ทำเนียบรัฐบาล 21 มี.ค.-“สมศักดิ์” ถกคณะอนุกก.ภาคเหนือ เห็นชอบเป้าหมายพัฒนา 17 จังหวัดภาคเหนือ 20 ปี ไฟเขียวงบ 544 โครงการ มูลค่ากว่า 9 พันล้าน ขอทุกฝ่ายช่วยกันเร่งรัดโครงการแก้จน หลังเจอกับดักทางระเบียบ ทำล่าช้า
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2567 โดยมี นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือ เข้าร่วมประชุม ที่อาคารสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า การประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคเหนือวันนี้ ได้พิจารณาเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี พร้อมวัตถุประสงค์และทิศทางการพัฒนาในอนาคตของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ซึ่งข้อพิจารณาทั้งหมด จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ (ก.น.บ.) ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ต่อไป โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด 20 ปี ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ และทิศทางการพัฒนาของกลุ่มจังหวัด 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ แต่มีข้อสังเกตุเพิ่มเติมคือ บางจังหวัดควรกำหนดเป้าหมายย่อย 5 ปี ให้เชื่อมโยงกับเป้าหมาย 20 ปีด้วย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบโครงการและวงเงินงบประมาณ ตามแผนปฎิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2568 ของ 17 จังหวัด และ 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ โดยมีโครงการและงบประมาณที่เห็นควรสนับสนุนเบื้องต้น จำนวน 544 โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น 9,631 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเห็นชอบข้อเสนอโครงการของส่วนราชการ ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคเหนือ ปี 2566-2570 รวมจำนวน 102 โครงการ งบประมาณ 70,636 ล้านบาท
“ที่ประชุมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการในจังหวัดภาคเหนือ ที่เน้นแต่จังหวัดใหญ่ แต่จังหวัดรองลงมา ไม่ได้มีโครงการขนาดใหญ่ อาจทำให้การพัฒนาไม่สอดคล้องกัน รวมถึงมีข้อเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ช่วยลดความตึงลง เพราะหลายโครงการไม่เกิดขึ้นเพราะติดระเบียบ ทำให้การพัฒนาระหว่างจังหวัดยังไม่เชื่อมโยงกัน ซึ่งผมเน้นย้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือกับดักทางระเบียบที่ทำให้เดินต่อไม่ได้ จนทำให้ไม่เกิดโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ขอทุกภาคส่วนช่วยกันเดินหน้าเพื่อประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้โครงการล่าช้า ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะติดระเบียบมากไป แต่ขอยืนยันว่าจะเร่งรัดอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะโครงการที่จะช่วยแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน” นายสมศักดิ์ กล่าว.-314 .-สำนักข่าวไทย