กก.ชี้ปรับค่าแรงขั้นต่ำแค่ 10 จังหวัดสร้างเหลื่อมล้ำ

รัฐสภา 29 มี.ค.-สส.ก้าวไกลมองขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท 10 จังหวัดท่องเที่ยวเหมือนศรีธนญชัย สร้างเหลื่อมล้ำ แนะปรับสูตรคำนวณใหม่ ย้ำนโยบายค่าแรง450 บาททั่วประเทศ


นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำทีมสส.ก้าวไกล แถลงคัดค้านการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 10 จังหวัด ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567

“ไม่เห็นด้วยกับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน  เฉพาะกิจการโรงแรมบางพื้นที่ ซึ่งเป็นการปรับค่าจ้างแบบศรีธนชัย ขอยืนยันว่าเห็นด้วยกับการปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างให้เท่ากันในทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศ ผมทำงานกับแรงงานมาหลาย 10 ปีเข้าใจหัวอกแรงงาน การเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำจะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะแค่อาหารหนึ่งมื้อก็ใช้เงินมากกว่า 85 บาท กินครบ 3 มื้อก็มากกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ยังไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ภาษีสังคมที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต” นายเซีย กล่าว


นายเซีย กล่าวว่า การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเพียงบางพื้นที่ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง โดยอ้างว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมและ 10 พื้นที่เป็นพื้นที่ที่มีรายได้สูง จึงเป็นพื้นที่นำร่อง แล้วกิจการประเภทอื่นไม่สำคัญกับหรือ ดังนั้น การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ไม่เท่าเทียมกันในแต่ละพื้นที่อาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้นในอนาคต มีส่วนทำให้แรงงานเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ที่มีค่าตอบแทนสูง เป็นผลให้มีรายงานกระจุกตัวในพื้นที่ไม่กี่แห่ง ไม่มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง

นายเซีย กล่าวว่าว่า ฝากข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล กระทรวงแรงงาน ให้พิจารณาทบทวนการปรับค่าจ้างใหม่ ดังนี้ 1. ปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็นธรรมตามหลักสากล โดยให้ครอบคลุมแรงงานทุกภาคส่วน โดยปรับจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไปสู่การปรับเป็นอัตราค่าจ้างเพื่อชีวิต เพื่อให้แรงงานสามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2.ด้วยเป้าหมายค่าจ้างขั้นต่ำ 600 บาททั่วประเทศ ตามที่พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเคยให้คำมั่นในประกาศหาเสียงเลือกตั้งไว้  ขอเสนอให้คณะกรรมการค่าจ้างฯ ปรับเปลี่ยนสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ เพราะเมื่อนำข้อมูลมาคำนวณตามสูตรที่ใช้กันอยู่ รัฐบาลนี้หากอยู่ครบ 4 ปี อัตราค่าจ้างขั้นต่ำก็ไม่ถึง 600 บาท ในปี 2570 แน่นอน

“ข้อเสนอของพรรคก้าวไกลคือค่าจ้างขั้นต่ำ  450  บาท ควบคู่กับการเพิ่มสวัสดิการให้กับประชาชนทุกช่วงวัย ส่วนการปรับค่าจ้างต้องปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มทุกปีในอัตราไม่น้อยกว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ประกาศโดยสำนักงานคณะกรรมการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรืออัตราเงินเฟ้อตามประกาศของ กระทรวงพาณิชย์ และสุดท้ายเพื่อให้เกิดการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมเป็นธรรมทั่วประเทศ  ขอให้พวกท่านพิจารณาปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ให้เป็นธรรมเท่ากันทั่วประเทศ” นายเซีย กล่าวว่า


เมื่อถามว่าที่ผ่านมากระทรวงแรงงานระบุว่า ไม่สามารถขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศได้ เพราะคำนวณจากอัตราการเติบโตรายได้ และ GDP แต่ละจังหวัด นายเซีย กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมี 100 เหตุผลที่จะให้ข้อมูล แต่อยากให้มองถึงชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงาน ทั้งนี้ สูตรคำนวนค่าแรงของพรรคก้าวไกล ดูจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ เมื่อโตขึ้น แต่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ไม่สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ก็จะทำให้แรงงานมีปัญหาในการใช้ชีวิต มีหนี้สินเพิ่มทุกปี ส่งผลกระทบโดยรวมต่อประเทศ เพราะพี่น้องแรงงาน ไม่ว่าจะอยู่สัดส่วนใด ทุกคนต้องกินต้องใช้ เรากินข้าววันละ 3 มื้อ จำเป็นต้องซื้อเครื่องนุ่งห่ม จ่ายค่าที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค ซึ่งตั้งแต่ตนอยู่ในกระบวนการแรงงานมา ยังไม่เคยเห็นการขึ้นค่าแรง ที่แปลกประหลาดแบบนี้ ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่า กระทรวงแรงงานทำงานแบบไหน ทำงานแบบศรีธนญชัยหรือไม่

ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคก้าวไกล กล่าวถึงสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำว่าในปัจจุบันว่า เป็นวิธีคิดที่ผิดหลักเศรษฐศาสตร์อย่างรุนแรง ทำให้การคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำมีปัญหา และน้อยกว่าที่ควรจะเป็น โดยที่ที่ผ่านมา สำนักงานค่าจ้าง กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งคณะอนุกรรมการศึกษาการคำนวณสูตรค่าแรงแบบใหม่ แต่ผลที่ออกมากลับไม่ต่างจากเดิม ขอตั้งคําถามว่า การขึ้นค่าจ้าง 10 จังหวัดที่ผ่านมา ใช้สูตรคำนวณแบบใด เพราะสูตรที่กระทรวงแรงงานใช้อยู่ ไม่สามารถขึ้นได้ถึง 400 บาท ต้องเอาให้ชัด ว่าการกำหนดค่าจ้างอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน หรือคณะกรรมการไตรภาคี

ส่วนนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยที่ระบุว่าการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ภายในปี 2570 อาจต้องทำเป็นขั้นบันไดหรือไม่ นายเซีย กล่าวว่าต้องถามพรรคเพื่อไทยว่าต้องปรับอย่างไร เป็นขั้นบันได แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกลจะปรับค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทต่อวัน ก่อน รวมถึงปรับเพิ่มสวัสดิการของแรงงานทุกช่วงวัย ซึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเคยถามพรรคเพื่อไทยไปหลายครั้งแล้วว่าขั้นตอนการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน จะมีแนวทางอย่างไร

ส่วนการประชุมคณะกรรมการไตรภาคีของกระทรวงแรงงานถูกตั้งคำถามว่ามีการเมืองแทรกแซง นายเซีย กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเล่นละครตบตาผู้ใช้แรงงานหรือไม่ จากการประกาศว่าจะปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในช่วงต้นปีที่ผ่านมา 2-16 บาทต่อวัน แต่นายกรัฐมนตรีระบุ 2 บาทซื้อไข่ยังไม่ได้ และขอให้ทบทวนค่าแรงขั้นต่ำอีกครั้ง และนายกรัฐมนตรีไม่เคยผลักดันให้ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน และไม่เคยพูดถึงอีกเลย คือแนวนโยบายของรัฐบาลที่เคยสัญญากับผู้ใช้แรงงานไว้ว่าจะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น การมีส่วนร่วมของคณะกรรมการไตรภาคีเป็นส่วนสำคัญ แต่หากกระทรวงแรงงานไม่สนองนโยบายของรัฐบาลก็ไม่สามารถผลักดัน และบริหารประเทศให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้.-317.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา

ไทยรับคำเชิญ “อันวาร์” ถกปัญหาชายแดน “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา

ทำเนียบรัฐบาล 27 ก.ค. – รัฐบาลยืนยัน “อันวาร์” ประธานอาเซียน เชิญผู้นำไทยถกปัญหาไทย-กัมพูชา “ภูมิธรรม” นำทีมไทยแลนด์เจรจา ย้ำไม่มีการเจรจาเรื่องแผนที่ ยืนยันการรักษาอธิปไตยของประเทศแม้ตารางนิ้วเดียวก็ให้ใครไม่ได้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ. ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยได้รับคำเชิญจากนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน ให้เดินทางไปร่วมหารือ แนวทางสันติภาพในภูมิภาคนี้ ในวันพรุ่งนี้ (จันทร์ที่ 28 กรกฎาคม 2568) ณ ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยคณะจะออกเดินทางจากกองทัพอากาศเวลาประมาณ 10.30น และเข้าหารือ เวลา 15.00 น.ตามเวลาประเทศมาเลเซีย คณะของทีมไทยแลนด์นำโดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและตนในฐานะกรรมการ ศบ.ทก. ทั้งนี้ ได้รับแจ้งว่า […]

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]