นายกฯ ขอให้เชื่อมั่น นำ ปท.แก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย  

โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ 29 มี.ค.-“เศรษฐา” ขอให้เชื่อมั่นในตัวนายกฯ เข้าใจธุรกิจ พร้อมนำประเทศแก้วิกฤติ เหน็บบางคนนั่งบนหอคอย ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง น้อยใจ รมว.คลัง ไม่มีอำนาจลดดอกเบี้ย  


นายเศรษฐา  ทวีสิน  นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ “นักธุรกิจรุ่นใหม่กับโอกาสในการสร้างธุรกิจและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ” โดยกล่าวว่า ถ้าย้อนหลังไป 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตนถือเป็นหนึ่งในผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ แต่วันนี้มาเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว และหลายๆ ท่านได้ติดตามเรื่องวิสัยทัศน์  ซึ่งวันนี้พยายามที่จะสรุปให้ได้ใจความและ โดยที่ไม่เป็นการเปิดเผยความลับของประเทศ การทำธุรกิจของทุกประเทศไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว ก่อนที่จะเป็นนายกฯ คนก็บอกว่าทำเถอะ ไม่มีทางสู้ตนได้ เพราะตนทำงาน 7 วัน 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ต้องมาช่วยสังคมกันบ้าง แต่เรื่องสำคัญคือทำให้วงการอุตสาหกรรมดีด้วยการแข่งขัน  พวกเรามีคู่แข่งที่ดีมีคุณภาพ ทำให้พัฒนาไปในอนาคต มีลูกค้าเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่แข่งขันแล้วเจ๊ง 

“หากจะทำอสังหาริมทรัพย์ต้องเป็นงานจริงๆ โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เปราะบางในปัจจุบันนี้ ดอกเบี้ยแพงโคตรขนาดนี้ ควรจะลดตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ลด พวกเราก็เดือดร้อนพอสมควร ผมเองก็เป็นคนอสังหาริมทรัพย์มาก่อน  จะเรียกร้องให้หนักกว่านี้ ผมก็มีความลำบากใจ เดี๋ยวจะหาว่าไปทำเพื่อตัวเองอีก แต่เรื่องดอกเบี้ยเป็นเรื่องสำคัญที่กำหนดกำลังซื้อ วันนี้ขอถามตรงๆ อสังหาริมทรัพย์มีใครพูดเรื่องเก็งกำไรหรือไม่ ก็ไม่มี ไม่มีใครโง่ไปเก็งกำไรหรอก  อย่ามีทิฐิเลยดีกว่า บังเอิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่มีอำนาจตรงนี้เลยไม่สามารถทำได้” นายเศรษฐา กล่าว


นายเศรษฐา ยังกล่าวว่าเรื่องสำคัญการเข้าถึงที่อยู่อาศัย  ถือเป็นการออมอย่างหนึ่ง ในเรื่องของการเก็งกำไร เลิกไปได้แล้ว วันนี้อย่าพูดเรื่องของวิกฤตหรือไม่วิกฤติ เป็นวาทกรรมเท่าไหร่ก็ไม่จบ จริงๆ แล้วเศรษฐกิจไทยต้องการการกระตุ้นใช่หรือไม่ ตนว่า 99% เห็นว่าจะต้องมีการกระตุ้น แต่ท่านมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากภาคอสังหาฯ ทำอะไรก็ต้องระวังตัว  ดูให้ดี และเหมาะสม ต้องใช้เวลาในการที่จะทำอะไรหลายอย่าง เพราะเป็นที่เพ่งเล็งของสังคม ฉะนั้นการจะทำอะไรก็ต้องรอบคอบ ระมัดระวัง ประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติเป็นหลัก   

“มีอีกหลายอย่าง ซึ่งผมเคยพลาดแล้วโดนทัวร์ลงไปแล้ว อย่างเรื่องการครอบครองที่ดิน 1 ไร่ ที่ให้ชาวต่างชาติมาครอบครองได้ เขาบอกว่าทำให้คนไทยเข้าถึงที่อยู่ได้ลำบากขึ้น ที่ 1 ไร่ที่เราขายได้ หรือว่าคอนโดบ้านที่อยู่อาศัยขายคนต่างชาติได้มันราคาเท่าไหร่ ในตลาดที่ซื้อ โครงการต่างๆ ราคา 50 ล้าน 100 ล้านบาท มันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถก้าวข้ามเรื่องขายชาติได้  อะไรก็ขายชาติ มันขายไม่ได้หรอก เพราะชาติ คือจิตวิญญาณของพวกเรา มันคือชาติ  ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน เรื่องที่ดินเอากลับไปไม่ได้ ขายไม่ได้ แต่รัฐบาลที่แล้ว โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ  มีเจ้าหน้าที่หลายคนระดับสูงเข้ามาปรึกษาผมว่าทำอย่างไรจะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำอย่างไรให้ต่างชาติเข้ามาถือที่ดินได้ ผมบอกว่าต่อให้มี 749 เสียงกับ 750 เสียงในสภา ก็ไม่มีทางให้ต่างชาติมาถือที่ดิน เพราะอย่างไรก็ไม่ผ่าน และจิตใจคนไทยสังคมไทยรับไม่ได้ให้ต่างชาติมาถือที่ดิน อย่าพูดด้วยเหตุผล  เป็นความรู้สึกมากกว่า ที่เขายอมไม่ได้ ยังไงก็ยอมไม่ได้ ฉะนั้นตรงนี้ลำบากจริงๆ“ นายเศรษฐา กล่าว

ฉะนั้นกฎหมายเหล่านี้จะต้องมาแก้ไขให้ถูกต้องให้เหมาะสม เพื่อให้การทำธุรกรรมผ่านไปได้ ในฐานะที่เคยทำธุรกิจมาก่อน จะพยายามทำกฎข้อบังคับเหล่านี้ เพื่อให้กฎหมายลูกที่มารองรับสามารถทำงานได้ง่าย และสะดวกสบายขึ้น  หากพูดถึงประเทศ ถ้าจีดีพีดี อัตราการเจริญเติบโตภาคอสังหาริมทรัพย์จะไปได้ดี


นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ประเทศไทย 10 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจโต 1.8% ภาคอสังหาฯ ไม่มีอะไรดี หยอดน้ำข้าวต้มไปเรื่อยๆ แต่การทำดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันไม่มีการทุจริต เป็นการส่งตรงจากภาครัฐ ผ่านเทคโนโลยีเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูล ที่สามารถตรวจสอบได้ เหมือนสมัยก่อนที่ให้เอาเงินใส่กระเป๋า แต่ถามว่าได้หมดทุกคนหรือไม่ อยู่ที่ฐานเงินเดือนที่กำหนดไว้ 70,000 บาท และที่ช้ามานานขนาดนี้ เพราะบอกไม่ให้คนรวย แต่ไม่ได้บอกว่าคือใคร ซึ่งตนก็ขอให้กำหนดมาเลยดีกว่าคนรวยคืออะไร ตนก็คอยอยู่เดือนกว่า ก็ไม่บอกมาคนรวยคืออะไร ไม่มีใครกล้าบอกว่าใครคือคนรวย เงินเดือน 70,000 บาท ยังบอกอยู่เลยว่ายังเป็นหนี้ แต่ไม่ใช่คนรวย   

“เมื่อมีองค์กรเสนอแนะมา เราก็พยายามที่จะรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนให้เหมาะสม ผมพยายามฟังจากทุกคน  ทั้งสถาบันการเงิน ฝ่ายปกครอง  ฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายดิจิทัล เราพยายามทำให้เหมาะสมที่สุดแล้ว ว่าทำไมถึงต้องเป็นดิจิทัลวอลเล็ต ทำไมถึงต้อง 10,000 บาท  และทำไมถึงต้อง 5 แสนล้านบาท ได้อธิบายไปแล้ว และเชื่อว่าจะมีการจ้างงานมีการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ 5 แสนล้านบาท ประมาณ 17% ของงบประจำปี ยืนยันไม่มีการทุจริต” นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงการเดินทางไปต่างประเทศว่า ไปเมืองนอกมา 10 กว่าครั้ง ไปประกาศให้ชาวโลกรู้ ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว เพื่อรองรับการลงทุน คนที่ไม่ใช่แฟนคลับบอกไปตั้งหลายหนอะไรก็ไม่เกิด ขอถามหน่อยว่า 7 เดือน มีใครตกลงได้ การลงทุนเป็นแสนล้าน คุณจะทำคอนโดหมู่บ้านจัดสรรใช้เวลาตัดสินใจเท่าไหร่ กว่าจะตรวจเสาเข็ม ผลงานยังไม่ออก ให้คอยไปก่อน   

“วันนี้ขี้เกียจไปตอบ ผู้ที่นั่งทางในอยู่บนหอคอยทั้งหลาย  ลงมามือเปื้อนดิน ตีนเปื้อนโคลนบ้าง การเดินทางไปเมืองนอกไม่สนุก ถามว่าผมเป็นนายกรัฐมนตรีที่ไม่เคยไปเมืองนอกหรือเปล่า สนุกกว่าสบายกว่า แต่เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำ   และประเทศไทยปิดมาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตารางงานผมแน่น วันหนึ่งไป 19 วงไม่สนุก ไม่เห็นเดือน เห็นตะวัน แต่ต้องไป เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการลงทุน เพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนของประเทศไทย ทำให้เรามีกินมีใช้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นี่ผ่านไปแค่ 7 เดือน จริงๆ 6 เดือนกว่า  ฉะนั้นงบประมาณยังไม่ได้ใช้สักบาท เพิ่งผ่านไปสภาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วใช้แต่นโยบายอย่างเดียวที่ประกาศไป” นายเศรษฐา กล่าว

นายกฯ ยังกล่าวถึงปัญหาในภาคใต้ ว่าเป็นนายกฯ คนแรกที่ลงในพื้นที่ภาคใต้ 2 คืน 3 วันยอมรับมีความเสี่ยง  ตนบอกไม่ให้มีใครใส่เสื้อเกาะ หรือทหารนำรถถังตามมา เพราะตนมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี  ไปด้วยความตั้งใจจริง  และขอหาเสียงด้วย เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มี สส.ในพื้นที่ อย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางคนพูด ว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้   สนามบินจังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มี สส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน    ถ้าไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิวันนี้เราอยู่ตรงไหนของโลก   

“แต่มีวาทกรรมบอกว่า  นายกฯ เลียรองเท้าบูทบ้าง อะไรบ้าง ผมไม่ได้เลีย แต่เราพูดคุยด้วยภาษาที่เหมาะสม ไม่ได้ไปบอกว่าทหารมีพื้นที่เยอะไป ยึดพื้นที่มา ไม่ใช่ ผมไม่ได้ไปยึด หรือไปขอ ไปพูดคุยและไม่ได้บอกว่าจะไปยึดคืนทุกที่    แต่ไปขอร้อง ไปอธิบายให้ฟัง หากท่านคืนสนามกอล์ฟตรงนี้มาประโยชน์กับประเทศไทยจะไปขนาดไหน ท่านต้องการอะไรเป็นผลตอบแทน เขาบอกว่าสนามกอล์ฟปีละ 5 ล้านบาท  ไม่เป็นอะไร ผมให้เอาสนามกอล์ฟออกไป ตรงนั้นจะเป็น Part 1 ของสนามบินดอนเมือง อาจจะเป็นศูนย์ซ่อมเครื่องบินของโบอิ้งหรือแอร์บัส หรือเป็นไพรเวทเจ็ท ซึ่งเรื่องนี้สำคัญและต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”  นายเศรษฐา กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงจุดยืนของประเทศไทย ว่าเรามีความเป็นกลาง วันนี้ความเป็นกลางของเรา จะนำให้ประเทศพ้นจากวิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ  เป็นความต้องการอย่างสูงจากทุกประเทศที่อยากมาพูดคุย มาลงทุนใช้ประเทศไทยเป็นเวทีกลางในการเจรจา โดยไม่ต้องสงสัยทำไมไทยมีทุกๆ ประเทศมาลงทุน เพราะความเป็นกลางทางด้านการเมืองของเรา  หากเราฝักใฝ่กับชาติใดชาติหนึ่ง ไม่เป็นกลาง ทั่วโลกจะไม่มั่นใจลงทุนกับเรา

“สิ่งสำคัญเราต้องยอมรับว่ากำลังมีปัญหา ทางความมั่นคงเราดีขึ้นมาก เสถียรภาพทางด้านการเมืองดีขึ้นมาก เศรษฐกิจเรามีปัญหา การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นความจำเป็น ตนไม่ได้หมายถึงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตอย่างเดียว แต่อีกหลายเรื่องที่จะต้องทำ ซึ่งเราจะทำต่อไป แต่ผลที่จะเกิดขึ้น คงต้องอีกพอสมควร คิดว่าประมาณ 18 เดือน แต่อย่าลืมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ตลาดหุ้นมีความไวต่อสัญญาณที่ดี หาก 6 เดือนหรือ 12 เดือนตลาดจะเด้งแรงมาก ข่าวดีอันนึง หมดปีงบประมาณไปแล้ว 6 เดือน ยังไม่ได้ใช้งบประมาณสักบาท ในวันที่ 1 พ.ค.ใช้ได้เหลืออีกแค่ 5 เดือน งบประมาณตัวนี้บวกกับงบประมาณหน้า 24 เดือน  ก็ใช้ไปแค่ 16 เดือน ฉะนั้นจะมีการลงทุนเยอะมาก อันนี้เป็นเรื่องของข่าวดี และข่าวดีอีกเรื่องคือ ประเทศไทยมีนายกฯที่เข้าใจ และมีความตั้งใจจริง ที่จะทำให้ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการผลิต การลงทุน การจัดซื้อจัดจ้าง เราจะดูทั้งหมด เพราะเราทราบดี เคยทำมาก่อน ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด   และขอให้เป็นกำลังใจและขอให้มีความอดทนต่อไป”นายเศรษฐา กล่าว.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]