หั่นงบก.ทรัพยากรฯ 10 เปอร์เซ็นต์

รัฐสภา 21 มี.ค.-ก้าวไกลหั่นงบกระทรวงทรัพย์ฯ 10 เปอร์เซ็นต์ กังขางบเบี้ยประชุมสูงลิ่ว โครงการสร้างพิพิธภัณฑ์ไม้มีค่าฯ งบ 4 พันล้าน แพงกว่าอาคารทั่วไป 4 เท่า คาใจจัดซื้อ-จ้าง จวกแก้ PM2.5 ล้มเหลว


การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2   ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระที่สอง เรียงตามรายมาตรา จำนวน 41 มาตรา ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เป็นวันที่ 2 ในการพิจารณามาตรา 17 งบประมาณกระทวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 15,025,964,400 บาท

นายกฤษฐ์หิรัญ เลิศอุฤทธิ์ภักดี สส.นครสวรรค์ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ในฐานะอนุกรรมาธิการฯ มีข้อสงสัยหน่วยงานในกระทรวงทรัพยากรฯ 2 หน่วยงาน คือ สำนักนโยบายแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งได้รับงบประมาณ 1,002.5 ล้านบาท เป็นงบดำเนินการ 152 ล้านบาท งบลงทุน 45 ล้านบาท งบอุดหนุน 760 ล้านบาท งบรายจ่าย 43 ล้านบาท  โดยตั้งข้อสังเกตงบประมาณ 24.61 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบเบี้ยประชุม กรรมการ อนุกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม คณะกรรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ เป็นต้น  เนื่องจากในรายงานไม่มีรายละเอียดจำนวนครั้งในการประชุมจึงเข้าไปดูในรายงานประจำปีของหน่วยงานนี้ในปี 65 พบว่ามีการประชุมเพื่อพิจารณารายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) จำนวน 725 ครั้ง และมีการประชุมรวม 230 ครั้ง หมายความว่าใช้งบประมาณเฉลี่ยในการประชุมครั้งละ 1 แสนบาท/ครั้ง/วัน ตนถามผู้ที่มาชี้แจงได้ทราบว่ามีค่าเบี้ยประชุมสูงถึง 2,500- 1 หมื่นบาท/คน/วัน ซึ่งในอนุกรรมการฯ  ขณะที่เราประชุมกันเบี้ยประชุมเพียง 800 บาท/คน/วัน ตนคิดว่าน่าจะประหยัดงบประมาณนี้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์หากใช้งบอย่างเหมาะสมในการประชุม ไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงสุดที่กำหนดไว้


นายกฤษฐ์หิรัญ กล่าวว่า ส่วนอีกหน่วยงานคือสำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ หน่วยงานนี้ได้รับงบประมาณ 1,682 ล้านบาท เป็นงบดำเนินงาน 133 ล้านบาท งบลงทุน 592 ล้านบาท มีการปรับลดชั้นกรรมาธิการฯ เพียง 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบระบบคอมพิวเตอร์ แต่มีโครงการหนึ่งซึ่งเป็นงบผูกพันปี 66-70 ใช้ชื่อแผนอย่างสวยหรูว่าแผนงานพื้นฐานด้านการจัดการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นโครงการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ความรู้เรื่องไม้มีค่าเพื่อประโยชน์ของแผ่นดินเฉลิมพระเกียรติอันเนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

“จากการชี้แจงอนุกรรมาธิการฯ แบ่งเป็น 2 โครงการ ในเฟสแรก เป็นงานก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ 1,230 ล้านบาท และเป็นงานก่อสร้างเฉพาะอาคาร ค่าควบคุมงานก่อสร้าง 21 ล้านบาท  ตนเห็นชื่อโครงการนี้จากข่าวเมื่อเดือน มิ.ย. 66  ว่ามีมูลค่าการก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท ในพื้นที่ 2,550 ตร.ม.ประเมินเบื้องต้นอยู่ที่ ตร.ม. ละ 8.1 หมื่นบาท แพงแค่ไหนนั้นตนเปรียบเทียบกับโครงการที่ใกล้เคียงกัน เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าที่มีค่าก่อสร้าง 2.1 หมื่นบาท/ตร.ม. ถือว่าแพงมากกว่าการก่อสร้างอาคารทั่วไปถึง 4 เท่า  ซึ่งน่าจะปรับลดได้มากกว่านี้หากมีการจัดซื้อจัดจ้างที่เหมาะสม” นายกฤษฐ์หิรัญ กล่าว

นายกฤษฐ์หิรัญ อภิปรายว่า โครงการนี้อนุมัติตั้งแต่ปี 2557 ตั้งแต่หลังการรัฐประหารใหม่ ๆ รัฐบาล คสช. ได้อนุมัติโครงการนี้และมีมติ ครม. 4 ม.ค. 65 ให้กระทรวงทรัพยากรฯ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ จากนั้น ครม.อนุมัติงบ 4,055 ล้านบาท เพื่อดำเนินการก่อสร้าง เป็นงบผูกผันปี 66-70 ซึ่งตนสงสัยว่าการประมูลก่อสร้างครั้งนี้โปร่งใสหรือไม่ เนื่องจากพบว่าผู้รับจ้างก่อสร้างอาคารรายนี้รับงานก่อสร้างจากหน่วยงานรัฐจำนวนมากกว่า 1,529 โครงการ หรือ 1,460 ล้านบาทใน 7 ปี


“แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอาจจะเป็นเพราะความสามารถของผู้บริหารโครงการ แต่ข้อมูลที่เราได้รับเพิ่มเติม  เฉพาะในกทม. มี 181 โครงการ จากทั้งหมด 888  โครงการ  ที่บริษัทนี้ได้รับไป สังเกตว่ามีความปกติกว่า  1 ใน 5 จึงฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย อีกทั้งพบว่าบริษัทนี้ไม่ได้ซื้อซองเข้าเสนองาน แต่ได้งานในช่วงปี 62-63  จำนวนมาก ดังนั้นตนจึงขอให้ทบทวนปรับค่าก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้ไม้มีค่าฯ นี้  ที่จะมีในเฟสที่ 2 เพราะเราไม่สามารถปรับลดในเฟซแรกได้ เฟสที่สองในเรื่องของการตกแต่งภายในอยากให้ใช้งบประมาณที่เหมาะสมมากกว่านี้ สุดท้ายตนขอยืนยันให้ปรับลดงบ 67 มาตรา 17 ในส่วนของกระทรวงทรัพยากรฯ ทั้งหมด 10 เปอร์เซ็นต์ของโครงการ” นายกฤษฐ์หิรัญ กล่าว

นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายถึงการแก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ที่กระทรวงทรัพยากรฯ ไม่ให้ความสำคัญ ทำให้ปัญหามีความรุนแรงขึ้น รวมถึงการเกลี่ยงบประมาณภายในหน่วยงานที่ไม่เป็นธรรม ไม่ให้งบประมาณอย่างเพียงพอกับหน่วยงานที่มีหน้าที่แก้ปัญหาภัยแล้งว่า งบกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ถูกปรับลดลงเหลือ 870ล้านบาท ถูกตัดทิ้ง ทั้งที่ประเทศมีวิกฤติเรื่องน้ำ แต่กลับไม่ติดอาวุธให้หน่วยงาน ขณะที่งบกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่วแวดล้อมมีความทับซ้อนกับกรมควบคุมมลพิษ มีแต่งบงานอีเวนต์เป็นตัวตั้ง ที่ไม่ใช่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ควรเน้นเป้าหมายเรื่องการบรรลุยุทธศาสตร์ในการลดก๊าซเรือนกระจกให้ชัดเจน

ขณะที่นายจักรวาล ชัยวิรัตน์กูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า กระทรวงทรัพยากรฯ เกลี่ยงบไม่สมดุล กรมอุทยานแห่งชาติฯได้งบ 5,600ล้านบาท ทั้งที่มีรายได้จากการเก็บค่าเข้าอุทยานมากอยู่แล้ว มีรายได้ต่อปี 1,000ล้านบาท แต่กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่มีส่วนสำคัญแก้ปัญหาภัยแล้ง กลับได้รับงบประมาณไม่เพียงพอ อย่างกรมป่าไม้ มีอุปกรณ์ดับไฟป่าแค่ไม้กวาด เครื่องเป่าลม ควรได้รับงบเพิ่มเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ดับไฟป่าที่ทันสมัย

ส่วนนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.ชี้แจงว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 แก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา แต่เรื่องฝุ่นPM2.5เป็นเรื่องส่วนรวม ประชาชนต้องให้ความร่วมมือ ถ้าให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงฯเพียงอย่างเดียว การแก้ปัญหาจะใช้เวลานาน  หลังจากสส.อภิปรายมาตรา 17ครบถ้วน แล้วที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน