12 มี.ค. – “รวมไทยสร้างชาติ” ไม่เห็นด้วย “ก้าวไกล” เสนอญัตติด่วนให้ สภาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาอำนาจของศาลรธน. ยก 3 เหตุผลอาจขัดรัฐธรรมนูญ ก้าวล่วงอำนาจศาล และมีผลประโยชน์ทับซ้อน ย้ำสภาฯ เป็นที่รักษาผลประโยชน์ประชาชน ไม่ใช่ผลประโยชน์พรรคการเมือง
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พรรครวมไทยสร้างชาติได้เรียกประชุมสส.ของพรรค โดยมี นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคเป็นประธานการประชุม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงภายหลังประชุมพรรคว่า พรรคได้พิจารณาญัตติด่วนที่พรรคก้าวไกลยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎรให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญและขอบเขตอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ โดยพรรคได้ประชุมเรื่องนี้กันอย่างละเอียดถึงความเหมาะสมในการที่พรรคก้าวไกลอาจเสนอญัตติด่วนดังกล่าวแทรกวาระการประชุมปกติให้สภาฯพิจารณาในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ มติของพรรคเป็นเอกฉันท์ไม่เห็นด้วยกับการเสนอญัตติด่วนของพรรคก้าวไกล มองว่าญัตติด่วนดังกล่าวอาจขัดรัฐธรรมนูญเพราะรัฐธรรมนูญได้กำหนดอำนาจของฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการไว้อย่างชัดเจน ดังนั้นการเสนอญัตตินี้เข้ามาในสภาฯ อาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ
นายอัครเดช กล่าวว่า เหตุผลข้อที่ 2 พรรคมองว่า การยื่นญัตติของพรรคก้าวไกลเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลเนื่องจาก มี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดอำนาจขั้นตอนและวิธีการพิจารณาคดีใดๆไว้อย่างชัดเจนในการวินิจฉัยคดีที่เกี่ยวข้องภายใต้ขอบเขตอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการยื่นญัตติลักษณะนี้พรรคมองว่าเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาลรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน เพราะมี พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดีไว้อย่างชัดเจนแล้ว
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า เหตุผลข้อ 3 พรรคมองเป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต.ได้ยื่นเรื่องการยุบพรรคก้าวไกลไปยังศาลรัฐธรรมนูญแล้วเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งเป็นนโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล และผลของการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมามองว่าความพยายามในการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลเป็นการกัดเซาะบ่อนทำลายกระบวนการในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ดังนั้นการที่พรรคก้าวไกลยื่นญัตติด่วนให้สภาฯพิจารณา พรรคจึงมองว่าเป็นการใช้กลไกของสภาฯในการรักษาผลประโยชน์ให้กับพรรคก้าวไกลโดยตรง ทั้งที่กลไกของสภาฯควรเป็นเวทีรักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนไม่ใช่การรักษาผลประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
“ทั้ง 3 เหตุผล พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีมติเป็นเอกฉันทท์ไม่เห็นด้วยกับญัตติด่วนของพรรคก้าวไกลที่ให้สภาฯพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ศึกษาเรื่องดังกล่าวอีกทั้งพรรคยังมองว่าเป็นการกดดันศาลรัฐธรรมนูญในช่วงนี้ที่มีการพิจารณาคดีที่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกลและอาจมองได้ว่าเป็นความต้องการลดความน่าเชื่อถือของศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาคดี ที่พรรคก้าวไกลถูกกกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรค ดังนั้นเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม จึงไม่ควรนำญัตตินี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯควรปล่อยให้เป็นกลไกของศาลรัฐธรรมนูญ ในการพิจารณาคดี เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรมกับผู้ร้องและผู้ถูกร้อง” โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติกล่าว .-312.-สำนักข่าวไทย