รัฐสภา 14 มี.ค.-“ณัฐวุฒิ” ชี้ นิรโทษกรรมควรครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกคดีเตรียมเสนอที่ประชุมให้รวมม.112 ด้วย ส่วนปม “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ขอให้คนที่เกี่ยวข้องพิจารณา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะอดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงคณะกรรมาธิการนิรโทษกรรมเริ่มสืบหามูลเหตุจูงใจทางการเมืองเพื่อพิจารณาคดีใดเข้าข่ายการได้รับนิรโทษกรรม ว่า เรื่องนี้ได้แสดงความเห็นไปหลายครั้ง และยอมรับว่าคนเสื้อแดงรวมถึงกลุ่มอื่น ๆ ที่เห็นต่างล้วนมีเหตุจูงใจทางการเมือง ตามหลักการเหตุผลหรือข้อเท็จจริงที่สัมผัสและยอมรับ
“หากคณะกรรมาธิการหรือสภาฯ ชุดนี้ประสงค์จะทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองที่ผ่านมาคลี่คลายลงและหาข้อยุติร่วมกันโดยตั้งต้นกันใหม่ การนิรโทษกรรมควรหมายถึงทุกกลุ่ม ทุกฝ่าย ทุกคดีความ ทุกข้อกล่าวหา ในที่นี้จึงเสนอให้มีการยกเว้นข้อกล่าวหาการทุจริตคอรัปชั่นและความผิดที่ถึงแก่ชีวิต” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ส่วนมาตรา 112 มองเห็นว่าเงื่อนไขการเมืองปัจจุบันภายในประเทศเป็นเงื่อนไขที่ไม่เคยเกิดขึ้น ถ้าอยากคลี่คลายความขัดแย้งในวาระนี้ควรขยายพื้นที่ของการนิรโทษกรรมให้ครอบคลุมความผิดในมาตราดังกล่าว แต่ไม่ได้สนับสนุนหรือให้ท้ายว่าให้ใครทำอะไรก็ได้โดยไม่รับผิดทางกฎหมาย แต่กลุ่มบุคคลจำนวนมากที่ต้องคดีความดังกล่าวอยู่เป็นเยาวชนที่จะเป็นอนาคตของประเทศ หากละเว้นข้อกล่าวหาดังกล่าวไว้กลายเป็นว่าสังคมนี้กำลังมีคู่ขัดแย้งเพียงคู่เดียวคือเยาวชนที่ถูกคดี112 ซึ่งไม่ส่งผลดีกับสถานบัน
“ที่มาวันนี้ก็ตั้งใจจะนำข้อเสนอนี้ส่งต่อไปยังคณะกรรมาธิการผู้เป็นรับผิดชอบโดยตรง ให้นำไปพิจารณาและหาข้อสรุปร่วมกัน แน่นอนว่าการนิรโทษกรรมไม่ได้ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองหายไป 100% แต่เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาลง ยอมรับว่าในสังคมมีความเห็นต่างกัน มองไม่เหมือนกันแนวทางทางการเมืองที่ต่างกัน แต่ว่าไม่ใช่ศัตรูและไม่ได้มุ่งร้ายต่อบ้านเมือง รวมถึงไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นอาชญากร ไม่อยากให้ใครไปบอกว่าคนหนุ่มสาวหลักพันคนที่ต้องคดีความคดีอาญามาตรา 112 เป็นอาชญากร และขอความกรุณาว่าอย่าให้เกิดความคิดที่เมื่อนำ 112 เข้ามาแล้วจะล่มข้อเสนอการนิรโทษกรรม” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ส่วนเรื่องนายทักษิณ ชินวัตรและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจเข้าข่ายต่อสู้คดีทางการเมืองได้ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนทางกฎหมายและเป็นข้อกล่าวหาจากการบริหารราชการแผ่นดิน หากตนพูดว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองแน่ ๆ ก็จะกลายเป็นว่าตีไพ่ให้กัน ถ้าบอกว่าไม่ใช่ก็จะมองว่าเป็นการสกัดขวางขึ้นอีกเพราะฉะนั้นคิดว่าให้เป็นฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาจะดีกว่า.-317.-สำนักข่าวไทย