กองทัพบก 2 เม.ย.-ผบ.ทบ.ปลื้ม ประชาชนเข้าใจกระบวนการเกณฑ์ทหาร เผยยอดสมัครออนไลน์ปีนี้ พุ่งถึง 40,000 คน เกือบครึ่งของจำนวนที่ต้องการทั้งหมด ปัดตอบปมปฏิวัติ
พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง การเกณฑ์ทหารในปีนี้ว่า เมื่อวานนี้(1 เม.ย.) ตนได้ไปตรวจหน่วยตรวจเลือกทหารที่วัดสามพระยา เขตพระนคร ซึ่งประชาชนก็มีความเข้าใจในระบบเป็นอย่างดี ด้านนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้เดินทางไปตรวจหน่วยตรวจเลือกในเขตสาทรด้วยเช่นกัน ซึ่งพบว่าพี่น้องประชาชนเข้าใจในกระบวนการตรวจเลือกฯ ซึ่งเป็นกระบวนการตาม พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ซึ่งในปีนี้ ได้มีการจัดทดสอบความรู้ ของเจ้าหน้าที่ในคณะทำงานการตรวจเลือก เพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างมีมาตรฐาน รวมทั้ง ได้เปิดให้พี่น้องประชาชนได้สังเกตการณ์สภาพแวดล้อมในพื้นที่ตรวจเลือก ซึ่งมีรายละเอียดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น แต่เดิมจะต้องมีการถอดเสื้อในระหว่างการตรวจร่างกาย แต่ในปีนี้ไม่ต้องถอดเสื้อแล้ว ส่งผลให้กระบวนการตรวจเลือกมีความเรียบร้อยยิ่งขึ้น ซึ่งการถอดเสื้อเพื่อตรวจร่างกายนั้น จะตรวจในกรณีที่จำเป็นที่จะต้องตรวจดูเท่านั้น
ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่าสำหรับนโยบายที่ตนมอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจเลือกและทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง เป็นสิ่งแรกที่ตนดำเนินการตั้งแต่ได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก เนื่องจากการคัดเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นทหาร และเป็นจุดเริ่มต้นของการดำเนินการต่าง ๆ เช่น การได้รับสิทธิทหาร และกองทัพบกก็ได้ดำเนินการควบคู่กันมาอย่างต่อเนื่อง
“ปีนี้เป็นปีที่ 4 ที่มีการดูแลในเรื่องของการตรวจเลือกทหารออนไลน์ และได้รับความร่วมมือจากทหารกองประจำการที่สมัครใจอยู่ต่อมากขึ้น รวมทั้งยอดของการสมัครผ่านระบบออนไลน์ในปีนี้มีจำนวนมากขึ้น ถือว่าประสบความสำเร็จตามลำดับ และจะทำให้พี่น้องที่เข้ามาในระบบได้รับโอกาสที่มากขึ้นด้วย ซึ่งในปีนี้ ความต้องการกำลังพลอยู่ที่ประมาณ 85,000 นาย มีผู้สมัครออนไลน์ไปแล้วกว่า 40,000 คน แต่ในจำนวนกว่า 40,000 คนนี้ จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกคุณสมบัติอีกครั้ง”ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว
เมื่อถามว่าในช่วงนี้ มีการพูดถึงการปฏิวัติรัฐประหาร ผู้บัญชาการทหารบกจะสามารถให้ความสบายใจกับประชาชนได้หรือไม่ เพราะขนาดนายกรัฐมนตรี ก็ยอมรับว่าไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้ ผู้บัญชาการทหารบก ยิ้ม พร้อมกล่าวว่าขอตัวไปงานต่อ เนื่องจากมีภารกิจที่จะต้องไปดำเนินต่อ.- 313.-สำนักข่าวไทย