ทำเนียบ 26 มี.ค.- “ทวี” ชี้ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวการเมือง ไม่ได้อยู่ในข้อห้ามเงื่อนไขพักโทษ บอกมารายงานตัวกรมคุมประพฤติตามปกติ มองฝ่ายค้านอภิปราย 152 คงคล้าย สว. แต่อาจเข้มข้นกว่า
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ช่วงบ่ายวันนี้ (26 มี.ค.) จะทำให้เป็นประเด็นทางสังคม และเป็นเป้าทางการเมืองในการอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 152 ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ว่า คงเป็นการอภิปรายคล้ายกับ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) แต่อาจจะมีเนื้อหาที่เข้มข้นกว่า
ส่วนจะทำให้สังคมเคลือบแคลงใจหรือไม่พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า โดยปกติเราใช้โดยหลักเกณฑ์ของกรมคุมประพฤติ ซึ่งกรณีนี้ถือว่ายังอยู่ในเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งราชทัณฑ์จะไปลดโทษให้ใครไม่ได้ แต่จะมีกระบวนการที่เรียกว่าการบริหารโทษ เช่น การพักโทษ การใช้ที่คุมขังอื่น ซึ่งที่ในกฏหมายราชทัณฑ์และกฎกระทรวงกำหนดว่าโรงพยาบาลเป็นที่คุมขังอื่น ส่วนการคุมประพฤติจะมีข้อห้ามและข้อให้ เช่น ห้ามนักโทษกันเองไปเยี่ยมกันเอง ห้ามยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนเรื่องอื่นก็มีสิทธิเสรีภาพ เหล่านี้เป็นเรื่องที่กรมคุมประพฤติต้องดูแล
ส่วนการที่นายทักษิณ จะเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย จะผิดเงื่อนไขการพักโทษหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคการเมืองไม่ได้อยู่ในข้อห้ามของกรมราชทัณฑ์ แต่มีอยู่ในระเบียบกรมคุมประพฤติที่ให้มารายงานตัว จะไปพบใครไม่ได้เกี่ยวข้อง ในการเขียนกฎกระทรวงขณะนั้นไม่ได้เขียนเรื่องการเมือง
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตถึงมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรม จะชี้แจงอย่างไร พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่ากระบวนการยุติธรรมก็ต้องปฏิบัติตามหลักกฏหมาย และรัฐธรรมนูญบอกให้ปฏิบัติตามกฏหมาย หากเราทำนอกกฎหมายถือเป็นการกระทำตามอำเภอใจ เพราะในกฎหมายมีกฎระเบียบ อย่างไรก็ตามเราต้องเคารพกฎหมายเพราะกฎหมายฉบับนี้ มาจากการร่างของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2559 ซึ่งกำหนดว่าสถานพยาบาล ถือเป็นสถานคุมขังหนึ่ง ตนเองแค่นำมาปฏิบัติตาม
“กฎหมายราชทัณฑ์ถ้าดูดีๆ คนราชทัณฑ์แทบจะไม่มีอำนาจเลย เช่น การพักโทษก็เขียนในกฎหมาย ให้มีคณะกรรมการพักการลงโทษ ซึ่งคณะกรรมการจะมีปลัดกระทรวงยุติธรรม และข้าราชการจากหน่วยงาน รวมถึงศาลยุติธรรมด้วย ถ้าเรายอมรับกติกาว่าเราต้องปฏิบัติตามกฏหมาย ถ้าปฏิบัตินอกกฎหมาย ก็ถือว่าไม่ปฏิบัติตามหลักนิติธรรม” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนกรมราชทัณฑ์จะตักเตือนนายทักษิณ ให้เพลาลงหน่อย ในการเคลื่อนไหวเพราะเป็นกระแสสังคม พ.ต.อ. ทวี กล่าวว่า เราเคารพในความคิดเห็น และความคิดเห็นที่หลากหลายเป็นสิ่งที่ดี แต่กระทรวงยุติธรรมไม่มีหน้าที่ไปยุ่งเรื่องส่วนตัว ดำเนินแต่เพียงหน้าที่ที่รับผิดชอบ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีนักการเมืองที่ถูกพักโทษ และออกมาเคลื่อนไหวลักษณะนี้หรือไม่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า แต่ละปีมีนักโทษถูกพักโทษเป็นหมื่นคน เพียงแต่สื่อฯ ไม่ได้ไปตาม
“มองว่าการปฎิบัติตัวของนายทักษิณถือเป็นปกติ เพราะจากรายงานเมื่อคืนที่ผ่านมา นายทักษิณก็ไปรายงานตัวตามปกติและปฏิบัติตามเงื่อนไขการพักโทษอยู่แล้ว”พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ส่วนที่กระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของกระทรวงยุติธรรมหนักใจหรือไม่นั้น พ.ต.ทวี กล่าวว่า อยากให้แยกส่วนกัน กระทรวงยุติธรรม ทำงานในหน้าที่ของกระทรวงยุติรรม ไม่ได้หนักใจอะไร เมื่อวานเพิ่งครบรอบ 133 ปี ของกระทรวงยุติธรรม สิ่งที่เราจะมุ่งมั่นคือการลดความเหลื่อมล้ำ ได้รับทำให้ทุกคนได้รับความยุติธรรมถ้วนหน้าให้ได้ ซึ่งนิยามความยุติธรรม เป็นนามธรรม สำหรับบางคน แต่เรื่องใหญ่ขณะนี้เราต้องทำตามรัฐธรรมนูญ และทำตามกฎหมายที่ได้บัญญัติไว้ ส่วนกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่ไม่เป็นธรรม ก็ต้องแก้ไข แต่ในที่สุดก็ต้องให้สภาผู้แทนราษฎร รัฐธรรมนูญปี 2560 เป็นงานสภาที่มาจากผู้ที่ถูกแต่งตั้ง โดยเฉพาะคนในสภาเมื่อวานส่วนใหญ่ ก็เป็นคนร่าง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฉบับนี้ทั้งหมด.-316.-สำนักข่าวไทย