“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง

รัฐสภา 4 เม.ย.-“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านมา 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง ฟันธง “รัฐบาลเศรษฐา” ไม่ไว้ใจประชาชน หลังแพ้เลือกตั้งให้ก้าวไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป  เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152  เป็นวันที่2 เริ่มขึ้นในเวลา 09.05 น. โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังพักการประชุมในเวลา 02.44 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 เม.ย.)


โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รัฐบาล โดยนายกฯ  ระบุว่า จะเสร็จภายใน 18 เดือน  แต่ผ่านมา 6  เดือน  ยังวนเรือในอ่าง  คือ ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ   ทำไมไม่ให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาแทน เพราะจะมีตัวแทนสัดส่วนจากพรรคการเมือง  แต่การเดินสายทั่วประเทศของคณะกรรมการฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ไปเน้นเนื้อหาการแก้ไข  ไม่ใช่เรื่องประชามติ และไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถามที่ไปเน้นการแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจน การที่รัฐบาลจะทำประชามติ 3 ครั้ง  แต่พรรคเพื่อไทย กลับยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ทำประชามติ 2 ครั้ง และประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ  และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ทุกคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีหน้าตา เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีใครมองว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560  เพราะแก้แค่ระบบการเลือกตั้ง


“อีก 10 ปีข้างหน้าก็คงไม่มีใคร มองว่ารัฐบาลเศรษฐาประสบความสำเร็จเช่นกัน หากยังมีปัญหาเช่นเดิมที่จะให้วุฒิสภามีอำนาจล้นฟ้าและการคัดเลือกไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงให้ศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจไปเรื่อยๆ และจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามในการยุบพรรค และเป็นเครื่องมือประหารชีวิตของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม พร้อมฟันธงว่า รัฐบาลเศรษฐา ไม่มีทางไว้ใจประชาชน มาร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญ และจัดทำกติกาสูงสุด ของประเทศตามที่พวกเขามีสิทธิ์ เพราะรัฐบาลเศรษฐาที่ตั้งได้และดำรงอยู่ได้ ก็เพราะเครือข่ายอำนาจเดิม”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยังอ้างคำพูดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้ารับตำแหน่งคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทางแล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าคำพูดนั้นเป็นเพียงลมปากของนายกรัฐมนตรีที่เชื่อถือไม่ได้

“วงการทหารเขาว่ากันไว้ ว่าความไวเป็นของปีศาจ แต่ตั้งแต่ท่านนายกฯ ทำดีล ที่ต่างชาติเรียกว่า เป็นดีลปีศาจ แล้วไปตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร เราก็แทบจะเห็นว่าความว่องไวและความกระตือรือร้นของท่านนายกฯ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ดูจะระเหยหายไปหมด”นายพริษฐ์  กล่าว


นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลายเป็นตลก 6 ฉาก กับการใช้เวลา 6  เดือน เกรงว่าความล่าช้าจะทำให้ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า  และไม่มีใครรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร เกรงว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ซุ่มออก ลดทอนอำนาจประชาชน คือ มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญสูตรผสม  สูตรกินรวบกรรมาธิการยกร่างฯ และ ด่านทางผ่านวุฒิสภา

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชอบกล่าวหาว่า พวกตนและพรรคก้าวไกลเป็นพวกที่ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่  เพียงเพราะเราเชื่อในอำนาจของประชาชน แต่หากคำทำนายของตนเองเป็นจริง คิดว่ารัฐบาล ที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่กว่าความคิดของประชาชน เพราะหากสุดท้าย ถ้าไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนออกแบบเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง แต่ไปพยายามคิดค้นผลิตนวัตกรรมที่จะเข้าควบคุมเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเข้ามาล็อคสเป็ครัฐธรรมนูญ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าประชาธิปไตยที่เต็มใบ แบบนี้เค้าเรียกว่าประชาธิปไตยที่ต้องขอใบอนุญาต และเป็นใบอนุญาตที่ต้องจ่ายด้วยราคาแพงในอนาคตของประเทศนี้

“ตนไม่ปฏิเสธว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี เป็นพรรคที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ว่ามีความเชื่อมั่นแน่วแน่ในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พอเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนกำลังจะออกแบบจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไปเปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้ามาแทรกแซง ตนจำเป็นต้องถามนายกรัฐมนตรี ตกลงแล้วรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ยังเชื่อในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งอยู่หรือไม่ หรือพอมาถึงวันนี้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรก จึงประเมินว่าอาจจะไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง หรือความเชื่อมั่นจากการเลือกตั้งได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว รู้ว่าพูดแบบนี้ เดี๋ยวรองนายกรัฐมนตรีก็อาจจะลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย จินตนาการในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ยืนยันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่เวลาตนเห็นเบาะแส หรือคำใบ้ต่างๆ ของสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งคำถาม เพื่อเตือนสติ หวังป้องกันและดักทาง ไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ถ้าหากมองว่าตนคิดผิด และมองท่านในแง่ร้ายเกินไป ท่านแค่ลุกขึ้นมาแล้วยืนยัน ว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุน สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่า รัฐบาลนี้จะไม่สนับสนุน สสร. สูตรกินรวบและรัฐบาลชุดนี้จะไม่บังคับ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องไม่ไปขอใบอนุญาตจาก สว.ก่อน ถึงจะส่งร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นมาไปทำประชามติได้แค่นั้นเอง แต่หากวันนี้ท่านยังไม่พร้อมจะยืนยัน ท่านต้องไปคุยกันก่อน แต่ในอนาคต ท่านก็เพียงไม่ทำในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่เช่นนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตนอาจจะหน้าแตกก็ได้ ถ้าท่านเปลี่ยนใจไม่ทำเรื่องดังกล่าวแล้ว ความหวังของประชาชนที่อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มใบก็จะไม่แตกสลาย ต่อหน้าต่อตาพวกเราทุกคน “นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์  อภิปรายต่อว่า ตนขอสรุปข้อเสนอแนะเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและไว้ใจประชาชน 4 ข้อ คือ 1.สนับสนุน”คำถามประชามติ”ที่เปิดกว้าง เพิ่มโอกาสที่ประชามติครั้งแรก(หากต้องทำ) จะผ่าน 2. สนับสนุนสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่เปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาขี่คอ 3. สนับสนุนการแก้ไขรายมาตราให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นแบบคู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4. สนับสนุนให้เร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ

“ความสำเร็จ หรือ ล้มเหลวของรัฐบาล ต่อการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประชาชนในความจริงใจและรักษาคำพูดและสัจจะที่ให้ไว้ประชาชน“ นายพริษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรอบเวลาการอภิปราย รัฐบาลชี้แจงไปแล้ว 4 ชั่วโมง 31 นาที 23 วินาที พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการประท้วง 8 นาที 8 วินาที รวมใช้เวลาไปแล้ว 4 ชั่วโมง 39 นาที 31 วินาที

ขณะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้รับการจัดสรรเวลา 22 ชั่วโมง อภิปรายไปแล้ว 12 ชั่วโมง 9 วินาที เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 59 นาที 51 วินาที ส่วนประธานการประชุม ได้รับการจัดสรรเวลา 2 ชั่วโมง ใช้ไปแล้ว 27 นาที 5 วินาที เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 32 นาที 55 วินาที .-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง