ตาก 25 มี.ค. – ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นสักขีพยานในการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้เมียนมา ที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก หวังสร้างบรรยากาศที่ดีนำทุกฝ่ายในเมียนมา กลับสู่โต๊ะเจรจา
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายประเดิม เดชายนต์บัญชา ปลัดจังหวัดตาก ผู้แทนจากเมืองเมียวดี ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติและ ผู้แทนจากชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดตากและรัฐกะเหรี่ยง รวมถึงนางลัดดาวัลย์ เพชรเศษ นายกกิ่งกาชาดอำเภอแม่สอด ผู้แทนสภากาชาดไทย มอบความช่วยเหลือให้ นายอู โอง ไว ประธานสภากาชาดเมียนมาสาขาเมียวดี ผู้แทนสภากาชาดเมียนมา ณ จุดผ่านแดนถาวร สะพานมิตรภาพไทย- เมียนมา แห่งที่ 2
โดยพิธีส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมาในวันนี้(25 มี.ค.) เป็นข้อริเริ่มระหว่างไทยกับเมียนมา เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบ ในฐานะที่ไทยเป็นเพื่อนบ้านใกล้ชิดของเมียนมา ไทยจึงมีเจตนาที่ดีในการที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ชาวเมียนมาโดยไม่มีการแบ่งแยก โครงการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ เป็นการดำเนินการนำร่องจะเป็นสัญลักษณ์แทนความหวังดีของชาวไทยต่อชาวเมียนมา
ซึ่งโครงการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน และไทยยินดีที่ประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการ
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนทางเทคนิคในการสังเกตการณ์การจัดส่งสิ่งของความช่วยเหลือในพื้นที่จากศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการจัดการภัยพิบัติ หรือ AHA Centre เพื่อเป็นหลักประกันว่าการขนส่งจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ และโปร่งใส
ทั้งนี้ สภากาชาดไทยได้ส่งมอบถุงยังชีพจำนวน 4,000 ถุง ให้แก่สภากาชาดเมียนมา จากนั้นจะส่งไปยังพื้นที่นำร่อง 3 แห่งในรัฐกะเหรี่ยง ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 และจะถูกส่งมอบให้แก่ชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสภานการณ์การสู้รบ ประมาณ 20,000 ใน 3 หมู่บ้านได้แก่ บ้านนาบู
ตามันยา และ ไปร่โจง ใน 2 จังหวัด คือผาอัน และ กอกาเร็ก ซึ่งการดำเนิน โครงการมุ่งหวังว่า ความช่วยเหลือครั้งนี้จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวชาวเมียนมาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในเมียนมา และจุดเริ่มต้นในการยกระดับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสำหรับประชาชนเมียนมาในวงกว้างยิ่งขึ้นต่อไป
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมพิธีส่งมอบความช่วยเหลือผ่านระเบียงมนุษยธรรม ถึงความเป็นไปได้ที่ไทย จะเปิดเจรจาสันติภาพหลังจากนี้ ว่า การส่งมอบความช่วยเหลือวันนี้เป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยไทยไม่ได้คำนึงว่าเป็นฝ่ายใด ซึ่งถ้าความช่วยเหลือวันนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยก็จะมีการขยายความช่วยเหลือไปยังพื้นที่อื่นๆ ต่อไป ซึ่งการช่วยเหลือครั้งนี้เป็นหนึ่งในฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนเป็นการแสดงความหวังดีของไทยต่อคนเมียนมา ที่ปรารถนาจะเห็นเมียนมามีสันติมีเสถียรภาพมีเอกภาพ ซึ่งปัญหาภายในเหม็นมากกลุ่มต่างๆ ต้องแก้ไขกันเอง ซึ่งทุกฝ่ายพร้อมสนับสนุน อยากขอให้ทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้งหาทางที่จะลดความรุนแรงหาทางที่จะกลับไปสู่กระบวนการหารือ
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่ไทยจะดำเนินการให้เกิดการเจรจาโดยเป็นคนกลาง
นายสีหศักดิ์ ย้ำว่าสิ่งที่ไทยทำวันนี้เป็น 1 ในฉันทามติ 5 ข้อจากอาเซียน จากการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอาเซียนสนับสนุนและประเทศไทยในฐานะเพื่อนบ้านพร้อมที่จะช่วยเหลือเรื่องการหารือ แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกลุ่มต่างๆ ในเมียนมาด้วย
“เราจะบังคับให้ใครสู่โต๊ะเจรจาไม่ได้ แต่เชื่อว่าความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี เป็นการย้ำให้ทิ้งเรื่องการเมืองไว้ก่อนและมาทำเรื่องมนุษยธรรม ซึ่งจะนำร่องให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน โดยนำความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง เมื่อตรงนี้เรียบร้อยก็หวังว่าจะนำไปสู่การก้าวข้ามความขัดแย้งในปัจจุบัน”นายสีหศักดิ์ กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย