วังนันทอุทยาน 15 มี.ค.-“รังสิมันต์” หารือ ผบ.ทร. เห็นพ้อง “บุคคลที่ 3” ร่วมสางปม รล.สุโขทัย ล่ม ขอ 3 วัน รอข้อสรุปปืนลั่นใส่ รล.คีรีรัฐ ยันก้าวไกล หนุน ทร. ของบปี 68 ซื้อเรือฟริเกตอีกครั้ง
นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฏร กล่าวภายหลังเข้าพบพล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ว่า ได้พูดคุยกันเบื้องต้นคิดว่า มีประโยชน์มาก โดยเวลาอันจำกัด ถือว่าได้ประเด็นที่หลากหลาย ในเรื่องของที่เป็นประเด็นอยู่ เช่น เรื่องเรือหลวงชลบุรี ที่เกิดเหตุปืนลั่นใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ เบื้องต้นจากที่สอบถามเพื่อหาสาเหตุ เราต้องรอฟังจากกองทัพเรืออีก 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน เบื้องต้นทราบว่าเป็นการไปฝึกกลางทะเลก็พบปัญหาแล้ว ซึ่งกองทัพเรือ ชี้แจงว่าเรือค่อนข้างเก่าอายุกว่า 40 ปี จึงมีปัญหาการใช้อาวุธ เมื่อนำเรือกลับเข้าฝั่งก็เกิดขัดข้อง ซึ่งยังไม่รู้ว่าเกิดจากซอต์ฟแวร์หรือจากจุดใด
นายรังสิมันต์ กล่าวว่าส่วนกรณีเรือหลวงสุโขทัย คงจะมีการสรุปกันอีกครั้งว่าสาเหตุของการจมเป็นอย่างไร ทางผู้บัญชาการทหารเรือ รับปากกับ กมธ. ว่าจะมีการชี้แจงกับสังคมแน่นอน สิ่งสำคัญที่ต้องสร้างความโปร่งใสในการชี้แจงต่อสาธารณะชน เข้าใจว่าจะมีการประมวลผลจากภาพ จากวิดีโอ ที่มีการเก็บกู้ขึ้นมา ซึ่งเป็นปฏิบัติการรวมกับทางสหรัฐอเมริกา จะมีการประมวลผลและสรุปอีกครั้ง
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงบทบาท กมธ.การทหาร และ กมธ.ความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีประธาน กมธ. จากพรรคก้าวไกล ในการเข้ามาตรวจสอบการสรุปผล เรือหลวงสุโขทัย อับปาง ภายหลังคณะกรรมการหาข้อเท็จจริงฯ ของกองทัพเรือ ได้ข้อสรุป ว่า เรื่องนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ เห็นด้วยว่าควรมีบุคคลภายนอกเข้ามา และ กมธ. มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ควรจะต้องเปิดให้บุคคลภายนอกเข้ามา ซึ่งต้องพิจารณากระบวนการที่จะนำไปสู่การสรุป สาเหตุที่ทำให้ เรือหลวงสุโขทัยจม จะต้องมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ จึงต้องมีการเปิด Third Party หรือบุคคลที่ 3 เข้ามาตรวจสอบ ก็จะเป็นแนวทางที่ดี ซึ่งจะเป็นมาตรฐานของกองทัพ และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับกองทัพก็จะดีขึ้น
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึง กรณีพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด จ.ตราด ว่า มีการพูดคุยเหมือนกัน ยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของไทยแน่นอน คงจะไม่มีประเด็นปัญหาในเรื่องเกาะกูดเป็นของใคร
สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกต ภายหลัง กมธ.งบประมาณฯ ปี 2567 ตีตก นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งส่วนตัวต้องบอกว่า จริงๆเราไม่ได้ค้าน ขออธิบายว่าน่านน้ำไทยเรามี 2 ฝั่ง และต้องมีอาวุธยุทโธปกรณ์ในการปกป้อง ซึ่งเท่าที่ทราบเรือฟริเกตเรามีอยู่แค่ 4 ลำ ซึ่ง 4 ลำ คือ 1 กองเรือ การปฏิบัติการ 2 ฝั่งทะเล มีข้อจำกัด เมื่อพิจารณานโยบาย Offset Policy ที่จะให้เกิดการจ้างงาน การผลิตภายในประเทศ มีองค์ความรู้ในประเทศ ดังนั้นในชั้น กมธ.งบประมาณฯ เราจึงสนับสนุน และมีความจำเป็น โดยตนได้คุยกับผู้บัญชาการทหารเรือในงบประมาณปี 68 จะต้องมีการยื่นขออีกครั้ง ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้ไปทำความเข้าใจกับ สส. เพราะใน กมธ. มี สส. มาจากทุกพรรค
สำหรับกรณีทหารเกณฑ์ที่มีประเด็นขึ้นมาในขณะนี้ นายรังสิมันต์ ยืนยันกับกองทัพว่าไม่อยากให้มีกรณีทหารรับใช้เกิดขึ้นมา ซึ่งกองทัพก็ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ใช่ทหารรับใช้ แต่อย่างไรก็ตามต้องบอกว่าเป็นประเด็นค่อนข้างอ่อนไหว ด้วยพัฒนาการของสังคมในเวลานี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ก็ยืนยันว่าจะกวดขันให้ดีขึ้น ซึ่งเราก็คิดว่าคงจะเบาบางหรือทุเลาลงไป
นอกจากนี้ กมธ.ความมั่นคงฯ ได้เดินทางไปตรวจหน่วย เรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง ที่พบว่ามีการใช้โดรนในการขนส่งยาเสพติด ซึ่งทางกองทัพเรือจะเป็นเจ้าภาพ ในการจัดการกับโดรนต่างๆ ที่ถูกใช้ในการขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทย.-313.-สำนักข่าวไทย