“ชัยธวัช” ไม่วิตกคำวินิจฉัยบ่อนทำลายเป็นสารตั้งต้นนำสู่การยุบพรรค

ศรีนครินทร์ 6 เม.ย. – “ชัยธวัช” ไม่วิตกคำวินิจฉัยเซาะกร่อนบ่อนทำลายเป็นสารตั้งต้นนำไปสู่การยุบพรรค ชี้คดีมีรายละเอียดเยอะ เตรียมขอศาล รธน. ขยายส่งคำชี้แจงเพิ่ม ยันลูกพรรคไม่เสียขวัญหลัง “พิธา” อภิปรายสั่งเสียกลางสภาฯ มองต่างยิ่งยุบยิ่งโต ส่งผลดีเลือกตั้งท้องถิ่น ระบุใครจะอยากให้พรรคถูกยุบ เย้ยดีเอ็นเอเพื่อไทย มองหาก “อุ๊งอิ๊ง” จะเป็นผู้นำที่สำเร็จต้องด้วยศักยภาพ ไม่ใช่ว่ามีพ่อแม่เป็นใคร


นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงวาระการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ที่หลายฝ่ายจับตาไปที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ โดยขอให้รอมติจากที่ประชุม ส่วนหากมีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรค บทบาทของตนจะอยู่ตรงไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับมติ

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค เพราะอาจมองว่าจะเสียของหากมีการยุบพรรคในอนาคต นายชัยธวัช ย้ำว่า ขอให้รอดูความเห็นและมติในที่ประชุม ซึ่งหลังจบประชุม ทีมโฆษกพรรคจะมาแถลงความชัดเจน


ส่วนความเห็นของลูกพรรคเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อภิปรายว่าอาจเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ได้พูดคุยกับสมาชิกหรือไม่ นายชัยธวัช บอกว่า เราทำความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง เมื่อวาน (5 เม.ย.) มีการสัมมนาก็ได้คุยกันในหลายส่วน โดยเฉพาะระบบการทำงานภายในพรรค รวมถึงการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในต้นปีหน้าด้วย

เมื่อถามถึงสถานการณ์ของพรรคขณะนี้จะมีการสร้างขวัญและกำลังใจกับสมาชิกพรรคอย่างไร นายชัยธวัช ยืนยันว่า เรามีเป้าหมายชัดเจนตามแผนงาน และขวัญกำลังใจไม่ได้มีปัญหา พร้อมเดินหน้าเต็มที่ตามแผนที่ไว้ ตราบใดที่รากฐานและระบบการทำงานของพรรคมีคุณภาพ เราก็พร้อมเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญให้กรอบเวลา 15 วัน ส่งคำชี้แจงปมยุบพรรค นายชัยธวัช บอกว่า พรรคได้รับสำนวนแล้วในวันที่ศาลมีมติ ขณะนี้อยู่ระหว่างทำคำชี้แจงข้อกล่าวหา ส่วนเวลา 15 วัน เพียงพอหรือไม่นั้น มองว่ามีรายละเอียดค่อนข้างเยอะมาก ตนได้พูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีแง่มุมที่ต้องโต้แย้งเยอะที่อาจให้ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนเพิ่มเติม เพราะมีข้อเท็จจริง บุคคล และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ซึ่งเป็นขั้นตอนตามปกติที่ศาลรัฐธรรมนูญสามารถให้ผู้ถูกร้องขยายเวลายื่นเอกสารได้


ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีครั้งนี้คำวินิจฉัยเซาะกร่อนบ่อนทำลายถูกมองเป็นสารตั้งต้นไปสู่การยุบพรรค นายชัยธวัช มองคำร้องครั้งนี้แตกต่างจากคดีที่ผ่านมา ทั้งรายละเอียดและแนวทางการต่อสู้ ส่วนที่คำร้องครั้งนี้รวมพฤติการณ์ของ 44 สส. ตนขอดูรายละเอียดก่อน เพราะมีค่อนข้างเยอะ ยังไม่ได้ดูทั้งหมด น่าจะมีหลายร้อยหน้า

ส่วนคำพูดที่ว่ายิ่งยุบยิ่งเกิดจะเป็นโอกาสไปสู่การเลือกตั้งท้องถิ่นด้วยหรือไม่ นายชัยธวัช มองว่า การเติบโตของพรรคก้าวไกล พวกเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับการยุบหรือไม่ยุบพรรค แต่ขึ้นอยู่กับแนวทางการทำงานและนโยบายที่จะตอบโจทย์ประชาชนได้หรือไม่ นี่คือเรื่องหลัก เราคงไม่หวังให้ตัวเองถูกยุบพรรคเพื่อให้พรรคเติบโตขึ้น เชื่อมั่นว่าถ้าพรรคฝ่าฝันอุปสรรคตรงนี้ไปได้เราก็จะเติบโตและเข้มแข็ง

นายชัยธวัช ยังย้ำว่าตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันไม่มีบทบัญญัติใดหรือมาตราใดให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรคการเมือง แต่อำนาจในการยุบไปปรากฏอยู่ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ซึ่งเป็นกฎหมายลำดับรองและต่ำกว่า ดังนั้น เรายิ่งเห็นว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญแค่สั่งให้ยุติการกระทำ ที่ศาลฯ เห็นว่าเป็นการล้มล้างการปกครองแค่นั้น ดังนั้น จุดมุ่งหมายและลำดับศักดิ์ของกฎหมายก็ไม่เท่ากัน แต่โทษที่กำหนดในกฎหมายต่ำกว่า กลับร้ายแรงกว่า ต้องเป็นกรณีจำเพาะมากเท่านั้น จึงจะลงโทษร้ายแรงขนาดนี้ต้องได้สัดส่วน

นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงกรณีการตั้งพรรคสำรองที่ชื่อว่าพรรคอนาคตไกล ที่มีสีส้มเหมือนกันด้วยนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค เนื่องจากพรรคนี้ชื่ออาจจะคล้ายกับเรา และใช้สีส้มด้วย ก่อนฝากประชาชนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่สีส้มอาจจะได้รับความนิยมหน่อยในช่วงนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่าลูกสาว (แพทองธาร ชินวัตร) มีดีเอ็นเอเหมาะเป็นผู้นำพรรคเพื่อไทย คิดเห็นอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า ถ้านางสาวแพทองธารจะสามารถเป็นผู้นำพรรค รวมถึงผู้นำประเทศในอนาคต และประสบความสำเร็จ คงขึ้นอยู่กับความสามารถและศักยภาพของนางสาวแพทองธารเอง คงไม่เกี่ยวกับว่ามีพ่อหรือมีแม่เป็นใคร

เมื่อถามถึงกระแสข่าวของพรรคประชาธิปัตย์ว่าอาจจะทิ้งพรรคก้าวไกลไปร่วมรัฐบาลนั้น นายชัยธวัช มองว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล และในฐานะแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเราให้เกียรติซึ่งกันและกันในทุกพรรคการเมือง

ทั้งนี้ นายชัยธวัช เปิดเผยว่า วันนี้คงไม่ได้ไปหรือส่งใครไปร่วมงานวันครบรอบก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าความสัมพันธ์ยังดีอยู่หรือไม่ นายชัยธวัช ย้ำว่า ดีครับ ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทิ้งไปในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรคิดเห็นอย่างไร นายชัยธวัช มองเป็นเรื่องของแต่ละพรรค.-313-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”