มหาดไทย สั่งการควบคุมสถานบริการช่วงเทศกาลสงกรานต์

กทม. 7 เม.ย.-“มหาดไทย” ห่วงใยประชาชน สั่งการควบคุมสถานบริการ สถานประกอบการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึง การควบคุมสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 โดยกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือสั่งการไปยังจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อควบคุมดูแลสถานบริการ สถานประกอบการให้ผู้ใช้บริการ หรือ ร่วมกิจกรรมในสถานที่ดังกล่าวมีความปลอดภัย ซึ่งได้ให้ทุกจังหวัดกำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองดำเนินการป้องกันและเฝ้าระวังมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย และถือปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ซึ่งในกรณีมีเหตุด่วน หรือ การกระทำความผิดเกิดขึ้นในสถานที่ ได้กำชับให้ทุกจังหวัด รายงานเหตุการณ์มายังกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ทราบโดยเร็ว


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ได้ส่งความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนทุกคน โดยได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 นี้ โดยกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดกำชับมาตรการรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในการจัดงานรื่นเริง หรือ งานเทศกาลสำคัญเพื่อสร้างความปลอดภัยสาธารณะให้เกิดขึ้นแก่ประชาชนนักท่องเที่ยว และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้แจ้งให้เข้มงวดกวดขันในการดำเนินการตามมาตรการกำกับดูแลสถานบริการสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ และเพื่อให้การควบคุมดูแลสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้บริการ หรือ ร่วมกิจกรรมในสถานที่ดังกล่าวได้รับความปลอดภัย รวมถึงเป็นการป้องกันและเฝ้าระวังมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมาย กระทรวงมหาดไทยจึงได้มีหนังสือสั่งการไปยังทุกจังหวัด

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เพื่อให้การปฏิบัติของทุกจังหวัดเป็นไปในทิศทางเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ทุกจังหวัดมีดำเนินการควบคุมดูแลสถานบริการ สถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2567 ดังนี้ ประการที่แรก ให้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวด กวดขัน และตรวจตราสถานบริการสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ โรงแรม และสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ กฎหมายว่าด้วยโรงแรม กฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งป้องกันมิให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดการนำอาวุธเข้าไปในสถานบริการ และการก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเสียงแก่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ประการที่ 2 ให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือผู้ประกอบกิจการที่มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทุกแห่ง ตรวจสอบในเรื่องระบบความปลอดภัย การใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้ารั่ว มิให้มีการใช้อุปกรณ์ประกอบการแสดงที่อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ หรือ เกิดระเบิดได้ ตลอดจนการตรวจสอบระบบไฟฟ้า และแบ่งพื้นที่ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ให้อยู่ในพื้นที่เปียกน้ำ หรือ ชื้น เพื่อให้มีความปลอดภัยแก่ผู้ร่วมกิจกรรมทุกคน รวมทั้งควบคุมจำนวนผู้เข้าใช้บริการให้สัมพันธ์กับประเภทกิจการ เพื่อให้มีการใช้อาคารมีจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่แออัดหนาแน่นจนเกินไป


“ประการที่ 3 คือ ให้นายทะเบียนโรงแรมกำชับให้ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมจัดทำบัตรทะเบียนผู้พัก ในทันทีที่มีการเข้าพัก พร้อมส่งสำเนาทะเบียนผู้พัก ในแต่ละวันไปให้นายทะเบียนทุกสัปดาห์ และดูแลไม่ให้บุคคลหลบซ่อน หรือ มั่วสุมในเขตโรงแรมในลักษณะอันควรเชื่อว่าจะก่อความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง หรือ จะมีการกระทำความผิดอาญาขึ้นในโรงแรม ซึ่งหากปรากฏพฤติการณ์ หรือ เหตุอันควรสงสัยว่ามีเหตุดังกล่าวให้กำชับผู้ประกอบการ แจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครอง หรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ทราบโดยทันที และแจ้งให้ผู้แจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมบันทึกรายการผู้เข้าพักทุกรายในรูปแบบที่เห็นว่าสะดวก ประการต่อมา ประการที่ 4 ให้สั่งการให้จังหวัดและอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้างและใช้อาคารให้ถูกต้องตามประเภทของอาคารที่ได้รับอนุญาต พร้อมทั้งตรวจสอบระบบความปลอดภัยให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร และประการสุดท้าย กรณีมีเหตุด่วน หรือ การกระทำความผิดเกิดขึ้นในสถานที่ดังกล่าว ให้รายงานเหตุการณ์ เช่น การสรุปเหตุการณ์ในเบื้องต้น ภาพถ่าย เอกสาร พร้อมระบุชื่อเจ้าหน้าที่ผู้ประสานงานให้กรมการปกครองทราบโดยเร็ว ทางช่องทางการรายงานของกรมการปกครอง” นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ภารกิจการรักษาความสงบเรียบร้อยเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อนำมาซึ่งความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน รอยยิ้ม และความสุขของพี่น้องประชาชน และในฐานะข้าราชการที่ดีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นดั่งราชสีห์ผู้ภักดีต่อแผ่นดินมีความมุ่งมั่นที่จะสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จะต้องปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ด้วยจิตใจที่รุกรบ มี Passion ความอดทน ทุ่มเท และเสียสละ สำคัญจะต้องช่วยกันสอดส่องดูแล แบบบูรณาการ ซึ่งหมายรวมถึงการดึงภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เข้ามาร่วมเป็น Partnership ในการเฝ้าดูแลสังคมของเรา โดยสามารถให้ความร่วมมือได้ผ่านการประสานงานมายังท่านผู้ว่าราชการจังหวัด หรือท่านนายอำเภอในพื้นที่ผู้เปรียบเสมือนนายกรัฐมนตรีประจำพื้นที่ หรือ ผ่านช่องทางศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศที่สายด่วน 1567 โทรฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายช่วยประชาสัมพันธ์เน้นย้ำผู้เดินทางกลับภูมิลำเนา และผู้ที่มีแผนจะใช้รถใช้ถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เน้นความปลอดภัยปฏิบัติตามกฎหมายและกฎจราจร “ดื่มไม่ขับ ขับไม่ดื่ม” ขอให้ทุกพื้นที่รณรงค์ส่งเสริมแนวคิดดังกล่าวเพื่อป้องกันและลดผลกระทบทางอุบัติเหตุทุกกรณี เพื่อลดอัตราสูญเสียอาจที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และช่วย Change for Good โดยให้มีการดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี.-317.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]