“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง

รัฐสภา 4 เม.ย.-“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านมา 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง ฟันธง “รัฐบาลเศรษฐา” ไม่ไว้ใจประชาชน หลังแพ้เลือกตั้งให้ก้าวไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป  เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152  เป็นวันที่2 เริ่มขึ้นในเวลา 09.05 น. โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังพักการประชุมในเวลา 02.44 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 เม.ย.)


โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รัฐบาล โดยนายกฯ  ระบุว่า จะเสร็จภายใน 18 เดือน  แต่ผ่านมา 6  เดือน  ยังวนเรือในอ่าง  คือ ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ   ทำไมไม่ให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาแทน เพราะจะมีตัวแทนสัดส่วนจากพรรคการเมือง  แต่การเดินสายทั่วประเทศของคณะกรรมการฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ไปเน้นเนื้อหาการแก้ไข  ไม่ใช่เรื่องประชามติ และไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถามที่ไปเน้นการแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจน การที่รัฐบาลจะทำประชามติ 3 ครั้ง  แต่พรรคเพื่อไทย กลับยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ทำประชามติ 2 ครั้ง และประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ  และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ทุกคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีหน้าตา เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีใครมองว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560  เพราะแก้แค่ระบบการเลือกตั้ง


“อีก 10 ปีข้างหน้าก็คงไม่มีใคร มองว่ารัฐบาลเศรษฐาประสบความสำเร็จเช่นกัน หากยังมีปัญหาเช่นเดิมที่จะให้วุฒิสภามีอำนาจล้นฟ้าและการคัดเลือกไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงให้ศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจไปเรื่อยๆ และจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามในการยุบพรรค และเป็นเครื่องมือประหารชีวิตของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม พร้อมฟันธงว่า รัฐบาลเศรษฐา ไม่มีทางไว้ใจประชาชน มาร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญ และจัดทำกติกาสูงสุด ของประเทศตามที่พวกเขามีสิทธิ์ เพราะรัฐบาลเศรษฐาที่ตั้งได้และดำรงอยู่ได้ ก็เพราะเครือข่ายอำนาจเดิม”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยังอ้างคำพูดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้ารับตำแหน่งคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทางแล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าคำพูดนั้นเป็นเพียงลมปากของนายกรัฐมนตรีที่เชื่อถือไม่ได้

“วงการทหารเขาว่ากันไว้ ว่าความไวเป็นของปีศาจ แต่ตั้งแต่ท่านนายกฯ ทำดีล ที่ต่างชาติเรียกว่า เป็นดีลปีศาจ แล้วไปตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร เราก็แทบจะเห็นว่าความว่องไวและความกระตือรือร้นของท่านนายกฯ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ดูจะระเหยหายไปหมด”นายพริษฐ์  กล่าว


นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลายเป็นตลก 6 ฉาก กับการใช้เวลา 6  เดือน เกรงว่าความล่าช้าจะทำให้ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า  และไม่มีใครรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร เกรงว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ซุ่มออก ลดทอนอำนาจประชาชน คือ มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญสูตรผสม  สูตรกินรวบกรรมาธิการยกร่างฯ และ ด่านทางผ่านวุฒิสภา

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชอบกล่าวหาว่า พวกตนและพรรคก้าวไกลเป็นพวกที่ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่  เพียงเพราะเราเชื่อในอำนาจของประชาชน แต่หากคำทำนายของตนเองเป็นจริง คิดว่ารัฐบาล ที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่กว่าความคิดของประชาชน เพราะหากสุดท้าย ถ้าไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนออกแบบเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง แต่ไปพยายามคิดค้นผลิตนวัตกรรมที่จะเข้าควบคุมเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเข้ามาล็อคสเป็ครัฐธรรมนูญ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าประชาธิปไตยที่เต็มใบ แบบนี้เค้าเรียกว่าประชาธิปไตยที่ต้องขอใบอนุญาต และเป็นใบอนุญาตที่ต้องจ่ายด้วยราคาแพงในอนาคตของประเทศนี้

“ตนไม่ปฏิเสธว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี เป็นพรรคที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ว่ามีความเชื่อมั่นแน่วแน่ในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พอเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนกำลังจะออกแบบจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไปเปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้ามาแทรกแซง ตนจำเป็นต้องถามนายกรัฐมนตรี ตกลงแล้วรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ยังเชื่อในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งอยู่หรือไม่ หรือพอมาถึงวันนี้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรก จึงประเมินว่าอาจจะไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง หรือความเชื่อมั่นจากการเลือกตั้งได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว รู้ว่าพูดแบบนี้ เดี๋ยวรองนายกรัฐมนตรีก็อาจจะลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย จินตนาการในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ยืนยันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่เวลาตนเห็นเบาะแส หรือคำใบ้ต่างๆ ของสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งคำถาม เพื่อเตือนสติ หวังป้องกันและดักทาง ไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ถ้าหากมองว่าตนคิดผิด และมองท่านในแง่ร้ายเกินไป ท่านแค่ลุกขึ้นมาแล้วยืนยัน ว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุน สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่า รัฐบาลนี้จะไม่สนับสนุน สสร. สูตรกินรวบและรัฐบาลชุดนี้จะไม่บังคับ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องไม่ไปขอใบอนุญาตจาก สว.ก่อน ถึงจะส่งร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นมาไปทำประชามติได้แค่นั้นเอง แต่หากวันนี้ท่านยังไม่พร้อมจะยืนยัน ท่านต้องไปคุยกันก่อน แต่ในอนาคต ท่านก็เพียงไม่ทำในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่เช่นนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตนอาจจะหน้าแตกก็ได้ ถ้าท่านเปลี่ยนใจไม่ทำเรื่องดังกล่าวแล้ว ความหวังของประชาชนที่อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มใบก็จะไม่แตกสลาย ต่อหน้าต่อตาพวกเราทุกคน “นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์  อภิปรายต่อว่า ตนขอสรุปข้อเสนอแนะเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและไว้ใจประชาชน 4 ข้อ คือ 1.สนับสนุน”คำถามประชามติ”ที่เปิดกว้าง เพิ่มโอกาสที่ประชามติครั้งแรก(หากต้องทำ) จะผ่าน 2. สนับสนุนสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่เปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาขี่คอ 3. สนับสนุนการแก้ไขรายมาตราให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นแบบคู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4. สนับสนุนให้เร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ

“ความสำเร็จ หรือ ล้มเหลวของรัฐบาล ต่อการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประชาชนในความจริงใจและรักษาคำพูดและสัจจะที่ให้ไว้ประชาชน“ นายพริษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรอบเวลาการอภิปราย รัฐบาลชี้แจงไปแล้ว 4 ชั่วโมง 31 นาที 23 วินาที พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการประท้วง 8 นาที 8 วินาที รวมใช้เวลาไปแล้ว 4 ชั่วโมง 39 นาที 31 วินาที

ขณะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้รับการจัดสรรเวลา 22 ชั่วโมง อภิปรายไปแล้ว 12 ชั่วโมง 9 วินาที เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 59 นาที 51 วินาที ส่วนประธานการประชุม ได้รับการจัดสรรเวลา 2 ชั่วโมง ใช้ไปแล้ว 27 นาที 5 วินาที เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 32 นาที 55 วินาที .-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

“ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายฟังคำพิพากษา ลุ้นชดใช้คดีจำนำข้าว

ศาลปกครอง 22 พ.ค.- “ยิ่งลักษณ์” ส่งทนายรอฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท คดีจำนำข้าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.30 น. ศาลปกครองสูงสุดเตรียมออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา ในคดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ต.ค. 2559 ที่ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028 บาท ในคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีที่ร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บรรยากาศที่ศาลปกครอง ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. ทุ่งสองห้องราว 20 นาย มารักษาความสงบเรียบร้อย […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย