“ศิริกัญญา” ยันไม่ได้เป็นศัตรูกองทัพ หนุนซื้อเรือฟริเกต

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.-“ศิริกัญญารองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันไม่ได้เป็นศัตรูกับกองทัพ จ้องตัดงบอย่างเดียว กองทัพเรือมีเหตุผลจำเป็นต้องซื้อเรือฟริเกต ระบุกว่าจะได้ของใหม่มา เหลือลาดตระเวนแค่ 3 ลำจากที่ต้องมี 8 ลำ สงสัย กมธ.ฝ่ายรัฐบาล เร่งตัดงบช่วงท้าย


น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล กรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ยอมรับว่าพรรคก้าวไกลสนับสนุนให้คืนอุทธรณ์งบประมาณการจัดซื้อเรือฟริเกตให้กองทัพเรือ หลังจากที่คณะอนุกรรมาธิการฯ ตัดงบประมาณส่วนนี้ออกไป เพราะหลังจากที่ได้ฟังเหตุผลจากทางกองทัพเรือ ยอมรับว่าเรือฟริเกตมีความจำเป็นขั้นพื้นฐานในการปกป้องน่านน้ำ ซึ่งต้องใช้ถึง 8 ลำ แต่ทุกวันนี้มี 4 ลำ และกำลังจะถูกปลดระวาง 1 ลำ แม้ว่าจะอนุมัติให้จัดซื้องบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ก็น่าจะมีช่วงระยะเวลาที่เราเหลือเรือฟริเกตประจำการเพียง 3 ลำ

“เพราะก่อนหน้านี้กองทัพเรือมัวเสียสมาธิไปกับการขออนุมัติจัดซื้อเรือดำน้ำ ซึ่งเกินความจำเป็นจริง ๆ และฝ่ายค้านก็ต่อสู้มาโดยตลอด ดังนั้น จึงเห็นว่ามีความจำเป็นต้องจัดซื้อเรือฟริเกต ซึ่งมีความจำเป็นมากกว่าเรือดำน้ำมากมาย ความจริงแล้วปีนี้ไม่ได้มีปัญหาว่างบประมาณไม่เพียงพอจัดซื้อ แต่ไม่เข้าใจว่าที่ไม่พอ หมายถึงไม่พอที่จะไปแบ่งกันหรือว่าอย่างไร เพราะฝ่ายค้านไม่ได้เห็นปัญหางบประมาณไม่พอ” รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว


เมื่อถามว่าพบความไม่ชอบมาพากลหรือไม่ น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า มีความพยายามที่รัฐบาลมาเร่งตัดงบประมาณในช่วงท้าย ๆ ของการประชุมอนุกรรมาธิการฯ หลายโครงการ เสมือนตัดผิด ตัดถูกและต้องมาคืนให้ในภายหลังค่อนข้างมาก เช่น โครงการรันเวย์ที่ 2 ของสนามบินอู่ตะเภาของกองทัพเรือ ซึ่งเข้าใจตั้งแต่ต้นว่าโครงการนี้ เป็นโครงการที่จำเป็นต้องกู้เงินจากต่างประเทศ และจำเป็นต้องอนุมัติงบประมาณปี 67 เพื่อให้ผ่านการกู้ ก็มีกรรมาธิการฯ ไปตัดลดโครงการนี้ แต่สุดท้ายก็ต้องขอถอน ไม่ตัด ซึ่งไม่มั่นใจว่ามีเหตุผลอะไรที่มาเร่งตัดในช่วงท้าย หรืออาจจะมีเป้าหมายว่าจะต้องตัดงบประมาณให้ได้ตามเป้าหรือไม่

รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งเหล่านี้ฝ่ายค้านจะได้อภิปรายตั้งข้อสังเกตในช่วงการพิจารณาวาระที่ 2 และ 3 เพราะงบประมาณที่ตัดลดออกมาแม้จะไม่ได้เข้าสู่งบกลาง 100% ทั้ง 9,000 ล้านบาท โดยจะถูกโอนเข้างบกลางประมาณ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งผิดคาดจากที่ได้คาดการเอาไว้ แต่ก็มีรายการอย่างเช่น ค่ารักษาพยาบาลข้าราชการ เบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญ ซึ่ง 2 ก้อนนี้รวมกันประมาณ 7 พันล้านบาท ซึ่งหากอนุมัติเพิ่มให้ในตอนนี้เท่ากับว่าจะมีงบกลางใช้น้อยลงเช่นกัน จึงเป็นข้อสังเกตที่ต้องติดตามต่อถึงวิธีการใช้งบประมาณ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลหรือมีหลักฐานอะไรยืนยันว่ามีความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น

“เราไม่ได้เป็นศัตรูกับกองทัพ ไม่ได้ตะบี้ตะบันที่จะสู้กับเขาเพียงอย่างเดียว อันไหน make sense เราก็อนุมัติค่ะ ซึ่งก็ยังงง ในห้องประชุมงงกันหมดว่าฝ่ายค้านทำตัวเหมือนเป็นรัฐบาล ส่วนรัฐบาลทำตัวเป็นฝ่ายค้าน” น.ส.ศิริกัญญากล่าว.-1-312.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว