ฟันธง ร่างงบฯ 67 ผ่านสภาฯ ล้านเปอร์เซ็นต์

รัฐสภา 22 มี.ค.-“วิสุทธิ์” ฟันธง ร่างงบฯ 67 ผ่านสภาฯล้านเปอร์เซ็นต์ ฉุนถูกตัดงบฯ สร้างฝายซีเมนต์ ท้าก้าวไกลลงพื้นที่ พร้อมสาบานวัดพระแก้ว หากทุจริตขอให้วิบัติ  

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 โดยเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาและมั่นใจจะผ่านสภาได้อย่างแน่นอน เพราะเชื่อว่าทุกคนต้องการให้ร่างงบประมาณผ่าน เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำไปปฏิบัติ และคาดว่าต้นเดือนเมษายนงบประมาณที่ทุกคนรอกันทั้งประเทศ    จะได้นำออกไปใช้เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทำให้การหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจดีขึ้น เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองควรจะร่วมกันในการผลักดันร่างงบประมาณ จึงเชื่อว่าวันนี้ร่างงบประมาณจะผ่านล้านเปอร์เซ็นต์ 


เมื่อถามถึงกระแสข่าวคว่ำร่างงบประมาณถึงขั้นเพื่อให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าเรื่องดังกล่าวมาจากที่ไหน ซึ่งคงเป็นพวกเดิมๆ ที่ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ และไม่มีใครเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี

นายวิสุทธิ์  ยังชี้แจงถึงกรณีที่มีการอภิปรายดุเดือดในช่วงค่ำวานนี้ (21 มี.ค.)  ว่ามีความเสียใจที่โครงการฝายซีเมนต์  ที่เกิดจากภูมิปัญญาพี่น้องประชาชน และภูมิปัญญาของชาวบ้านที่นำกระสอบทรายไปกั้นลำน้ำเป็นฝาย  แต่พอหน้าฝนน้ำมาทำให้กระสอบทรายถูกน้ำพัดและเสียหาย  ซึ่งทำกันทุกปี  ใช้งบประมาณของกระทรวงมหาดไทยและของท้องถิ่นไปซื้อ กระสอบทรายแจกไปยังหมู่บ้าน ตำบลต่างๆ เพื่อกักน้ำ เพราะภาคเหนือและภาคอีสานเป็นพื้นที่สูง ช่วงหน้าน้ำเรามีน้ำ  พอปลายฤดูฝนน้ำก็หมด  จึงเกิดปัญหาขึ้น คนที่อยู่กรุงเทพฯ ทราบว่าคนชนบทเขาใช้บ่อน้ำ  


นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า คนที่คัดค้านโครงการนี้ เจอแต่น้ำประปาและน้ำขวด สุขสบาย แต่พวกตนอยู่ในชนบท ในฤดูแล้งบางทีต้องนำรถอีต๊อก อีแต๋นไปนำน้ำมาใช้ จากต่างตำบล แต่ในพื้นที่ที่เกิดปัญหามากๆ ท้องถิ่นแทบจะไม่มีเงินเติมน้ำมัน เพื่อใช้รถบรรทุกน้ำไปบริการประชาชน ถ้าบริการทุกวันจะต้องใช้ประมาณมหาศาล   ดังนั้นโครงการที่เกิดขึ้น เราไม่ได้คิดว่าเพื่อไทยหรือใครจะทำ  เรามองเห็นแล้วว่าท้องถิ่นเค้าทำ ที่ร่วมกันบริจาคเงินไปสร้าง   รวมถึงมหาวิทยาลัยขอนแก่นก็มาช่วยให้ข้อคิดข้อเห็นแล้วก็ทำ  ได้มีการทดลอง   ซึ่งก็ได้ผลจริงๆ  หลังจากทำแล้วก็เกิดประโยชน์   ชาวบ้านก็รู้สึกดีประชาชนก็อยู่ได้    คนที่ไม่เห็นอย่าจินตนาการ กล่าวหาว่าโครงการนี้ทำรวดเร็ว  การสำรวจ 10 กว่าวัน  ในตำบลหนึ่งอาจจะมีแค่ 10 หมู่บ้าน  คนที่เป็น  สท หรือ อบต. เกิดมาก็อยู่ในลำห้วย หาปูหาปลากิน  เรารู้ทุกห้วยกว้างเท่าไหร่ ที่บอกว่าจะมาใช้เวลา 14 วันสำรวจได้อย่างไร มันไม่ได้สำรวจแม่น้ำ และลำห้วยก็ไม่ได้ต้องไปขออนุญาตจากกรมเจ้าท่า   แม้แต่ในลำน้ำกรมเจ้าท่ายังอนุญาตให้สร้างเพราะมันไม่มีเหล็ก   ใช้แค่หินและทราย ผสมปูนแค่ 10 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์    เป็นแค่ฝ่ายชะลอน้ำ   ซึ่งเมื่อน้ำไหลช้าลง   ระบบนิเวศก็จะเกิดขึ้น   น้ำเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับชาวไร่ชาวนาและคนชนบท อย่าได้จินตนาการ

“ผมจึงขอเชิญชวนพรรคก้าวไกลทุกคน ทั้งหัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้าน  ลงพื้นที่ เราไปดีเบตด้วยกัน   ไปถามพี่น้องประชาชน  ถ้าไม่ดีไม่มีประโยชน์   ไม่ถูก  บอกผมมา ผมยินดีจะลาออกจากผู้แทนฯ  แต่พวกท่านไม่ต้องออก  แต่ผมอยากให้พวกท่านตาสว่าง  เห็นความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชนจริงๆ  ได้เห็นว่าโครงการเกิดประโยชน์จริงๆ  อย่าได้จินตนาการ พูดจาแล้วบอกว่าน้ำปูนคนจะดื่มไปได้อย่างไร  พวกผมไม่ได้ดื่มน้ำห้วย ดื่มน้ำในบ่อ ดื่มน้ำในขวด อย่าดูหมิ่น  ที่มีอารมณ์ เพราะต้องบอกว่าผมเสียใจ   ที่พี่น้องประชาชนตั้งความหวังไว้กับโครงการนี้ทั้งประเทศ  เป็นเรื่องของท้องถิ่นที่ได้ประโยชน์ ขอตัดโครงการไปผมเสียใจ    ยอมรับว่ามีอารมณ์โกรธแทนพี่น้องประชาชน   เกษตรกรรอความหวังอันนี้” นายวิสุทธิ์ กล่าว

เมื่อถามกรณีที่มีข่าวว่า เพื่อไทย กับ สว. มีเบื้องลึกเบื้องหลังเกี่ยวกับงบประมาณโครงการนี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “ตนขอสาบานต่อวัดพระแก้ว  ถ้ามีความคิดทุจริตหากินแบบนี้ ขอให้วิบัติ แต่ถ้าไม่จริงขอให้ตนเจริญก้าวหน้า คนที่กล่าวหาตนถ้าไม่จริงตามที่กล่าวหา   ขอให้คุณวิบัติทั้งครอบครัว” 


นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า การขอเชิญพรรคก้าวไกลลงพื้นที่ไปดูโครงการดังกล่าว เพื่อจะได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่ใช่โลกจินตนาการ แต่เบื้องต้น ยังไม่ได้มีใครตอบรับ 

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปของ สว. ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ ส่วนตัวยังเชื่อว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรว่าการกระทรวงการคลัง จะมารับฟังการอภิปราย เเชื่อว่ารัฐบาลพร้อมตอบ และต้องให้เกียรติสมาชิกวุฒิสภา ไม่มีปัญหาเลย 

นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณางบประมาณปี 2568  ว่าจากการพิจารณางบปี 2567 ที่ช้าไปถึง 7เดือน และงบประมาณปี 2568 ก็จ่อรอการพิจารณาอยู่แล้ว คาดว่าจะสามารถพิจารณางบประมาณปี 68 ได้ในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะมีการเปิดประชุมสภาฯสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณางบประมาณอีกครั้ง.-315.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]