ทำเนียบ 27 มี.ค.- นายกฯ หารือ รมช.กระทรวงธุรกิจและการค้า สหราชอาณาจักร ผลักดันความร่วมมือที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะการค้าการลงทุน และท่องเที่ยว
นาย Lord Dominic Johnson of Lainston CBE รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้าสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสการเยือนประเทศไทย
นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับและยินดีที่ได้พบกับ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงธุรกิจและการค้าฯ อีกครั้ง โดยไทยและสหราชอาณาจักรได้ร่วมกันประกาศยกระดับความสัมพันธ์สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เป็นโอกาสสนับสนุนการดำเนินงานร่วมกันในประเด็นสำคัญ
รัฐมนตรีช่วยกระทรวงธุรกิจและการค้า ชื่นชมความสำเร็จจากการเดินทางเยือนฝรั่งเศสของนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมายังประเทศไทย ซึ่งการเยือนในครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการหารือเพื่อเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักรให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น
สำหรับการหารือในประเด็น ด้านการค้าและการลงทุน ไทยและสหราชอาณาจักรมีการแลกเปลี่ยนการค้าและการลงทุนระหว่างกันเป็นจำนวนมาก โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่า ไทยและสหราชอาณาจักรยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างกัน พร้อมขอให้สหราชอาณาจักรให้การสนับสนุน ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้าฯ เห็นว่า FTA เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการค้า โดยพร้อมสนับสนุนและพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านดังกล่าว
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงธุรกิจและการค้าฯ เน้นย้ำว่า ภาคเอกชนสหราชอาณาจักรสนใจเพิ่มพูนการลงทุนในไทย โดยการประชุม UK – Thailand Financial Conference ในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.) นายกรัฐมนตรีจะร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษด้วย และมีภาคเอกชนจากสหราชอาณาจักรเข้าร่วมจำนวนมาก จะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนระหว่างไทยกับสหราชอาณาจักร
นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำศักยภาพและความพร้อมของไทยในการเป็นฐานการลงทุน และรัฐบาลมีนโยบายเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้มีความพร้อม มีมาตรการด้านภาษี มาตรการเพื่อลดอุปสรรคในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีแนวทางส่งเสริมการลงทุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว จึงขอให้ภาคเอกชนสหราชอาณาจักรมั่นใจในการเพิ่มพูนการลงทุนในไทย
ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชน ไทยและสหราชอาณาจักรมีการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนที่ใกล้ชิด โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษา และนักท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยนายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันผลักดันการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน เพื่อรองรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้น และผลักดันการแลกเปลี่ยนในระดับประชาชนระหว่างกัน ซึ่ง รมช.กระทรวงธุรกิจและการค้าฯ เห็นพ้องว่าความสัมพันธ์ในระดับประชาชนระหว่างกันแน่นแฟ้นมาก และพร้อมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนระหว่างกันมากขึ้น
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา โดยนายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และต้องการเห็นสันติภาพและเสถียรภาพในเมียนมา รมช.กระทรวงธุรกิจและการค้าฯ ชื่นชมในบทบาทและการมีส่วนร่วมของไทย โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับเมียนมาอย่างต่อเนื่อง โดยสหราชอาณาจักรหวังจะเห็นสันติภาพในเมียนมาเช่นกัน.-316.-สำนักข่าวไทย