กัมพูชา 19 มี.ค.- “แพทองธาร” นำเพื่อไทย พบพรรคประชาชนกัมพูชา แลกเปลี่ยนมุมมองการเมือง ด้าน “ฮุน เซน”แนะ พรรคการเมืองจะประสบความสำเร็จได้ ต้องทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ย้ำ สันติภาพชายแดนช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจ
นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมสรุปหลังการหารือทวิภาคีเต็มคณะร่วมกับ สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) เย็นวานนี้ (18 มี.ค.) ว่า สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้คำแนะนำถึงการทำพรรคการเมือง และการทำประโยชน์เพื่อประชาชน รวมถึงเปิดโอกาสและพัฒนาศักภาพคนรุ่นใหม่ร่วมกันของทั้ง 2 พรรคการเมือง ซึ่งสมเด็จ ฮุน เซน ยกตัวอย่างให้เห็นถึงคณะรัฐมนตรีปัจจุบันที่มีสัดส่วนของคนรุ่นใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเน้นการทำงานด้านการสร้างเครือข่ายสมาชิกพรรคการเมือง เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเป็นรากฐานสำคัญในการทำงานทางความคิดของพรรค โดยกล่าวว่าปัจจุบันพรรคประชาชนกัมพูชามีสมาชิกกว่า 7.2 ล้านคนหรือเกือบครึ่งประเทศ
สมเด็จฮุน เซน ยังได้รับทราบและเห็นด้วยในหลักการถึงการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้ริเริ่ม โครงการ “6 Countries 1 Destination” ในเวที ASEAN Summit และเสนอให้นำร่องการเข้าประเทศกลุ่มอาเซียนด้วยวีซ่าเดียวระหว่างไทย-กัมพูชา ก่อนอีกด้วย นโยบายนี้จะช่วยสนับสนุน การท่องเที่ยวแบบเชื่อมต่อกัน (Seemless Tourism) อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายซอฟต์ พาวเวอร์ ที่เน้นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเป็นการต่อยอดการสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวระหว่างกันอีกด้วย
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้เสนอให้มีการจัดตั้งทีมทำงานระดับพรรคการเมืองต่อพรรคการเมือง เพื่อให้ สส.ในแต่ละจังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดที่ติดกับแนวชายแดน หารือร่วมกันถึงแนวทางการพัฒนาการค้าชายแดนที่มีแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชาติดกันถึง 7 จังหวัด ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยเป็นสนามรบ ที่ยังคงมีกับระเบิดสมัยสงครามหลงเหลืออยู่ เป็นสนามการค้า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างไทย-กัมพูชา 525,000 ล้านบาทในปี พ.ศ. 2568
เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยังกล่าวว่า การหารือถึงความร่วมมือที่จะพัฒนาศักยภาพ ส.ส. ของทั้ง 2 พรรคการเมืองนี้ มีโจทย์หลักคือการทำงานเพื่อประโยชน์ประชาชน ให้นำไปสู่การสร้างสันติภาพและเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียน.-316.-สำนักข่าวไทย