณ มาลงพื้นที่รับฟังปัญหาด้วยตนเองและขอบคุณนโยบายดีๆที่กำลังจะมาพัฒนาให้ชาวสมุย

“รมว.สุดาวรรณ ได้สอบถามความต้องการ ปัญหาและ อุปสรรค รวมทั้งข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยข้อเสนอต่าง ๆ รมว.สุดาวรรณ จะนำเรื่องนี้ไปประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะพัฒนาความพร้อมในการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคตที่มากขึ้น รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทยก็ต้องมีการพัฒนาเพื่อรองรับการเติบโตในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวเช่นกัน“ น.ส.เกณิกา กล่าว.-315 -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”