ศาลาว่าการ กทม.2 / 28 มี.ค.- “พวงเพ็ชร” ห่วงเยาวชน กำชับครู-สถานศึกษา เฝ้าระวังบุหรี่ไฟฟ้ารูปแบบใหม่ หาซื้อง่าย ราคาถูก พบมีเยาวชนอายุ 15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงร้อยละ 25
นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการเสวนาและมอบนโยบาย “รู้เท่าทันบุหรี่ไฟฟ้า ในสถานศึกษา กทม.” ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมการเสวนา พร้อมกล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง ที่กรุงเทพมหานครได้ขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และปกป้องเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ และเป็นผลต่อเนื่องมาจากการที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกรุงเทพมหานคร และมอบนโยบายการดำเนินงานในหลายด้าน ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่อยากให้กรุงเทพมหานครเร่งแก้ไขและปราบปราม ซึ่งการที่จะบรรลุวัตถุประสงค์ในการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าได้ ต้องมีการบูรณาการความร่วมมือกับหลายฝ่าย
ซึ่งวันนี้ (28 มี.ค.) เป็นการบูรณาการร่วมกันในการวางแนวทางแก้ไขปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านการเสวนา ประกอบกับตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครอง ว่า พบเห็นเด็กและเยาวชนมีการสูบ ซื้อ-ขาย บุหรี่ไฟฟ้าในโรงเรียน และบริเวณใกล้เคียง ดังนั้น จึงต้องเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับตามสถานที่จำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีการตั้งหน่วยเฉพาะกิจฯ ขึ้นมาปฏิบัติภารกิจถึง 15 หน่วย แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมได้ทั้งหมด เพราะการซื้อ-ขายบุหรี่ไฟฟ้ามีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย สคบ. จึงได้มีการประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อปราบปรามการซื้อขายผ่านออนไลน์ อีกช่องทางหนึ่งด้วย
นางพวงเพ็ชร ยังได้กล่าวแสดงความเป็นห่วงต่อเด็กและเยาวชน อายุต่ำกว่า 14 ปี ที่อาจได้รับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งสารเคมีต่างๆ จากบุหรี่ไฟฟ้า จะทำลายระบบประสาทและสมอง ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กและเยาวชน เสี่ยงต่อภาวะการเรียนรู้และความจำลดลง อารมณ์รุนแรงมากขึ้น
“ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้าพยายามสร้างรูปลักษณ์ที่เป็นการล่อลวงและสามารถเข้าถึงหาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก หลากหลายรสชาติ มากกว่า 10,000 ชนิด/รส เพื่อล่อลวงให้เด็กอยากลอง ซึ่งรูปลักษณ์ใหม่ๆ อาจทำให้ผู้ปกครองไม่ทราบและไม่ทันสังเกตุว่าคืออะไร ดังนั้นจึงต้องช่วยกัน เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงเรียนสีขาว หลอดบุหรี่ไฟฟ้าและสารเสพติดทุกชนิด ด้วยการร่วมกัน ตักเตือน อย่างจริงจัง และจะมีการขยายผลไปถึงระดับผู้ใหญ่ด้วย เพราะผลกระทบไม่ได้เกิดขึ้นแต่กับเด็กเท่านั้นแต่ผู้ใหญ่ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม การจะแก้ปัญหา และมุ่งสู่เป้าหมายดังกล่าวได้นั้น การบูรณาการความร่วมมือกันอย่างเข้มแข็งของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญ” นางพวงเพ็ชร กล่าว
ทั้งนี้ในการเสวนา เปิดเผยว่าพบว่าบุหรี่ไฟฟ้าได้พัฒนามาถึงรุ่นที่ 5 และมีการสร้างโปรดักส์ขึ้นมา เพื่อส่งเสริมการตลาด ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยมุ่งเป้าการจำหน่วยไปที่วัยรุ่น และเด็กมัธยมยมต้น ด้วยการสร้างรูปลักษณ์ใกล้เคียง และเลียนแบบกับสินค้าเด็ก และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เข้าถึงเยาวชนง่าย มีรสชาติต่างๆ กว่า 2 หมื่นรสชาติ
ประกอบกับผลสำรวจกลุ่มเป้าหมายกว่า 60,000 คน พบมีเด็กอายุ 15 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้าถึงร้อยละ 25 กทม. ติด 1 ใน 5 ของเยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของการนำไปสู่การติดยาเสพติดประเภทอื่นๆ และพบมีร้านถาวรจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารอบสถานศึกษาทุกเขตในพื้นที่ กทม. ใกล้ที่สุดมีร้ายจำหน่ายอยู่ห่างโรงเรียนเพียง 130 เมตร
ทั้งนี้ ยังพบว่าเด็กนักเรียนผู้หญิงเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้า จำนวนเทียบเท่าเด็กนักเรียนผู้ชายแล้ว โดยเริ่มจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนจะเปลี่ยนมาสูบบุหรี่ ที่สำคัญยังพบว่ามีเด็กชั้นประถมศึกษาเคยสูบบุหรี่ไฟฟ้า.-314.-สำนักข่าวไทย