“ชัยธวัช” แถลงเปิดซัดแรง รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ

รัฐสภา 3 เม.ย.-ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ม.152 วันแรก “ชัยธวัช” แถลงเปิดซัดแรง รัฐบาลทำงานไร้ประสิทธิภาพ เพิกเฉยนโยบายที่แถลงไว้กับสภาฯ ทำลายหลักนิติธรรม ขณะนายกฯ ลุกแจงทันควัน ติงเริ่มต้นก็พูดแรง พร้อมแจงนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุง

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(3 เม.ย.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมชี้แจงอย่างพร้อมเพรียง


ก่อนการประชุม วิป 3 ฝ่าย ได้หารือและได้ข้อสรุปจประชุม 2 วัน คือ วันที่ 3 – 4 เม.ย. 2567 โดยวิปรัฐบาลได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า พรรคฝ่ายร่วมค้านได้เวลาอภิปราย 22 ชั่วโมงตามเดิม ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลจากเดิมกำหนดไว้ 8 ชั่วโมง ปรับเป็นไม่ได้กำหนดกรอบเวลา แต่ขึ้นอยู่กับการชี้แจงการอภิปรายจนสิ้นข้อสงสัย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจประธานสภา และรัฐมนตรี ซึ่งในวันนี้ (3 เม.ย.) จะอภิปรายถึงเวลา 01.00 น. และในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) จะอภิปรายถึงเวลา 23.00 น. 

จากนั้นเวลา 09.30 น. นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ยื่นญัตติ ได้แถลงเปิดการอภิปราย ว่า คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายที่ให้ไว้ต่อรัฐสภา หาผลงานไม่ได้ หลักนิติธรรมถูกทำลาย ด้วยการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม สองมาตรฐาน บริหารราชการอย่างไร้จริยธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความจริง ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม


ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลแถลงนโยบายจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถด้วยนโยบายการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลอวดอ้างว่าจะจุดชนวนกระตุ้นเศรษฐกิจให้แพร่หลาย เป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะดำเนินการต่อ จะสร้างหนี้สินของประเทศมากขึ้น นโยบายลดรายจ่าย แต่สุดท้ายค่าครองชีพกลับเพิ่มขึ้น อวดอ้างสร้างโอกาสให้ประชาชน แต่กลับมีนโยบายสร้างโอกาสให้กลุ่มทุน วาทกรรมชูลดความเหลื่อมล้ำ แต่กลับบริหารราชการแผ่นดินที่สร้างความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนมากขึ้น ขายฝันสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น แต่รัฐบาลยังไม่มีปัญญาทำได้ รัฐบาลแถลงนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ความเป็นจริงกลับไม่นำพาต่อประโยชน์ของประชาชน  มิหนำซ้ำยังปิดกั้นโอกาสของประชาชน ปัญหาหนี้สิน ยังไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรที่ยังต้องทนทุกข์กับหนี้สินที่เกิดขึ้น

นายชัยธวัช กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งเราหวังว่า จะได้ผู้นำประเทศที่ต่างจากผู้นำหลังรัฐประหาร แต่เรากลับได้นายกฯ ที่ไร้วุฒิภาวะไปอีกแบบ ขาดภาวะผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นในความชัดเจนของรัฐบาล ซ้ำร้ายมีวิธีคิดจัดตั้งรัฐมนตรีแบบเดิม จัดตั้งตามโควต้า แทนการจัดสรรบุคลาการที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละกระทรวง ประชาชนคาดหวังการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตามที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับพบวิกฤติศรัทธาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน รวมถึงในระบบราชการที่เต็มไปด้วยระบบตั๋ว ระบบส่วย จนประชาชนไม่สามารถไว้วางใจในกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน

“ท่านไม่ต้องพูดว่า ถ้าไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่ เพราะประชาชนต้องการอยู่ในระบบเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรี ภาพ และได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ในกฎหมายฉบับเดียวกัน อยากเห็นระบบการเมืองที่นำพาชาติไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เจอคือ ประชาธิปไตยแบบที่ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ผู้นำทางการเมือง ลุแก่อำนาจ ได้คืบเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ ผูกขาดอำนาจทางการเมืองแก่ผู้มีอิทธิพลไม่กี่กลุ่ม ทำให้เกิดสภาวะการเมืองที่ไม่ตอบสนองความต้องการแบบใหม่ของประชาชนได้ จากข้อเท็จจริงดังที่กราบเรียนมาแล้ว เป็นข้อยุติแล้วว่า รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งหลักนิติธรรม ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ทำให้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สภาวะสังคมล้มเหลว เลือกปฏิบัติ ไร้มาตรฐาน สร้างความเหลื่อมล้ำ เหยียบย่ำประชาชน เศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมเสื่อมถอย ประชาชนยากไร้ รับใช้พวกพ้อง สนองกลุ่มทุน” ” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว


นายชัยธวัช กล่าวว่า เราคาดหวังว่าจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต่างจากผู้นำรัฐประหาร แต่ปรากฏว่าเรากลับได้นายกรัฐมนตรีที่ไร้ภาวะผู้นำ หลายคนสับสนว่าเป็นใครมีอำนาจทำอะไรได้บ้าง แต่นายกรัฐมนตรีขาดความเป็นผู้นำ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความชัดเจนของทิศทางรัฐบาล ซ้ำร้ายยังมีวิธีคิดในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแบบเดิมๆ ที่จัดสรรตามโควตาสมบัติผลัดกันชม แทนที่จะสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม ในการเข้ามาบริหารกระทรวงต่างๆ

“หลังจากจัดตั้งครม. เห็นท่านรัฐมนตรีหลายท่านสิ้นหวัง แล้วพอรัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศมากกว่าครึ่งปีแล้ว ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ปากท้องดีขึ้น แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนพบคือการดำเนินนโยบายที่สับสน คิดไปทำไป นโยบายที่เป็นเรือธงของรัฐบาล ขาดยุทธศาสตร์และแนวทางที่ชัดเจน ไม่เป็นรูปธรรม ไม่ตรงเป้าหมาย แทนที่ประชาชนจะได้เห็นการบริหารราชการแผ่นดินที่เปิดโอกาสให้ประชาชนลืมตาอ้าปากอย่างเสมอภาค เท่าเทียม เป็นธรรม กลับเห็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ผูกขาด เอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่เต็มไปหมด หลายนโยบายแอบอ้างประชาชนบังหน้า แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างน่าละอาย” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า ประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ตอนเริ่มจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนอยากเห็นการจัดทำประชามติโดยเร็ว แต่ก็ยังวกไปวนมา พี่น้องประชาชนไม่แน่ใจว่าตกลงรัฐบาลจะเอาอย่างไรต่อการปฏิรูปการเมือง มิหนำซ้ำเมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วกลับพบว่าหากจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทัน เราอาจจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แม้จะใหม่ แต่ไม่ไว้วางใจประชาชนเหมือนเดิม เมื่อเวลาผ่านไปพบว่ากระบวนการนิติสงครามยังดำเนินการต่อไป ไม่ต่างจากหลังรัฐประหาร สถานการณ์ปราบปรามประชาชนที่มีความเห็นต่าง

“สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนเริ่มเห็นสัญญาณว่าถูกคุกคามแทรกแซง พี่น้องประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เห็นการฟื้นฟูนิติธรรม นิติรัฐที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับเกิดวิกฤติศรัทธาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยเป็นมาก่อนในตำรวจ กระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซ้ำเติมวิกฤติศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลังการรัฐประหาร ประชาชนคาดหวังระบบการเมืองที่เดินไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เราเจอผู้นำทางการเมืองผู้มีอิทธิพลทางการเมืองลุแก่อำนาจ พยายามผูกขาดอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจให้อยู่ในมือของชนชั้นนำไม่กี่คน แทนที่เราจะเห็นการยกระดับทางการเมืองเดินไปข้างหน้า สร้างการเมืองแบบใหม่เรากลับเจอการเมืองที่พยายามทำลายสิ่งใหม่เพื่อรักษาสิ่งเก่า” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า สภาวะทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้เราตกอยู่ในสภาพการเมืองที่ไม่สามารถตอบสนองความคิดใหม่ ๆของประชาชน ไม่สามารถตอบสนองความต้องการแบบใหม่ คือสถานการณ์ที่สภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องวิเคราะห์วิจารณ์ตั้งคำถามเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงทันที ว่ามีความยินดีที่หากมีประเด็นไหนที่ไม่ชัดเจน พร้อมจะให้ความกระจ่าง หากมีข้อเสนอแนะ บางเรื่องเชื่อว่าจะนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและในเวลา 2 วัน จะพูดคุยกันอย่างสร้างสรร ให้ประชาชนได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

“เริ่มต้นก็พูดแรงพอสมควรทั้งสิ้นหวัง ล้มเหลว ปฏิรูป ถอยหลัง ทำลาย แต่ก็มีอีกด้านคือมีหวัง พัฒนา ก้าวหน้า เราก็เดินหน้าไป บอกว่า ปิดบัง เราก็โปร่งใส หลายอย่างที่รัฐบาลพยายามทำเป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของแสงสว่าง หากยังมีเรื่องกังขาก็ขอให้บอกมา รัฐมนตรีพร้อมชี้แจงหลังทำงานมา 6 เดือน และสภาฯ เพิ่งอนุมัติงบฯ เชื่อมั่นว่าทำงานอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส พร้อมชี้แจง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายเศรษฐา ชี้แจงกรณีหนี้สินประชาชนว่า ตั้งคณะทำงานดูแลหนี้นอกระบบ เรื่องพลังงานก็ดูแลราคาเบนซิน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี และจะมีขั้นตอนทำงานต่อไป ไม่ได้เพิกเฉย ปัญหายาเสพติดมีคณะทำงานโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาไตรมาส 4 จับยาบ้ามากว่าปีก่อนทั้งปี ซึ่งเห็นว่ากวดขันเป็นอย่างดี 

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในส่วนของการท่องเที่ยว สร้างรายได้ มีวีซ่าฟรี ทั้งไทยและจีนที่เดินหน้าทำให้การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวดีขึ้น ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางไปหลายประเทศ เพื่อให้พาสปอร์ตไทยมีพลังมากขึ้น รายได้เกษตรกร ตระหนักดีเพราะมีสส.314 เสียง ทุกคนเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเราพร้อมรับฟัง กรณีราคายางจาก 30 บาทไปเกือบ 100 บาท ราคาข้าวก็สูง พืชผลอื่นก็ดี ไม่มีประท้วง กระทรวงพาณิชย์พยายามไปเปิดตลาดใหม่ กำหนด KPI ทูตพาณิชย์ให้ทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้ราคาพืชผลดีขึ้น PM 2.5 รัฐบาลเสนอพ.ร.บ.อากาศสะอาดเข้าสภาฯ  แม้ จ.เชียงใหม่ จะยังอากาศไม่ดี แต่เมื่อเปรียบเทียบ จำนวนฮอตสปอตลดลง

“รัฐบาลให้ความสำคัญของประชาชนทุกคน ผมเดินทางบ่อย รวมเกือบ 10 กว่าครั้ง การเดินทางกว่าครึ่ง คือควรต้องไป ทั้งเวทีอาเซียน และเราเป็นน้องใหม่เพิ่งรับตำแหน่ง ต้องไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้ไทยมีตัวตนในเวทีโลก การไปแต่ละครั้งมีคุณภาพ รวมถึงการเจรจา FTA เพื่อยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาเพราะเพิ่งเข้ามาแค่ 7 เดือนเท่านั้น หากสมาชิกมีข้อเสนอแนะอะไรที่ดี ยินดีรับฟัง และหากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานและเหตุผล เช่น เรื่องกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หลังประเทศผ่านการเลือกตั้งมา เชื่อว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีต ผกก.ขับรถปาดหน้า-ชัก M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง

สงขลา 11 พ.ค. – การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี เดือด ลูกชาย สส.สงขลา ทำร้ายตำรวจคุมหน่วย ส่วน จ.นครศรีธรรมราช อดีตผู้กำกับขับรถปาดหน้าและชักปืน M16 ขู่อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เดือด นายชวลิต เจริญพงษ์ อดีตนายกเทศมนตรีที่วัง และปัจจุบันเป็นผู้สมัครรองนายกเทศมนตรีที่วัง เบอร์ 2 เข้าแจ้งความที่ สภ.กะปาง ว่าถูก พ.ต.อ.พิรุณ อดีต ผกก.ที่ปรึกษาผู้สมัครนายกเทศมนตรีอีกทีม ขับรถไล่ตามและใช้ปืน M16 ข่มขู่ โดยก่อนเกิดเหตุได้ไปกินข้าวที่ร้านอาหารกับผู้ใหญ่บ้าน ม.1 ต.ที่วัง ได้เจ้อกับลูกน้องคนสนิทของ พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก เข้ามาพูดจาข่มขู่ พวกตนจึงหนีขึ้นรถเพื่อตัดปัญหา แต่ปรากฏว่าเมื่ออกจากร้านได้เพียง 10 เมตร พ.ต.อ.พิรุณ ได้ขับรถแวนเชฟโรเลตสีขาวปาดหน้า และลงจากรถพร้อมปืน M16 วิ่งมาที่รถของตน เห็นท่าไม่ดี จึงหักพวงมาลัยขับรถหนีและเข้ามาแจ้งความ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.พิรุณ พร้อมพวก […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]

ผบ.ตร. สั่งกองวินัยเตรียมสอบ ปมมติแพทยสภาลงโทษหมอ

ผบ.ตร. รับทราบกรณีแพทยสภาลงโทษหมอ ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 สั่งกองวินัยเตรียมสอบ หากเป็นแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษ 3 แพทย์ เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14

คณะกรรมการแพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 ท่าน เซ่นปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ โดยว่ากล่าวตักเตือน 1 ท่าน พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ 2 ท่าน เผยมติที่ประชุมมีความเห็น “เป็นเสียงส่วนใหญ่มาก มาก มาก”

ข่าวแนะนำ

พบสารก่อมะเร็ง จากเหตุไฟไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ฉลองกรุง

กรุงเทพฯ 13 พ.ค. – พบสารพิษบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเฟอร์นิเจอร์ ย่านฉลองกรุง 55 แนะผู้สูดดมไปตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กแจ๊ส” เผยไม่สนใจ-ไม่ให้ค่า ชี้มีหลาย “J”

13 พ.ค. – หลัง “สส.ฟลุ๊ค มนัสนันท์” จากพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเดือดทางเฟซบุ๊ก “กูไม่กลัวมึง ไอ้ J” ล่าสุด “บิ๊กแจ๊ส” ออกมายืนยันไม่สนใจ พร้อมระบุลูกชายตนสอนมาดี รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ ไม่ก้าวร้าว ความคืบหน้าประเด็นร้อนการเมืองท้องถิ่น จ.ปทุมธานี หลังเพิ่งผ่านการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 2568 เมื่อวันที่อาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่คล้อยหลังเพียง 1 วัน สส.พรรคใหญ่ในพื้นที่ปทุมธานี คือ นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หลีนวรัตน์ เคลื่อนไหวทางเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยบางโพสต์มีความเกี่ยวข้องกับการจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ และบางโพสต์ได้ท้าทายว่าไม่กลัวบุคคลอักษรเจ (J) วันนี้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เปิดใจกับทีมข่าวสำนักข่าวไทย ระบุว่า อย่าไปให้ค่า ตัวเจ (J ) […]

แจ้งข้อหาซ่องโจร “สจ.กอล์ฟ” และพวก เพิ่มอีก 1 ข้อหา

สงขลา 13 พ.ค. – ตำรวจแจ้งข้อหา “ซ่องโจร” เพิ่มอีก 1 ข้อหา แก๊ง “สจ.กอล์ฟ” คดีรุมทำร้ายตำรวจหน้าหน่วยเลือกตั้งตำบลพะวง จ.สงขลา เตรียมนำตัวส่งศาลวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.) ญาติขอค้านประกันตัว หวั่นอิทธิพล คดีนายสิรดนัย หรือ สจ.กอล์ฟ สจ.เขต 7 จ.สงขลา สั่งการให้ลูกน้องไปรุมทำร้ายร่างกาย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ตำรวจ ตชด. ประจำหน่วยเลือกตั้งเทศบาลตำบลพะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้งขณะไปลงคะแนน ก่อนตำรวจรวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ และวานนี้ (12 พ.ค.) นายสมยศ หรือ โกถึก สส.เขต 3 จ.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพ่อ นำ สจ.กอล์ฟ เข้ามอบตัว ส่วนลูกน้องอีก 6 คน ถูกจับกุมตัวได้หมดแล้วเช่นกัน […]

“ปชน.” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้นพรรค-ตัดสิทธิทุกอย่าง

รัฐสภา 13 พ.ค.- “เท้ง” ประกาศดอง “งูเห่า” ไม่ขับ “สส.กฤษฎิ์” พ้น ปชน.ตามต้องการ ส่งตีความหนังสือเข้าข่ายลาออก พ้น สส.หรือไม่ พร้อมตัดสิทธิทุกอย่างในโควตาพรรค นายณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองหัวหน้าพรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมกันแถลงตอบโต้นางสาวกฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ พรรคประชาชน เขต 6 จังหวัดชลบุรี ทำหนังสือ ขอยุติบทบาทภายในพรรคและขอให้พรรคประชาชนขับออก นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าได้รับฟังเหตุผล ที่น.ส.กฤษฎิ์แถลงต่อข้อกล่าวหาว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการผลักดันนโยบายจึงต้องการขับเคลื่อนงานในพื้นที่ และอ้างว่าไม่เคยได้รับงบประมาณจากพรรคในการทำกิจกรรมนั้น ยืนยันว่าพรรคได้สนับสนุนการทำงานในพื้นที่มาโดยตลอด ฝ่ายนโยบายพรรคเคยอนุมัติงบในส่วนกลางเพื่อให้ไปทำกิจกรรมรับฟังความเห็นต่อการพัฒนานโยบายของพื้นที่ศรีราชาตามที่ได้ร้องขอเข้ามา ซึ่งสส. คนอื่นก็ทำงานได้อย่างราบรื่นและได้รับการสนับสนุน และที่บอกว่าการทำงานในคณะกรรมการธิการคมนาคม ไม่ได้รับการสนับสนุนนั้นนับตั้งแต่เริ่มเปิดสภา เราจะให้สส.ทุกคนได้เสนอมาว่าอยากได้ทำงานในกรรมาธิการฯในคณะใด แต่เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะได้รับการเป็นกรรมาธิการในอันดับหนึ่งที่เลือก แต่น.ส.กฤษฎิ์ก็ได้ตามที่ต้องการและยังได้เป็นรองประธาน อนุกรรมาธิการ ฯ เรื่องงานก่อสร้างท่าเรือ และยังมีมติให้ศึกษาดูงานเพื่อรับฟังปัญหาทางต่าง ๆ จากประชาชนที่อยู่ในเขตท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนเรื่องการไม่ได้รับความเคารพเรื่องสภานะทางเพศนั้น นายปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่า […]