ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แจง “งบแก้ฝุ่น” ยังไม่ออก ยันประกาศภัยพิบัติไม่เกิดประโยชน์

เชียงใหม่ 17 มี.ค. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ แจง “งบแก้ฝุ่น” ยังไม่ออก ชี้เงินทอนเป็นศูนย์ ของบมาเพื่อจ้างพนักงานดับไฟกว่าหมื่นคน ไม่จัดซื้อจัดจ้าง ยันประกาศภัยพิบัติไม่เกิดประโยชน์ในการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยราชการ มองทางแก้คือใช้ พ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูก


นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงภาพรวมการบริหารสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน ว่าตนได้นำเรียนนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์ของ จ.เชียงใหม่ และพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา สองเดือนแรกที่เน้นไปที่ในพื้นที่เกษตร ทำได้เกือบ 100% ที่ไม่ให้เกิดการเผาเลย

ส่วนในเดือนมีนาคม ได้รายงานนายกรัฐมนตรีไปว่าพื้นที่ท้าทายจะถูกเปลี่ยนเป็นป่า ซึ่ง จ.เชียงใหม่ มีพื้นที่ป่า ทุกประเภทอยู่ถึง 90% เกือบ 12 ล้านไร่ มากที่สุดในประเทศไทย ทำให้เกิดจุดความร้อนในป่ามากขึ้น จึงใช้วิธีดับให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดควันสะสม ซึ่งปีนี้เราสามารถทำให้พื้นที่ที่ถูกเผาไหม้ลดลงถึง 70% ทำให้ไม่เกิดการสะสมของกลุ่มควันที่เราผลิตขึ้นมาเอง ซ้ำเติมกับฝุ่นที่มาจากเพื่อนบ้าน


ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวอีกว่า สิ่งที่เราจะทำต่อไปในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบกลาง ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วนหนึ่งที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะจัดสรรให้กรมต่างๆ เช่น กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ฯ จ้างคนที่มีอาชีพหาของป่าที่มีความชำนาญเข้ามาเป็นพนักงานรักษาป่าเกือบ 2,000 กว่าคน ขณะนี้จังหวัดอยู่ระหว่างเสนอขอรับงบกลางจากรัฐบาล ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงบประมาณ เราจะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างคนเพิ่ม ดูแลทุกช่องทางการเข้าป่า และเป็นค่าใช้จ่ายของหน่วยงานต่างๆ ที่ออกดับไฟป่า ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จนถึงฤดูฝนมา

เมื่อถามว่ามีผู้กังวลถึงความไม่โปร่งใสของการใช้งบประมาณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ย้อนถามว่าจะเอาอะไรมาไม่โปร่งใส ในเมื่อวันนี้ พ.ร.บ.งบประมาณ ยังไม่ออกเลย เรายังไม่มีเงินใช้เลย ซึ่งจังหวัดอยู่ระหว่างของบไปยังรัฐบาล เงินยังไม่อนุมัติมา เพราะฉะนั้นเรื่องความไม่โปร่งใส การใช้งบประมาณ ถือว่าเป็นศูนย์ เพราะยังไม่มีงบให้ใช้ อย่าเพิ่งไปถามหาความไม่โปร่งใสหรือทุจริต

“ช่วงเวลาที่ผ่านมาแม้ไม่มีงบเราทุกคนก็ตั้งใจที่จะทำหน้าที่ป้องกันการเผา ในเดือนนี้มีการเผาเยอะ เราก็ตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในการดับไฟให้เร็วที่สุด ให้เกิดควันน้อยที่สุด ให้พี่น้องประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว


ส่วนเรื่องการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจากสถานการณ์ฝุ่น และข้อเรียกร้องงดการบริหารจัดการเชื้อเพลิง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า หากใครคุ้นเคยจากสถานการณ์น้ำท่วมขนาดใหญ่ และจำเป็นต้องประกาศภัยพิบัติ คือสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นสถานการณ์ขนาดใหญ่ และระเบียบเงินทดลองราชการ ของกระทรวงการคลัง ก็เขียนไว้ชัดว่ามีรายการที่ระบุว่าจ่ายค่าอะไรได้บ้าง แต่สำหรับภัยที่เป็นฝุ่น PM 2.5 ในระเบียบเงินทดรองราชการ กระทรวงการคลัง ไม่มีเขียนไว้ว่าจ่ายค่าอะไรได้บ้าง นอกเหนือจากค่าน้ำมันรถเจ้าหน้าที่ ระเบียบเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้นการประกาศภัยพิบัติเพื่อสู้ฝุ่น ไม่เกิดประโยชน์ในการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยราชการ จึงไม่มีความจำเป็นหรือมีน้ำหนักมากเพียงพอ หรือเป็นสิ่งจูงใจว่าเราต้องประกาศ เพื่อให้นำเงินมาใช้เพราะไม่เกิดประโยชน์อยู่แล้ว

“ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข เมื่อพระราชบัญญัติอากาศสะอาด และกฎหมายลูก ผ่านออกมา ที่มีการพูดถึงข้อจำกัดของระเบียบเงินทดรองราชการ หรืองบฉุกเฉินฯ ที่ท่านว่า เพราะประกาศไปก็ใช้ไม่ได้จริง สำหรับภัยพิบัติฝุ่น จึงจะต้องออกเป็น พ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูก ที่จะจะมีค่าใช้จ่ายออกมา” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ระบุ

ขณะนี้จังหวัดทำอย่างไรนั้น นายนิรัตน์ กล่าวว่า ขั้นแรกได้ปรึกษากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติญ ได้เสนอของบกลาง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กรุณาอนุมัติงบกลางเป็นปีแรกที่รัฐรัฐบาลเห็นความจำเป็น ส่วนหนึ่งจะมาจ้างคนไปดูแลป่า ซึ่งทางจังหวัดได้ขออนุมัติงบกลางไปยังคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะออกมาเร็วๆ นี้ เราจะมาเติมเต็มในส่วนที่คนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ยังจ้างไม่หมด จ้างเพิ่ม และหน่วยงานที่เดินเท้าเข้าป่า น้ำมันรถ ไม่ได้ขอมาซื้อของหรือซ่อมถนน หรือที่ไปกลัวว่าจะต้องมีเงินทอนต่างๆ

“ภัยพิบัติสู้ฝุ่น ไม่มีบริษัทไหนมาขายของเพื่อการภัยพิบัติ วัตถุประสงค์คือตนไม่ได้ขอมาซื้อหน้ากากอนามัยใดทั้งสิ้น เรื่องเงินทอนต่างๆ ตัดไปได้เลย ตนระวังตัวและไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการบริหารจัดการ ทำอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและอาสาสมัครที่อยู่กับเราเป็น 10,000 คน ให้เป็นกองทัพที่เดินด้วยท้อง มีอาหารให้เขากิน มีน้ำให้เขาแบกขึ้นไป มีเสบียง มีอุปกรณ์ มีไม้ดับไฟ มีรองเท้าที่กันไฟ จึงเป็นค่าใช้จ่ายประเภทนี้เท่านั้น เพื่อให้เขามีกำลังใจ ให้รู้ว่าเราได้ดูแลเขาที่ไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ไปสำลักควัน ไปเป็นลมแทนเรา” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว

ส่วนข้อเรียกร้องว่าไม่อยากให้มีการบริหารจัดการเชื้อเพลิงนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ชี้ว่าเป็นหนึ่งในมติของคณะกรรมการควบคุมไฟป่าจังหวัด ซึ่งเป็นมติของที่ประชุม ส่วนตัวตนย้ำตลอดว่าไม่ได้เห็นด้วยกับการจุดไฟเผาแม้แต่ครั้งเดียว แต่เมื่อเป็นมติที่ประชุม และมีหลักวิชาการป่าไม้เข้ามาอธิบาย ถ้าไม่ชิงจัดการเชื้อเพลิงไว้ก่อน และเกิดไฟลุกไหม้ ที่มีคนมาแอบจุดนอกเหนือแผน จะลุกไหม้ที่ไร้การควบคุมและจะเกิดไฟแบบแปลงใหญ่ 1,000 ไร่ 10,000 ไร่ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ตนต้องยอมรับความจริงว่าการบริหารจัดการเชื้อเพลิงตามหลักวิชาการป่าไม้ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องยอมรับ แต่การอนุมัติให้มีการชิงเผาเป็นอำนาจแต่ละอำเภอ แต่ละท้องถิ่น อบต. ไม่เคยมาถึงผู้ว่าฯ แต่ถ้าสถานการณ์อยู่ในช่วงอากาศปิด การระบายอากาศเป็นไปได้น้อย แน่นอนตนจะให้คำแนะนำว่าช่วงนี้ควรงดเว้นก่อน และตนได้ทำหน้าที่นี้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดตกบกพร่อง

ส่วนที่บางคนระบุว่าทำไมผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ดับไฟเอง นายนิรัตน์ ยืนยันว่า ตนก็ไปกับน้องทีมเชียงใหม่ที่มีหน้าที่ดับไฟป่า แต่เรียนด้วยความเคารพ การดับไฟป่าเป็นภารกิจที่อันตรายอย่างมาก เขาไม่ให้ผู้ที่ไม่ผ่านการฝึกไปดับไฟกับเขาง่ายๆ ไฟคือไฟร้อนและไม่คุยกับใคร เราไปไม่ถูกที่ไฟกระเด็นเข้าตัว ตนไปในทุกที่ที่น้องๆ ดับไฟอยู่ ไปให้กำลังใจ ส่งเสบียง ถ้าผู้ว่าฯ มีหน้าที่ดับไฟเอง แล้วใครจะบริหารสถานการณ์ภาพรวม ใครจะสนับสนุน ใครจะตัดสินใจ แก้ปัญหาที่แต่ละหน่วยตัดสินใจไม่ได้ เป็นหน้าที่ของตนที่ทำอยู่ตรงนี้ และอำนวยการให้กับพี่น้อง คนดับไฟป่า สามารถทำงานในแต่ละจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขาดอะไร ที่วิทยุร้องขอมา มีหน้าที่ตัดสินใจว่าจะส่งกำลังหน่วยอื่นไปช่วย หรือใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วย นี่คือบริหารงานที่ตนได้ทำในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และทำทุกวัน ไม่มีวันหยุด

“ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่ได้ผ่านการฝึกดับไฟป่าที่ต้องใช้ทักษะ ใช้กำลัง ใช้ความอดทน ตนมีหน้าที่สนับสนุนเสบียงอาหาร น้ำดื่มอุปกรณ์กันไฟ รองเท้าทนไฟ หรือสนับสนุนในกรณีที่จุดดับไฟจุดแรกดับไม่ได้ จะส่งชุดอื่นเข้าไปอย่างไร มีหน้าที่ที่จะอำนวยการให้พนักงานดับไฟป่ากว่า 10,000 คนเชียงใหม่ทำงานได้ โดยไม่ติดขัด และดับไฟได้ทุกจุดภายในวันนั้น นี่คือหน้าที่ของตน” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าว.-316-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

กกต.สั่งเอาผิดอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ

กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา “ชวาล” สส.ปชน. ยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้งไม่ตรงความเป็นจริง โทษหนักทั้งจำคุก-ตัดสิทธิ 5 ปี

ข่าวแนะนำ

ฉายารัฐบาลปี67

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี 67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง”

สื่อทำเนียบฯ ตั้งฉายา ปี67 “รัฐบาล(พ่อ)เลี้ยง” ฉายานายกฯ “แพทองโพย” ด้าน 7 รัฐมนตรีติดโผ “บิ๊กอ้วน-อนุทิน-ทวี” พ่วง 3 รัฐมนตรีโลกลืม ส่วนวาทะแห่งปี “สามีเป็นคนใต้”

เลือกตั้ง อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ

“กานต์ กัลป์ตินันท์” ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พร้อมขอบคุณคนเสื้อแดง และนายทักษิณ ชินวัตร ที่ช่วยผลักดัน

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน