“ชัยธวัช” แถลงเปิดซัดแรง รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ

รัฐสภา 3 เม.ย.-ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติ ม.152 วันแรก “ชัยธวัช” แถลงเปิดซัดแรง รัฐบาลทำงานไร้ประสิทธิภาพ เพิกเฉยนโยบายที่แถลงไว้กับสภาฯ ทำลายหลักนิติธรรม ขณะนายกฯ ลุกแจงทันควัน ติงเริ่มต้นก็พูดแรง พร้อมแจงนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุง

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(3 เม.ย.) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 152 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมชี้แจงอย่างพร้อมเพรียง


ก่อนการประชุม วิป 3 ฝ่าย ได้หารือและได้ข้อสรุปจประชุม 2 วัน คือ วันที่ 3 – 4 เม.ย. 2567 โดยวิปรัฐบาลได้ชี้แจงในที่ประชุมว่า พรรคฝ่ายร่วมค้านได้เวลาอภิปราย 22 ชั่วโมงตามเดิม ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลจากเดิมกำหนดไว้ 8 ชั่วโมง ปรับเป็นไม่ได้กำหนดกรอบเวลา แต่ขึ้นอยู่กับการชี้แจงการอภิปรายจนสิ้นข้อสงสัย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจประธานสภา และรัฐมนตรี ซึ่งในวันนี้ (3 เม.ย.) จะอภิปรายถึงเวลา 01.00 น. และในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) จะอภิปรายถึงเวลา 23.00 น. 

จากนั้นเวลา 09.30 น. นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้ยื่นญัตติ ได้แถลงเปิดการอภิปราย ว่า คณะรัฐมนตรีภายใต้การนำของนายเศรษฐา ได้บริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ไม่ได้ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ไม่จริงใจ ไม่ตั้งใจ เพิกเฉยต่อคำแถลงนโยบายที่ให้ไว้ต่อรัฐสภา หาผลงานไม่ได้ หลักนิติธรรมถูกทำลาย ด้วยการเลือกปฏิบัติในกระบวนการยุติธรรม สองมาตรฐาน บริหารราชการอย่างไร้จริยธรรม นโยบายเร่งด่วนสวนทางกับความจริง ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรม


ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า รัฐบาลแถลงนโยบายจะกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถด้วยนโยบายการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลอวดอ้างว่าจะจุดชนวนกระตุ้นเศรษฐกิจให้แพร่หลาย เป็นความผิดพลาดที่ไม่สามารถดำเนินการได้ หากจะดำเนินการต่อ จะสร้างหนี้สินของประเทศมากขึ้น นโยบายลดรายจ่าย แต่สุดท้ายค่าครองชีพกลับเพิ่มขึ้น อวดอ้างสร้างโอกาสให้ประชาชน แต่กลับมีนโยบายสร้างโอกาสให้กลุ่มทุน วาทกรรมชูลดความเหลื่อมล้ำ แต่กลับบริหารราชการแผ่นดินที่สร้างความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชนมากขึ้น ขายฝันสร้างคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น แต่รัฐบาลยังไม่มีปัญญาทำได้ รัฐบาลแถลงนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ความเป็นจริงกลับไม่นำพาต่อประโยชน์ของประชาชน  มิหนำซ้ำยังปิดกั้นโอกาสของประชาชน ปัญหาหนี้สิน ยังไม่ได้ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรที่ยังต้องทนทุกข์กับหนี้สินที่เกิดขึ้น

นายชัยธวัช กล่าวว่า หลังการเลือกตั้งเราหวังว่า จะได้ผู้นำประเทศที่ต่างจากผู้นำหลังรัฐประหาร แต่เรากลับได้นายกฯ ที่ไร้วุฒิภาวะไปอีกแบบ ขาดภาวะผู้นำในการสร้างความเชื่อมั่นในความชัดเจนของรัฐบาล ซ้ำร้ายมีวิธีคิดจัดตั้งรัฐมนตรีแบบเดิม จัดตั้งตามโควต้า แทนการจัดสรรบุคลาการที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละกระทรวง ประชาชนคาดหวังการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ตามที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับพบวิกฤติศรัทธาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน รวมถึงในระบบราชการที่เต็มไปด้วยระบบตั๋ว ระบบส่วย จนประชาชนไม่สามารถไว้วางใจในกลไกการบริหารราชการแผ่นดิน

“ท่านไม่ต้องพูดว่า ถ้าไม่ชอบกันก็ต่างคนต่างอยู่ เพราะประชาชนต้องการอยู่ในระบบเดียวกัน ประเทศเดียวกัน ที่ได้รับการคุ้มครองสิทธิเสรี ภาพ และได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกัน ในกฎหมายฉบับเดียวกัน อยากเห็นระบบการเมืองที่นำพาชาติไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เจอคือ ประชาธิปไตยแบบที่ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง ผู้นำทางการเมือง ลุแก่อำนาจ ได้คืบเอาศอก พยายามผูกขาดอำนาจการเมืองและเศรษฐกิจ ผูกขาดอำนาจทางการเมืองแก่ผู้มีอิทธิพลไม่กี่กลุ่ม ทำให้เกิดสภาวะการเมืองที่ไม่ตอบสนองความต้องการแบบใหม่ของประชาชนได้ จากข้อเท็จจริงดังที่กราบเรียนมาแล้ว เป็นข้อยุติแล้วว่า รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพ ไร้ซึ่งหลักนิติธรรม ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ทำให้สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ สภาวะสังคมล้มเหลว เลือกปฏิบัติ ไร้มาตรฐาน สร้างความเหลื่อมล้ำ เหยียบย่ำประชาชน เศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมเสื่อมถอย ประชาชนยากไร้ รับใช้พวกพ้อง สนองกลุ่มทุน” ” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว


นายชัยธวัช กล่าวว่า เราคาดหวังว่าจะได้ผู้นำประเทศคนใหม่ที่ต่างจากผู้นำรัฐประหาร แต่ปรากฏว่าเรากลับได้นายกรัฐมนตรีที่ไร้ภาวะผู้นำ หลายคนสับสนว่าเป็นใครมีอำนาจทำอะไรได้บ้าง แต่นายกรัฐมนตรีขาดความเป็นผู้นำ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความชัดเจนของทิศทางรัฐบาล ซ้ำร้ายยังมีวิธีคิดในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีแบบเดิมๆ ที่จัดสรรตามโควตาสมบัติผลัดกันชม แทนที่จะสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสม ในการเข้ามาบริหารกระทรวงต่างๆ

“หลังจากจัดตั้งครม. เห็นท่านรัฐมนตรีหลายท่านสิ้นหวัง แล้วพอรัฐบาลชุดนี้ได้บริหารประเทศมากกว่าครึ่งปีแล้ว ประชาชนคาดหวังที่จะเห็นนโยบายพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ปากท้องดีขึ้น แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนพบคือการดำเนินนโยบายที่สับสน คิดไปทำไป นโยบายที่เป็นเรือธงของรัฐบาล ขาดยุทธศาสตร์และแนวทางที่ชัดเจน ไม่เป็นรูปธรรม ไม่ตรงเป้าหมาย แทนที่ประชาชนจะได้เห็นการบริหารราชการแผ่นดินที่เปิดโอกาสให้ประชาชนลืมตาอ้าปากอย่างเสมอภาค เท่าเทียม เป็นธรรม กลับเห็นการส่งเสริมระบบเศรษฐกิจที่ผูกขาด เอื้อประโยชน์ต่อทุนใหญ่เต็มไปหมด หลายนโยบายแอบอ้างประชาชนบังหน้า แต่เบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความฉ้อฉลเชิงนโยบาย เปิดทางให้รัฐมนตรีและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบอย่างน่าละอาย” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า ประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย ตอนเริ่มจัดตั้งรัฐบาล ประชาชนอยากเห็นการจัดทำประชามติโดยเร็ว แต่ก็ยังวกไปวนมา พี่น้องประชาชนไม่แน่ใจว่าตกลงรัฐบาลจะเอาอย่างไรต่อการปฏิรูปการเมือง มิหนำซ้ำเมื่อวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้วกลับพบว่าหากจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ทัน เราอาจจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่แม้จะใหม่ แต่ไม่ไว้วางใจประชาชนเหมือนเดิม เมื่อเวลาผ่านไปพบว่ากระบวนการนิติสงครามยังดำเนินการต่อไป ไม่ต่างจากหลังรัฐประหาร สถานการณ์ปราบปรามประชาชนที่มีความเห็นต่าง

“สิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนเริ่มเห็นสัญญาณว่าถูกคุกคามแทรกแซง พี่น้องประชาชนคาดหวังจะเห็นการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เห็นการฟื้นฟูนิติธรรม นิติรัฐที่รัฐบาลแถลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงกลับเกิดวิกฤติศรัทธาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่เคยเป็นมาก่อนในตำรวจ กระบวนการยุติธรรมถูกเซาะกร่อนบ่อนทำลาย ซ้ำเติมวิกฤติศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลังการรัฐประหาร ประชาชนคาดหวังระบบการเมืองที่เดินไปข้างหน้า แต่สิ่งที่เราเจอผู้นำทางการเมืองผู้มีอิทธิพลทางการเมืองลุแก่อำนาจ พยายามผูกขาดอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจให้อยู่ในมือของชนชั้นนำไม่กี่คน แทนที่เราจะเห็นการยกระดับทางการเมืองเดินไปข้างหน้า สร้างการเมืองแบบใหม่เรากลับเจอการเมืองที่พยายามทำลายสิ่งใหม่เพื่อรักษาสิ่งเก่า” ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าว

นายชัยธวัช กล่าวว่า สภาวะทั้งหมดที่ผ่านมา ทำให้เราตกอยู่ในสภาพการเมืองที่ไม่สามารถตอบสนองความคิดใหม่ ๆของประชาชน ไม่สามารถตอบสนองความต้องการแบบใหม่ คือสถานการณ์ที่สภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องวิเคราะห์วิจารณ์ตั้งคำถามเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี

ขณะที่นายกรัฐมนตรี ขอชี้แจงทันที ว่ามีความยินดีที่หากมีประเด็นไหนที่ไม่ชัดเจน พร้อมจะให้ความกระจ่าง หากมีข้อเสนอแนะ บางเรื่องเชื่อว่าจะนำไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมและในเวลา 2 วัน จะพูดคุยกันอย่างสร้างสรร ให้ประชาชนได้รับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง

“เริ่มต้นก็พูดแรงพอสมควรทั้งสิ้นหวัง ล้มเหลว ปฏิรูป ถอยหลัง ทำลาย แต่ก็มีอีกด้านคือมีหวัง พัฒนา ก้าวหน้า เราก็เดินหน้าไป บอกว่า ปิดบัง เราก็โปร่งใส หลายอย่างที่รัฐบาลพยายามทำเป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของแสงสว่าง หากยังมีเรื่องกังขาก็ขอให้บอกมา รัฐมนตรีพร้อมชี้แจงหลังทำงานมา 6 เดือน และสภาฯ เพิ่งอนุมัติงบฯ เชื่อมั่นว่าทำงานอย่างซื่อสัตย์ โปร่งใส พร้อมชี้แจง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายเศรษฐา ชี้แจงกรณีหนี้สินประชาชนว่า ตั้งคณะทำงานดูแลหนี้นอกระบบ เรื่องพลังงานก็ดูแลราคาเบนซิน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ซึ่งรัฐบาลตระหนักดี และจะมีขั้นตอนทำงานต่อไป ไม่ได้เพิกเฉย ปัญหายาเสพติดมีคณะทำงานโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ที่ผ่านมาไตรมาส 4 จับยาบ้ามากว่าปีก่อนทั้งปี ซึ่งเห็นว่ากวดขันเป็นอย่างดี 

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในส่วนของการท่องเที่ยว สร้างรายได้ มีวีซ่าฟรี ทั้งไทยและจีนที่เดินหน้าทำให้การค้าการลงทุน และการท่องเที่ยวดีขึ้น ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร รองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเดินทางไปหลายประเทศ เพื่อให้พาสปอร์ตไทยมีพลังมากขึ้น รายได้เกษตรกร ตระหนักดีเพราะมีสส.314 เสียง ทุกคนเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และเราพร้อมรับฟัง กรณีราคายางจาก 30 บาทไปเกือบ 100 บาท ราคาข้าวก็สูง พืชผลอื่นก็ดี ไม่มีประท้วง กระทรวงพาณิชย์พยายามไปเปิดตลาดใหม่ กำหนด KPI ทูตพาณิชย์ให้ทำงานอย่างบูรณาการเพื่อให้ราคาพืชผลดีขึ้น PM 2.5 รัฐบาลเสนอพ.ร.บ.อากาศสะอาดเข้าสภาฯ  แม้ จ.เชียงใหม่ จะยังอากาศไม่ดี แต่เมื่อเปรียบเทียบ จำนวนฮอตสปอตลดลง

“รัฐบาลให้ความสำคัญของประชาชนทุกคน ผมเดินทางบ่อย รวมเกือบ 10 กว่าครั้ง การเดินทางกว่าครึ่ง คือควรต้องไป ทั้งเวทีอาเซียน และเราเป็นน้องใหม่เพิ่งรับตำแหน่ง ต้องไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบาย เพื่อให้ไทยมีตัวตนในเวทีโลก การไปแต่ละครั้งมีคุณภาพ รวมถึงการเจรจา FTA เพื่อยกระดับชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาเพราะเพิ่งเข้ามาแค่ 7 เดือนเท่านั้น หากสมาชิกมีข้อเสนอแนะอะไรที่ดี ยินดีรับฟัง และหากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานและเหตุผล เช่น เรื่องกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม หลังประเทศผ่านการเลือกตั้งมา เชื่อว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าในระบอบประชาธิปไตยเพิ่มขึ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-316.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์-หญิงคนสนิท ยักยอกเงินวัด

นครสวรรค์ 14 ส.ค. – ตำรวจ บก.ปปป. รวบอดีตเจ้าคณะจังหวัดสวรรค์-หญิงคนสนิท หลังมีหลักฐานยักยอกเงินวัดกว่า 4.1 ล้านบาท “บิ๊กเต่า” เตรียมแถลงเย็นนี้ ตำรวจ บก.ปปป. จับกุมนายสฤษฏิ์ หรือ พระธรรมวชิรธีรคุณสฤษฏิ์ จันท์ประธาตุ อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์และเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 147 และ 157 และนางสาวภูธินี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาคกลาง ในคดีเป็นผู้สนับสนุนพนักงานยักยอกทรัพย์ เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 147 157 และ 86 โดยพฤติกรรมของทั้งคู่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2568 ที่ผ่านมา อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ ถูกกล่าวหาว่ามีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับ น.ส.ภูธินี และยักยอกเงินวัดนครสวรรค์ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ระหว่างวันที่ 1 มี.ค. 2567-10 ก.ค.2568 เจ้าอาวาสได้สั่งให้พระศตยา พุ่มเดช พระลูกวัด เบิกถอนเงินจากบัญชีวัดนครสวรรค์ […]

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]

รวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมพวก ตามหมายจับคดีรุกป่า

14 ส.ค.- “บิ๊กเต่า” นำทีมบุกรวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมภรรยาและพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 กรณีรุกที่ดินนิคมลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าควบคุมตัวนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ และนางสาวจิราพร สีบุระ ภรรยา พร้อมพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ในความผิด ม.157 ซึ่งบัญญัติว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมื่อปี 2564 นายยุทธพล (จอนนี่) และภรรยา ได้ทำการซื้อที่ดินว่างไม่มีเอกสารสิทธิใน ต.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี และก่อสร้างรีสอร์ตโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งทางนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20% ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดที่ดินฯ แต่ทั้งสองยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน จัดประชาคมและรับรองเท็จว่าที่ดินไม่มีข้อพิพาท ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้รับรองสิ่งปลูกสร้างแม้ทราบว่าไม่ได้รับอนุญาต […]