นายกฯ ตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์​

นครราชสีมา 24 มี.ค.- นายก​รัฐมนตรี​ ตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์​ ขอบคุณ อสม. แห่ต้อนรับ แจ้งข่าวดี พ.ค.นี้ เงินเดือนขึ้น หลังทำงานหนักปิดทองหลังพระ ขณะที่ชาวบ้านกรี๊ดตะโกนบอกรัก บางคนล็อกคอกอดแน่น


นายเศรษฐา​ ทวี​สิน​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​การคลัง​ พร้อมคณะตรวจเยี่ยมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา

โดยเมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้รับมอบผ้าขาวม้าผ้าไหมทอมือ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในพื้น​ พร้อมรับมอบพวงมาลัยดาวเรือง​ และดอกกุหลาบจากประชาชนกลุ่ม อสม.ตำบลในเมือง​ ที่มารอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี​


นายกรัฐมนตรี​ กล่าวทักทายประชาชน​ ระบุว่า​ ตนดีใจที่ได้มาโคราชอีกครั้ง หลังจากที่เดินทางมาก่อนการเลือกตั้ง​ และในวันนี้ อสม. ก็มาจำนวนมาก ซึ่งตนต้องขอบคุณ อสม.​ และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามีการอนุมัติงบประมาณ อสม. เพิ่มขึ้น ซึ่งในเดือนพฤษภาคมนี้ก็จะได้แล้ว และสส.พวกเราที่อยู่ในที่นี้ก็โหวตให้หลายท่าน​ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี สมกับที่ทำงานปิดทองหลังพระมานาน ตนขอเป็นกำลังใจทุกท่าน​ และในวันนี้มาดูพื้นที่เรื่องน้ำ​ ต้องไม่ท่วมไม่แล้ง​เป็นเรื่องสำคัญมาก​ เขื่อนแห่งนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี 2496 ซึ่งนานมาก จึงมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง​ วันนี้มาดูและศึกษาความเป็นไปได้ และรับฟังความคิดเห็นจาก สส. มีความคิดว่าเราควรจะต้องพัฒนาต่อ​โดยเร็ว​ ก่อนย้ำในช่วงท้ายว่า “ไม่ท่วม​ ไม่แล้ง”

จากนั้นนายกรัฐมนตรี​ ได้เดินทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าด​ได้เป็นอย่างดี โดยมีชาวบ้านมอบกุหลาบแดงเพื่อเป็นกำลังใจให้กับนายกฯ โดยช่วงหนึ่งมีชาวบ้านถามนายกฯว่า ร้อนหรือไม่ ซึ่งนายกฯ ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “ไม่ครับ เย็นใจ” หลังจากนั้นบางช่วงชาวบ้านบางรายได้แสดงความรักต่อนายกฯด้วยการล็อคคอกอดอย่างแนบแน่น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่าง

เป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านตะโกนบอกรักนายกฯ เป็นระยะ พร้อมกับบอกว่านายกฯสู้ๆ ซึ่งนายกฯได้กล่าวขอบคุณ โดยเฉพาะชาวบ้าน ที่เป็น อสม. และร่วมถ่ายรูปอย่างเป็นการกันเอง โดยเฉพาะ อสม. ที่เข้ามาขอบคุณนายกรัฐมนตรี หลังงบประมาณปี 2567 ผ่านการเห็นชอบ แต่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทำให้ได้รับอนุมัติงบประมาณที่ตกเบิกตั้งแต่ ต.ค.​ 2566 -​ 1 เม.ย.​2567​


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีถ่ายรูปร่วมกับ อสม. มี อสม. ท่านหนึ่ง ยื่นมือมาจากด้านหลัง เพื่อกอดคอนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า รัดจนแรงเกินไป ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับอ้าปากค้าง แนะนำมือมาลดมือของ อสม. รายดังกล่าวลง

จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้เดินดูระดับน้ำบริเวณเขื่อนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์​ ซึ่งน้ำในพื้นที่ดังกล่าวให้สำหรับการเกษตรเป็นส่วนใหญ่​.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก