“ดิจิทัลวอลเล็ต” เละเทะ ขายผ้าเอาหน้ารอด เปลี่ยนแหล่งที่มาหลายรอบ

รัฐสภา 3 เม.ย.-“ศิริกัญญา” ซักฟอก “ดิจิทัลวอลเล็ต” บอก เละเทะ ขายผ้าเอาหน้ารอด เปลี่ยนแหล่งที่มาหลายรอบ แถลงเก่งแต่ไม่มีเนื้อ ระบุ “เศรษฐา” เป็นนายกฯ พาร์ทไทม์ ที่เหลือเอาเวลาไปบิน


ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระการประชุมอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในธีม “ปัญหาเฉพาะหน้ารอได้ ปัญหาระยะไกลไม่เห็นทางออก” โดยใช้เวลากว่า 40 นาที

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า รัฐบาลขยันแถลงผลงานมาก หลายโครงการที่อยู่ในระดับที่ขับเคลื่อนส่งเสริม เร่งรัด แต่ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมอก็เอาบรรจุเป็นผลงานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลายเรื่องเล็กน้อยมาก จนงงว่าเอามาเคลมได้ด้วยหรือ เช่น ขยายเวลาการเปิดสนามบินเชียงใหม่ 24 ชั่วโมง เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนตั้งตารออยู่ แต่เอามาเป็นผลงานได้จริงหรือ ผลงานรัฐบาล พอมาเปรียบเทียบกัน 3 เดือนและ 6 เดือน ก็พบว่ามีการผลิตซ้ำ ไม่มีอะไรใหม่  เรื่องเพิ่มรายได้มีเพิ่มมาแค่ 2 เรื่อง คือการปรับลดภาษีไวน์และสุราแช่ สุรากลั่นของชาวบ้านยังรออยู่ และยางพาราทะลุ 80 บาท


“จาก 3 เดือนเป็น 6 เดือนผลงานน้อยมาก เรื่องการขยายโอกาส ไม่ต้องพูดถึง แบบนี้เป็นเพราะว่านายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรีแบบพาร์ทไทม์หรือไม่  อีกส่วนหนึ่งของเวลาเอาไปใช้กับการเป็นเซลล์แมนของประเทศ เลยทำให้ไม่มีใครมาบริหารราชการแผ่นดินแบบฟูลไทม์ สิ่งที่เราเฝ้ารอคือเรื่องการฟื้นฟู กระตุ้น หรือพยุงเศรษฐกิจให้ดีขึ้นแต่กลับไม่เห็น”นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องแรกมาตรการลดรายจ่ายของรัฐบาลกำลังหมดอายุ พี่น้องประชาชนก็สอบถามว่าการลด ลดไปตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว จะยังใส่มาทำไม ทำให้หนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) เป็นภาระที่ต้องจ่ายเพิ่ม สะสางเพิ่ม ตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไป การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเบนซิน 1 บาทต่อลิตร หมดอายุไปตั้งแต่ 31 ม.ค. 67 , ลดภาษีน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร ก็จะหมดอายุไป 19 เม.ย. 67 ตนขอให้พี่น้องประชาชนเตรียมตัวรับมือไว้ ทุกวันนี้เราก็ยังตั้งคำถามว่าจะเอาอย่างไรต่อ เรื่องการลดค่าของชีพ โดยไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาระยะยาว

สิ่งที่รัฐบาลลดค่ารายจ่าย มีภาระที่เกิดขึ้น เช่น กองทุนน้ำมัน ส่วนเรื่องลดภาษี ดูทรงแล้วก็คงไม่ได้ไปต่อ เพราะ ครม.ไม่อนุมัติ กรมสรรพสามิตก็เก็บภาษีหลุดเป้า 3.2 หมื่นล้านบาท ภาระจึงตกไปอยู่ที่กองทุนน้ำมัน เเล้วก็กู้จนเต็มเพดานไปแล้ว


“ท่านจะมีแผนการจัดการอย่างไรของสถานะกองทุนน้ำมันจะมีออก พ.ร.บ. ขยายวงเงินกู้กองทุนน้ำมันหรือไม่ แล้วจะมีพื้นที่ทางการคลังเหลืออยู่หรือไม่ เพราะเมื่อกู้แล้ว จะกลายเป็นหนี้สาธารณะ  ในเมื่อท่านต้องการกั้นพื้นที่นี้ไว้ทำดิจิทัลวอลเล็ต” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

ส่วนเรื่องการเพิ่มรายได้ นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า เรื่องยางพารา  ตนเชื่อที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พูดแล้วว่า ดีจริงๆ แต่สิ่งที่อยากจะชี้ให้เห็นก็คือเรื่องยางเถื่อน

“ท่านธรรมนัสบอกว่าย้ายใครก็ย้ายได้ แต่ลองไปดูรายชื่อสิคะ มีแต่คนระดับปลาซิว ปลาสร้อยทั้งนั้นเลย แถมผลสอบก็ออกมาว่าไม่ผิดอะไร จะเป็นไปได้อย่างไร ที่เราควบคุมการนำเข้ายางพาราเถื่อน เพียงแค่ใช้ทหารควบคุมชายแดน โดยที่ไม่ได้ตรวจตราด่านศุลกากรที่ปล่อยให้มีการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวถึงนโยบายเศรษฐกิจมากมาย เช่น นโยบายการออกรถ การพยุงกำลังซื้อ พร้อมตั้งคำถามว่า ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้  ในเมื่องบประมาณ 67 ก็ออกมาแล้ว เราจะได้เห็นมาตรการอะไรที่จะช่วยพยุงกำลังซื้อในระยะสั้น

ส่วนในระดับโครงสร้าง นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า นโยบายวีซาฟรีไม่ได้ช่วยอะไรในภาคส่วนการท่องเที่ยว บอกว่าเป็นการคิดใหญ่ทำเล็ก เพราะไม่ได้ตอบโจทย์ปัญหาที่เราเผชิญกันอยู่ในตอนนี้ หากคิดว่าการที่นักท่องเที่ยวลดลงเป็นเพราะสถานการณ์โควิด เดี๋ยวนักท่องเที่ยวก็คงกลับมา เราก็จะให้วีซ่าฟรีคิดในระยะสั้น แต่เมื่อเรามาดูโครงสร้างพบว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไปแล้ว จำนวนที่นั่งในเที่ยวบินนักท่องเที่ยวจากจีนมาไทยลดลง โดนญี่ปุ่นแซงไปแล้ว และยังมีเกาหลีใต้ที่หายใจลดต้นคอ

“ถามว่านโยบาย Tourism Hub ของนายกรัฐมนตรีจะช่วยอะไร นอกจากนี้ การเจรจา FTA ยังสูญเปล่า เพราะผู้ส่งออกไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ ภาคส่งออกก็ย้ำแย่กว่าประเทศอื่นที่อยู่ในระดับเดียวกัน อยากให้รัฐบาลคิดถึงความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะกับจีนที่กำลังตีตลาด และทำให้ไทยขาดดุลการค้า ประชาชนก็ก้มหน้าก้มตารับกรรม จึงต้องทวงถาม เพราะนายกรัฐมนตรีไปให้สัมภาษณ์ว่าประเทศจีนเป็น “บิ๊กบราเทอร์” และ “ตั่วเฮีย” ตนไม่ได้ปกป้องในทุกอุตสาหกรรม แต่ตอนนี้ปลาใหญ่ทยอยกินปลาเล็กไปหมดแล้ว จะคุยกับตั่วเฮียว่ายังไง”นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่าเราจะเป็น Last Man Standing เป็นฐานการผลิตสุดท้ายของรถยนต์สันดาป เราเป็นได้ แต่ต้องเตรียมการเพื่อเปลี่ยนผ่าน วันนี้มีแรงงานที่เสี่ยงตกงาน 800,000 คน เรายังคงวนเวียนอยู่กับสินค้าในโลกเก่า กำลังจะตกยุค หรือลดความสำคัญลง แล้วรัฐบาลมีนโยบายรองรับหรือไม่ ตนพยายามหาแล้ว ไม่มีการพูดถึง

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า อย่างน้อยเราก็โชคดีที่ประเทศไม่มีวิกฤตเศรษฐกิจอีกต่อไป รัฐบาลเลิกพูดแล้วว่า ประเทศเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจ

“ก็ต้องบอกว่าที่เราผ่านพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจมาได้ ไม่ได้เป็นเพราะรัฐบาลสามารถทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ ไม่ได้เกิดจากการที่พระสยามเทวาธิราชปกป้องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์องค์ใด แต่เกิดจากองค์กรที่เรียกว่า ป.ป.ช. ที่มาแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจให้กับเรา โดยออกรายงานมาฉบับหนึ่ง เพื่อเป่ากระหม่อมบอกว่า ไม่มีวิกฤต จากนั้นรัฐบาลก็เลิกพูดว่ามีวิกฤตเศรษฐกิจทันที” นางสาวศิริกัญญา  กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า การประโคมข่าวร้ายว่าประเทศกำลังวิกฤต ก็เพื่อจะได้ใช้กลไกพิเศษในการกู้เงินไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น  ซึ่งในที่สุดก็มีความคืบหน้าเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียดเป็นครั้งที่ 5 รัฐบาลที่แถลงก็ยิ่งเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะแหล่งที่มาของเงิน ทั้งงบ 67 , กู้ออมสิน , งบผูกพัน 67-68 , พ.ร.บ.เงินกู้ เป็นต้น รอบนี้จะเป็นครั้งที่ 5 คาดว่าน่าจะใช้แหล่งเงินจาก 3 แหล่ง คืองบกลางปี 67 , งบปี 68 และการกู้จาก ธกส. ซึ่งเป็นวิธีที่พิสดารพอสมควร นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนเงื่อนไขไม่หยุด ทั้งคุณสมบัติ ช่องทาง และระยะเวลา

“ความสับสนอลหม่านแบบนี้ แม้แต่กองเชียร์ก็ยังเหนื่อยที่จะแบกเลย สำหรับแอพพลิเคชัน เปิดฉากมาอย่างเร้าใจ ว่าจะใช้ซุปเปอร์แอพ บล็อกเชนด้วย ต่อมาบอกไม่เอาแล้ว จะใช้เป๋าตังค์ ทุกวันนี้ได้ข่าวว่ากรุงไทยบอกว่าไม่ทำ อาจจะต้องมีแอพเป็นของตัวเอง เอาใจช่วยค่ะ ว่าจะเสร็จทันไตรมาส 4 ของ ปี 67 หรือไม่” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า 3 แหล่งที่มาของงบที่ตนได้ทำนายไว้ เป็นการออกสู่ทะเลไปแล้ว เพราะมูลค่า 5 แสนล้านบาท ก็มาจากการกู้อยู่ดี

“ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเละเทะ  จากการที่จะต้องเปลี่ยนแหล่งเงินไปมาประมาณ 5 ครั้ง ยังไม่รู้ว่าจะมีรอบที่ 6 หรือไม่ เลื่อนการแจกอย่างน้อย 4 ครั้ง มีการเปลี่ยนเทคโนโลยีแอพพลิเคชันที่ใช้ เปลี่ยนเรื่องจำนวนคนตลอดเวลา มันทำให้ชวนคิดเขาว่า สรุปแล้วรัฐบาลนี้มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศมาก่อนจริงหรือไม่  เรื่องความรู้ความเข้าใจการคลัง ทำให้ตกใจว่าทำไมถึงกล้าออกนโยบายแบบนี้มาได้ และการที่ต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเยอะขนาดนี้ ยิ่งแสดงว่าไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมใดๆ มาตั้งแต่เริ่มต้น ถึงต้องขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆ แบบนี้ แล้วท่านก็ขยันแถลงมาก เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าอาทิตย์เดียว แถลงไปถึง 2 ครั้งโดยที่ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า ประเทศได้รับความเสียหาย เพราะโมเมนตัม หรือพายุหมุนทางเศรษฐกิจจะไม่เกิด คนอาจจะไม่เชื่อมั่น จึงเป็นปัญหาที่ตนคิดว่าไม่ใช่เป็นเพราะนโยบายใดนโยบายหนึ่ง จึงอยากเรียกร้องรัฐบาล เรียกร้องความเชื่อมั่นกลับคืนมาในระบบเศรษฐกิจได้แล้ว ตอนนี้ทำได้ไม่กี่นโยบายก็นิ่งสนิท แล้วยังต้องให้ประชาชนรอไปอีก.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำไทยเลือกสันติวิธี แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- นายกฯ ลั่น “ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด” ย้ำไทยเลือกสันติวิธี ปมชายแดนไทย-กัมพูชา แต่หากปะทะเราพร้อม ยอมรับเป็นเพื่อนที่ดี แต่จะขอบ้านเราไม่ได้ หลังถูกจี้ถาม “ตระกูลชิน” เกี่ยวดอง “ฮุน เซน” แจงปิดด่านต้องประเมินคุณ-โทษ บอกปรึกษาทหารแล้ว งง สื่อฯ ทำไมวันนี้ ดุจัง ปลอบ ไม่เป็นไรนะ ไม่ได้ลงพื้นที่ดูหน้างาน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ชายแดน ว่า ได้เน้นย้ำสถานการณ์ชายแดนจังหวัดอุบลราชธานี ต้องรวมกันเป็นหนึ่ง สิ่งสำคัญมาก ๆ คนไทยต้องรักกันสามัคคีกัน ไม่ใช่การเมืองในประเทศที่จะต้องมีการแบ่งฝ่ายกัน ทุกๆ ฝ่ายต้องช่วยกันรวมทั้งสื่อมวลชนด้วย ต้องสื่อสารเรื่องนี้ว่าถึงเวลาที่เรามีปัญหาระหว่างประเทศเราต้องสามัคคีกัน ต้องใช้ความเป็นหนึ่ง รักกันของคนในชาติ รัฐบาลไม่ใช่พรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่ง ฝ่ายค้าน รัฐบาลก็คือประเทศไทย และการแสดงความเห็นและการปล่อยข่าวปลอมเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น นายกรัฐมนตรี กล่าววว่า ถ้าถามว่ารัฐบาลเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น รัฐบาลทำเต็มที่และรักษาอธิปไตยของเราเป็นสิ่งที่จำเป็น รัฐบาลและทหาร คุยกันตลอดว่า จะไปทางไหนอย่างไรเราต้องมั่นใจว่าเราเป็นประเทศไทยเพลงชาติไทย เขาเรียกว่า […]

‘อี แจ-มยอง’ คว้าชัยเลือกตั้ง ปธน.เกาหลีใต้

โซล 4 มิ.ย. – อี แจ-มยอง ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปไตย ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศชัยชนะต่อผู้สนับสนุน ขณะที่ คิม มุน-ซู คู่แข่งจากพรรคพลังประชาชน ออกมายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว นายอี ได้ชัยชนะการเลือกตั้งหลังจากการนับคะแนนผ่านไปร้อยละ 94.4 และเมื่อช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน นายอี ได้คะแนนเสียงไปแล้วร้อยละ 48.8 และนายคิม คู่แข่งคนสำคัญจากพรรคพลังประชาชน แนวอนุรักษ์นิยม ได้ร้อยละ 42 แม้ว่าคะแนนที่ยังไม่ได้นับ จะตกเป็นของนายคิมแต่ก็ยังตามนายอีไม่ทัน ซึ่งทำให้นายอี ยืนยันชัยชนะของเขาเป็นที่เรียบร้อย สำหรับตัวเลขผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเบื้องต้นอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 28 ปี นับตั้งแต่การเลือกตั้งในปี 2540 ในจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 44.4 ล้านคน มีผู้มาใช้สิทธิราว 35.24 ล้านคนตามหน่วยเลือกตั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศ จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 77.1 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งก่อนในปี 2565 นายอีกล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมหน้าที่ของประธานาธิบดีในการสร้างความเป็นเอกภาพของผู้คนในประเทศ และว่าเขาจะหาวิธีให้ประเทศอยู่ร่วมกับเกาหลีเหนือได้โดยผ่านการเจรจาและพูดคุยกัน ด้าน นายคิม […]

รัฐบาลออกแถลงการณ์ปมไทย-กัมพูชา ยันปกป้องอธิปไตยเต็มที่

ทำเนียบ 4 มิ.ย.- รัฐบาล ออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยัน ตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยเต็มที่ ยึดหลักแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักมนุษยธรรม และสวัสดิภาพของประชาชน ย้ำ ชายแดน มีความสงบเรียบร้อย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากการประชุมทุกภาคส่วนของ รัฐบาลภายหลังเกิดเหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย -กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เช้าวันนี้ 4 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าวดังต่อไปนี้ แถลงการณ์รัฐบาล “กรณีสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชา” รัฐบาลขอยืนยันว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตยและคุ้มครองบูรณภาพของดินแดนไทยอย่างเต็มที่โดยยึดหลักการในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี สอดคล้องตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และยึดมั่นในหลักมนุษยธรรม โดยจุดเริ่มต้นของสถานการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ในขณะที่กองกำลังฝ่ายไทยลาดตระเวนตามปกติในพื้นที่ฝ่ายไทยซึ่งเป็นแนวที่ถือปฏิบัติเสมอมา แต่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะกันในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างกองกำลังไทยและกัมพูชา ที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีสถานการณ์จากการปะทะดังกล่าวทำให้กองกำลังไทยจำเป็นต้องป้องกันตัว และปกป้องพื้นที่อธิปไตยของไทย เป็นการดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ภายหลังจากเกิดเหตุรัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้หารืออย่างใกล้ชิดในทุกระดับรวมถึงนายกรัฐมนตรี […]

อุตุฯ เผยไทยฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย