“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง

รัฐสภา 4 เม.ย.-“พริษฐ์” ชี้รัฐบาลไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ ผ่านมา 6 เดือนยังวนเรือในอ่าง ฟันธง “รัฐบาลเศรษฐา” ไม่ไว้ใจประชาชน หลังแพ้เลือกตั้งให้ก้าวไกล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร  เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป  เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152  เป็นวันที่2 เริ่มขึ้นในเวลา 09.05 น. โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังพักการประชุมในเวลา 02.44 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 เม.ย.)


โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รัฐบาล โดยนายกฯ  ระบุว่า จะเสร็จภายใน 18 เดือน  แต่ผ่านมา 6  เดือน  ยังวนเรือในอ่าง  คือ ตั้งคณะกรรมการศึกษาการทำประชามติ   ทำไมไม่ให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาแทน เพราะจะมีตัวแทนสัดส่วนจากพรรคการเมือง  แต่การเดินสายทั่วประเทศของคณะกรรมการฯ ที่รัฐบาลตั้งขึ้น ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ไปเน้นเนื้อหาการแก้ไข  ไม่ใช่เรื่องประชามติ และไม่เห็นด้วยกับการตั้งคำถามที่ไปเน้นการแก้ไขหมวด 1 และ หมวด 2 

นอกจากนี้ ยังมีความไม่ชัดเจน การที่รัฐบาลจะทำประชามติ 3 ครั้ง  แต่พรรคเพื่อไทย กลับยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้ทำประชามติ 2 ครั้ง และประธานรัฐสภาไม่บรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ  และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ทุกคนรู้ดีว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะมีหน้าตา เนื้อหาสาระเป็นอย่างไร ทุกวันนี้ไม่มีใครมองว่ารัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ประสบความสำเร็จในการแก้รัฐธรรมนูญ 2560  เพราะแก้แค่ระบบการเลือกตั้ง


“อีก 10 ปีข้างหน้าก็คงไม่มีใคร มองว่ารัฐบาลเศรษฐาประสบความสำเร็จเช่นกัน หากยังมีปัญหาเช่นเดิมที่จะให้วุฒิสภามีอำนาจล้นฟ้าและการคัดเลือกไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน รวมถึงให้ศาลรัฐธรรมนูญขยายขอบเขตอำนาจไปเรื่อยๆ และจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมืองกับฝ่ายตรงข้ามในการยุบพรรค และเป็นเครื่องมือประหารชีวิตของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม พร้อมฟันธงว่า รัฐบาลเศรษฐา ไม่มีทางไว้ใจประชาชน มาร่วมกันออกแบบรัฐธรรมนูญ และจัดทำกติกาสูงสุด ของประเทศตามที่พวกเขามีสิทธิ์ เพราะรัฐบาลเศรษฐาที่ตั้งได้และดำรงอยู่ได้ ก็เพราะเครือข่ายอำนาจเดิม”นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ ยังอ้างคำพูดของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้ารับตำแหน่งคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบครึ่งทางแล้ว ก็ชัดเจนแล้วว่าคำพูดนั้นเป็นเพียงลมปากของนายกรัฐมนตรีที่เชื่อถือไม่ได้

“วงการทหารเขาว่ากันไว้ ว่าความไวเป็นของปีศาจ แต่ตั้งแต่ท่านนายกฯ ทำดีล ที่ต่างชาติเรียกว่า เป็นดีลปีศาจ แล้วไปตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร เราก็แทบจะเห็นว่าความว่องไวและความกระตือรือร้นของท่านนายกฯ ในการแก้รัฐธรรมนูญ ดูจะระเหยหายไปหมด”นายพริษฐ์  กล่าว


นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญกลายเป็นตลก 6 ฉาก กับการใช้เวลา 6  เดือน เกรงว่าความล่าช้าจะทำให้ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งครั้งหน้า  และไม่มีใครรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะหน้าตาเป็นอย่างไร เกรงว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญที่ซุ่มออก ลดทอนอำนาจประชาชน คือ มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญสูตรผสม  สูตรกินรวบกรรมาธิการยกร่างฯ และ ด่านทางผ่านวุฒิสภา

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลชอบกล่าวหาว่า พวกตนและพรรคก้าวไกลเป็นพวกที่ชอบเอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่  เพียงเพราะเราเชื่อในอำนาจของประชาชน แต่หากคำทำนายของตนเองเป็นจริง คิดว่ารัฐบาล ที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่กว่าความคิดของประชาชน เพราะหากสุดท้าย ถ้าไม่ยอมปล่อยให้ประชาชนออกแบบเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง แต่ไปพยายามคิดค้นผลิตนวัตกรรมที่จะเข้าควบคุมเนื้อหารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเข้ามาล็อคสเป็ครัฐธรรมนูญ แบบนี้เค้าไม่เรียกว่าประชาธิปไตยที่เต็มใบ แบบนี้เค้าเรียกว่าประชาธิปไตยที่ต้องขอใบอนุญาต และเป็นใบอนุญาตที่ต้องจ่ายด้วยราคาแพงในอนาคตของประเทศนี้

“ตนไม่ปฏิเสธว่าที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นพรรคต้นสังกัดของนายกรัฐมนตรี เป็นพรรคที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ว่ามีความเชื่อมั่นแน่วแน่ในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน แต่พอเห็นท่าทีของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนกำลังจะออกแบบจัดรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ไปเปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเข้ามาแทรกแซง ตนจำเป็นต้องถามนายกรัฐมนตรี ตกลงแล้วรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ยังเชื่อในอำนาจที่มาจากการเลือกตั้งอยู่หรือไม่ หรือพอมาถึงวันนี้ที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งแรก จึงประเมินว่าอาจจะไม่ได้เปรียบในสนามเลือกตั้ง หรือความเชื่อมั่นจากการเลือกตั้งได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว รู้ว่าพูดแบบนี้ เดี๋ยวรองนายกรัฐมนตรีก็อาจจะลุกขึ้นมาตอบโต้ว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย จินตนาการในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ยืนยันเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่เวลาตนเห็นเบาะแส หรือคำใบ้ต่างๆ ของสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่อาจจะเกิดขึ้นจำเป็นต้องตั้งคำถาม เพื่อเตือนสติ หวังป้องกันและดักทาง ไม่ให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้น ถ้าหากมองว่าตนคิดผิด และมองท่านในแง่ร้ายเกินไป ท่านแค่ลุกขึ้นมาแล้วยืนยัน ว่ารัฐบาลนี้จะสนับสนุน สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ว่า รัฐบาลนี้จะไม่สนับสนุน สสร. สูตรกินรวบและรัฐบาลชุดนี้จะไม่บังคับ สสร. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ต้องไม่ไปขอใบอนุญาตจาก สว.ก่อน ถึงจะส่งร่างรัฐธรรมนูญที่จัดทำขึ้นมาไปทำประชามติได้แค่นั้นเอง แต่หากวันนี้ท่านยังไม่พร้อมจะยืนยัน ท่านต้องไปคุยกันก่อน แต่ในอนาคต ท่านก็เพียงไม่ทำในสิ่งที่ตนสงสัย ไม่เช่นนั้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ตนอาจจะหน้าแตกก็ได้ ถ้าท่านเปลี่ยนใจไม่ทำเรื่องดังกล่าวแล้ว ความหวังของประชาชนที่อยากเห็นประชาธิปไตยเต็มใบก็จะไม่แตกสลาย ต่อหน้าต่อตาพวกเราทุกคน “นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์  อภิปรายต่อว่า ตนขอสรุปข้อเสนอแนะเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและไว้ใจประชาชน 4 ข้อ คือ 1.สนับสนุน”คำถามประชามติ”ที่เปิดกว้าง เพิ่มโอกาสที่ประชามติครั้งแรก(หากต้องทำ) จะผ่าน 2. สนับสนุนสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง 100% ไม่เปิดช่องให้อำนาจที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาขี่คอ 3. สนับสนุนการแก้ไขรายมาตราให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นแบบคู่ขนานกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 4. สนับสนุนให้เร่งพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ

“ความสำเร็จ หรือ ล้มเหลวของรัฐบาล ต่อการผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นประชาชนในความจริงใจและรักษาคำพูดและสัจจะที่ให้ไว้ประชาชน“ นายพริษฐ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรอบเวลาการอภิปราย รัฐบาลชี้แจงไปแล้ว 4 ชั่วโมง 31 นาที 23 วินาที พรรคร่วมรัฐบาล ส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการประท้วง 8 นาที 8 วินาที รวมใช้เวลาไปแล้ว 4 ชั่วโมง 39 นาที 31 วินาที

ขณะพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้รับการจัดสรรเวลา 22 ชั่วโมง อภิปรายไปแล้ว 12 ชั่วโมง 9 วินาที เหลือเวลาอีก 9 ชั่วโมง 59 นาที 51 วินาที ส่วนประธานการประชุม ได้รับการจัดสรรเวลา 2 ชั่วโมง ใช้ไปแล้ว 27 นาที 5 วินาที เหลือเวลาอีก 1 ชั่วโมง 32 นาที 55 วินาที .-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ข้ามไปหารือผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย ชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตย

สระแก้ว 17 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว เดินทางข้ามไปหารือ ผู้ว่าฯ บันเตียเมียนเจย แก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย “บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว” บอกว่า ถ้าไม่มั่นใจ ก็ไม่ไป ก่อนเวลาประมาณ 10.00 น. นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้เดินทางจากฝั่งคลองลึกอรัญประเทศของไทย ข้ามไปบริเวณปอยเปต ของกัมพูชา เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่ตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ปอยเปต เพื่อแก้ปัญหาชาวกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทย ในจุดหลังเส้นสีแดงบริเวณบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ข้อพิพาท แต่เป็นอธิปไตยของไทย โดยมี อุม เรีย ไต ผู้ ว่าราชการจังหวัดมันเตรียมเวนเจ มารอต้อนรับที่กลางสะพานมีการทักทายกันอย่างเป็นกันเอง โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ยังได้ทักทายกับพลโทเป็กวันนา หัวหัวหน้าสำนักงานประสานงานชายแดนกัมพูชา- ไทย ความสัมพันธ์ที่ดีในช่วงที่ผ่านมาว่า พลโทเป๊กวันนา ก็เคยข้ามมารักษาพยาบาลที่ฝั่งไทย โดยก่อนเดินทางไปร่วมประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่าถ้าไม่มั่นใจก็ไม่เดินทางไปเจรจาเพราะการหารือที่ขึ้นเป็นไปตามข้อตกลงของจากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC.-สำนักข่าวไทย

ไม่รอด! ศาลสั่งจำคุก “เจ๋ง ดอกจิก-ศรีสุวรรณ” กับพวก ร่วมกันรีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว

17 ก.ย. – ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนัดฟังคำพิพากษา กรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา กับเจ๋ง ดอกจิก พร้อมพวกรวม 5 คน ร่วมกันเรียกรับทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว ด้าน “ศรีสุวรรณ” เผยมั่นใจและเชื่อมั่นในคำพิพากษาว่าศาลจะให้กลับไปทำหน้าที่เหมือนเดิม ล่าสุดศาลพิพากษาคุก “เจ๋ง ดอกจิก” 6 ปี ด้าน “ศรีสุวรรณ” พร้อมพวกโดนด้วยคนละ 4 ปี นายศรีสุวรรณ จรรยา นักร้องเรียน, นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมพวกรวม 5 คน เดินทางเข้ารับฟังคำพิพากษาในข้อหาเรียกรับทรัพย์สินจากอธิบดีกรมการข้าว ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษานายศรีสุวรรณ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ผู้มีอำนาจต้องการเตะตัดขา เพราะไม่ต้องการให้ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง เพราะสิ่งที่ทำมานับ 10 ปี เป็นที่หวาดผวาของนักการเมืองและข้าราชการจำนวนมาก เรื่องร้องเรียนนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองหลายพรรค จบอนาคตการเมืองของนักการเมืองดังหลายคน จึงเป็นที่มาของการหาเหตุให้ต้องคดี โดยใช้เทคนิควิธีการ ซึ่งในภาษากฎหมายเรียกว่าล่อให้กระทำความผิด โดยการเอาถุงเงินไปแขวนหน้าบ้าน หากพฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นความผิด อนาคตอาจนำไปใช้กันทั่วประเทศและก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายต่อประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวต่อว่า […]

“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย

พรรคภูมิใจไทย 17 ก.ย.-“ลูกหมี” นำ สส.ชุมพร-อบจ.ชุมพร-ทีมพลังชุมพร ซบพรรคภูมิใจไทย มั่นใจพรรคนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า ไม่หวังประโยชน์ส่วนตัว แจงไม่ขัดแย้งกับ รทสช. ชี้เป็นเรื่องภายในพรรค ด้าน “พิพัฒน์” ตั้งเป้ากวาดที่นั่งภาคใต้มากขึ้น พร้อมเดินหน้าแลนด์บริดจ์ นายชุมพล จุลใส นำ นายวิชัย สุดสวาสดิ์ และนายสุพล จุลใส 2 สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวเตรียมร่วมงานที่พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ที่นำทีมพลังชุมพร 27 คน สมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยมีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ให้การต้อนรับและสวมเสื้อพรรคภูมิใจไทยให้กับ นายก อบจ. นายศุภชัย กล่าวว่า วันนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่งได้ต้อนรับ คณะจากจังหวัดชุมพร ที่มาให้กำลังใจนายอนุทินโดย ได้รับการยืนยันว่า จะร่วมกันพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ให้แข็งแกร่งเติบโต และมีความเจริญขึ้น โดยการนำของนายอนุทินและพรรคภูมิใจไทย ขอบคุณที่ให้โอกาสภาคภูมิใจไทยได้ไปร่วมทำงานกับพี่น้องจังหวัดชุมพร ทุกคนมีเจตจำนงที่จะสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งในสมัยต่อไป นายชุมพล กล่าวว่า ตนขอพูดในนามส่วนตัวว่ามีความมั่นใจว่าพรรคภูมิใจไทยสามารถนำพาประเทศไปได้และทำทุกอย่างให้ประเทศมีความมั่นคงให้ประเทศเดินไปข้างหน้า […]