จี้ “ทนายตั้ม” ขยายผลแจ้งความเรื่องที่ออกมาแฉ

รัฐสภา 27 มี.ค.-กมธ.การตำรวจ สภาฯ แนะ “ทนายตั้ม” ไม่ใช่พูดออกสื่ออย่างเดียว ชี้เมื่อมีหลักฐานต้องแจ้งความ-ร้องทุกข์ด้วย บอกรกก.ผบ.ตร.เห็นข่าวแล้วต้องมอบจเร ตร.ทำคดี จี้ นายกฯ เด็ดขาดสางปมร้อน  2 บิ๊ก ตร.ให้จบ


นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มแฉเส้นเงินของนายพล ต. ว่า ต้องดูข้อมูลที่ทนายตั้มพูด และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเรียกทนายตั้มหรือผู้ที่เกี่ยวข้องไปให้ข้อมูลหรือไม่ ว่าเป็นข้อเท็จจริงแค่ไหน ทนายตั้มเป็นนักกฏหมาย ถ้าดูว่าใครทำผิด นอกจากมาพูดออกสื่อแล้ว เมื่อมีหลักฐานก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีบุคคลที่ทนายตั้มเอ่ยชื่อว่ามีใครบ้างที่เป็นตัวละครที่เกี่ยวข้อง

นายชัยชนะ กล่าวว่า ในส่วนของกมธ.เราก็ต้องไปดู เรื่องนี้ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นคดีความไปแล้วข้อมูลที่ทนายตั้มออกมาพูดก็เป็นการกล่าวหานายพล ต. ต้องไปดูที่กระบวนการ ทนายตั้มกล่าวหาไปแล้ว เขาไปแจ้งความหรือไม่ ถ้าแจ้งความแล้วประชาชนยังสงสัยเราก็จะเชิญเขาพูดคุยกัน


“นายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลตร. เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ท่านได้ให้ 2 บิ๊ก ไปช่วยราชการอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่เรื่องทนายตั้มออกมาแฉเส้นทางการเงินถือเป็นเรื่องใหม่ ต้องรอดูว่ามีข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างไร ทนายตั้มจะไปร้องเรียนที่ไหน และถ้าเรื่องยังไม่ยุติ และการกระทำของผู้บังคับบัญชายังไม่เด็ดขาด เราก็ต้องเชิญคนที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ถ้าทนายตั้มอยากมายื่นเรื่องร้องเรียนกับผม ผมก็ยินดี แต่ผมเห็นว่าถ้ามีหลักฐานข้อเท็จจริง ก็ยื่นแจ้งความร้องทุกข์กับกระบวนการยุติธรรมได้เลย แต่ถ้าไม่มีความมั่นใจในกระบวนร้องทุกข์ จะมายื่นกับผม ผมก็ยินดีดำเนินการให้” นายชัยชนะกล่าว

เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงนายกรัฐมนตรี นายชัยชนะ กล่าวว่า ในฐานะที่นายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชา ต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้ยุติโดยเร็ว เช่น คณะกรรมการที่ตั้งมาที่บอกว่าใช้เวลา 60 วันแสวงหาข้อเท็จจริง ต้องให้เร็ว ประเด็นไหนที่ทนายตั้มออกมาพูดเมื่อวาน ก็ต้องมอบหมายให้รักษาการ บ.ตร.ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ถ้าปล่อยลอย ๆ ก็ต่างคนต่างพูดแบบนี้ ใครก็พูดได้

ส่วนจะให้เวลาตามกรอบ 60 วันหากไม่ชัดเจน กมธ.จะเรียกมาชี้แจงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ถ้าทนายตั้มพูดแล้วไม่แจ้งความก็ต้องเชิญเขามา ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่ถ้าแจ้งความไปแล้วก็จะรอดูว่าผลเป็นอย่างไร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาการผบ.ตร. เมื่อได้ติดตามจากสื่อโซเชียลเรื่องที่ทนายตั้มออกมาพูด ก็ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริง เพราะคนที่ทนายตั้มได้กล่าวหาทั้งหมดเป็นคนที่อยู่ในหลายหน่วยงานของตร. ต้องมอบให้จเรตำรวจเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง


“ส่วนช่องทางที่ทนายตั้มจะร้องทุกข์ นอกจากแจ้งความไปที่ตร. ยังสามารถร้องไปที่คณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งได้ด้วย ผมคิดว่าสิ่งที่ทนายตั้มพูดเมื่อวานนี้ เพื่อทำให้สังคมสงสัย ก็มอบเรื่องนี้ให้กับคนที่มีอำนาจไปเลย ร้องทุกข์ไปเลยนะครับ ในส่วนของ กมธ.การตำรวจ ก็จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ถ้าเรื่องนี้มีความเป็นมายังไง สังคมยังไม่คลายข้อสงสัย เราก็อาจจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล” นายชัยชนะ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]

อัยการสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีนอมินี ตึกสตง.

5 มิ.ย. – พนักงานอัยการคดีพิเศษ สั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีตึก สตง.ถล่ม ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้ พนักงานอัยการคดีพิเศษ มีความเห็นสั่งฟ้อง 5 ผู้ต้องหา คดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับตึก สตง.ถล่ม ในส่วนของความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวฯ มาตรา 36 มาตรา 37 และมาตรา 41 ในทุกข้อหา ยกเว้น นายประจวบ ศิริเขตร ซึ่งอัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 ข้อหา ตามมาตรา 41 ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน ประกอบด้วย นายโสภณ มีชัย, นายประจวบ ศิริเขตร, นายมานัส ศรีอนันท์,นายชวนหลิง จาง ชาวจีน กรรมการบริษัท ไชน่า เรลเวย์ และ […]

กัมพูชาจะไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทเข้าสู่วาระการประชุมเจบีซีกับไทย

กรุงเทพ 5 มิ.ย. – รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ลงวันที่ 4 มิถุนายนตำหนิเหตุการณ์ยิงปะทะกับทหารไทย พร้อมประกาศนำข้อพิพาทเรื่องดินแดนในพื้นที่ 4 จุดต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยจะไม่นำเข้าวาระการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee- JBC) หรือ เจบีซี ไทย-กัมพูชา กลางเดือนนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศบนรากฐานแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศ เสมอมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนร่วมกันตามที่กำหนดไว้ตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ยกเว้นช่วงระบอบการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดง กัมพูชายังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในการเปลี่ยนชายแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเส้นทางที่ผ่านมา กัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับการยุติปัญหาชายแดนอย่างสันติ แม้ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและมีการสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญที่ยืนหยัดปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของรัฐบาลกัมพูชา ในการแก้ไขปัญหาอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในการดำเนินงานในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงการส่งข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งมีคำวินิจฉัยเป็นคุณแก่กัมพูชาในปี 2505 และอีกครั้งหนึ่งในปี 2556 ในข้อพิพาทชายแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ ที่ในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 28 พฤษภาคม 2565 เวลาประมาณ 05:30 น. เกิดเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารกัมพูชาในพื้นที่หมู่บ้านเตโชมรกต ตำบลมรกต […]