กมธ.การทหาร ขน สส. สัมมนาบทบาทกองทัพกับท้องถิ่น

ปทุมธานี 10 มี.ค. – กมธ.การทหาร ขน สส. สัมมนาบทบาทกองทัพกับท้องถิ่น ที่ปทุมธานี “วิโรจน์” ชี้ งบประมาณซื้ออาวุธ บางทีจำเป็น ตั้งข้อสงสัยทำไมเกิดกระแสต้าน เชื่อเพราะไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ขอใช้หน้าที่ กมธ. เป็นตัวประสาน ชมหวาน ทัพเรือ-ทัพอากาศ ให้ความร่วมมืออย่างดี แจงหนุน “เรือฟริเกต” 1.7 หมื่นล้านเพราะเห็นโอกาส บอกเป็นประวัติศาสตร์ชาติไทยต่อเรือรบเอง ผิดหวังพรรค รบ.ไม่เอาด้วย กลับตีเช็กเปล่าเอื้อนายกฯ


10 มี.ค. 2567 ที่ห้องอาหารพริ้มเพลิน จ.ปทุมธานี คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. จัดงานสัมมนาในหัวข้อการใช้พื้นที่ทหาร บทบาทหน้าที่ของทหารกับท้องถิ่นในการพัฒนาประเทศ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนถึงการใช้งบของกองทัพ โดยมี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ในฐานะตัวแทนส่วนท้องถิ่น และ สส.พรรคก้าวไกลร่วมงานด้วย

นายวิโรจน์ กล่าวเปิดงานว่า การใช้งบประมาณจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพส่วนใหญ่บางอย่างมีความจำเป็น ล่าสุดจะจัดซื้อปืนก็มีความจำเป็น แต่พอประชาชนทราบก็เหมือนมีกระแสต้าน ไม่อยากให้ซื้อ อยากให้ปรับลดงบประมาณ


“ผมก็ตั้งคำถามว่าถ้าตำรวจไม่มีปืน แล้วตำรวจจะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร ถูกหรือไม่ เพราะฉะนั้นกลับมาที่กองทัพและทหารก็เหมือนกัน ผมว่าหลายสิ่งหลายอย่างมีความจำเป็นต้องซื้อ แต่ทำไมวันนี้พอจะซื้ออย่างนั้นอย่างนี้ ประชาชนเกิดแรงต้านทันทีเพราะอะไร” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างพลเรือนกับทหารวันนี้มันสั่นคลอน เหมือนคนที่เราไม่ไว้วางใจ อีกฝ่ายหนึ่งก็จะขยับ ประชาชนก็จะมองไม่ดีเอาไว้ก่อน ทำให้การจัดซื้อจัดจ้าง สิ่งที่มีความจำเป็นต่อความมั่นคงและการปฏิบัติหน้าที่ของทหารถูกลดทอนประสิทธิภาพลง ดังนั้น วันนี้ตนว่าบทบาทของ กมธ.การทหารที่สำคัญที่สุดคือการประสานให้ประชาชนกับกองทัพกลับมามีความไว้เนื้อเชื่อใจ และเข้าอกเข้าใจกันในเชิงเหตุผล ตรวจสอบซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคประชาชนตรวจสอบกองทัพอย่างสมเหตุสมผล อย่างมีเนื้อหาสาระ ไม่ได้ตรวจสอบในลักษณะที่มีการอคติหรือเกลียดชัง

ล่าสุดทุกคนตกใจ เพราะเห็นเรือฟรีเกตวงเงิน 1.7 หมื่นล้าน ตกใจว่าทำไม กมธ.การทหารไม่ได้คัดค้าน เราก็คิดว่าถ้ารัฐบาลกับพรรคที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยกมือ เรือฟริเกตก็ต้องผ่าน แต่ปรากฎว่ากองทัพเรือเตรียมเนื้อหาไว้เป็นดิบดี ตัวแทนจากก้าวไกลยกมือให้ผ่าน ขณะที่พรรครัฐบาลตัดงบเรือฟริเกต เชื่อว่าจะนำงบส่วนนี้ไปเข้าสู่งบกลาง ถือเป็นการตีเช็กเปล่าไปให้นายกรัฐมนตรี


นายวิโรจน์ ออกตัวว่า ตนไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ “เดี๋ยวไปหาว่าวิโรจน์กินยาลืมเขย่าขวดแล้วมาเชียร์ให้ซื้อเรือฟริเกต” ถามว่าทำไมถึงสมเหตุสมผล ก็เพราะเรือฟริเกตนี้จะถูกต่อในประเทศไทย น่าจะเป็น ครั้งแรกที่จะมีการต่อเรือรบในประเทศไทย เกิดการจ้างงานมูลค่าหลายพันล้านบาท เป็นการการต่อเรือด้วยมือของเราเองครั้งแรก และจะทำให้ลดต้นทุนในการบำรุงรักษาเวลาของเราในระยะยาว และเรือฟริเกตปัจจุบันนี้เข้าใจว่ามีน้อยมาก

“สาเหตุที่สนับสนุนฟริเกต ไม่ใช่เรือดำน้ำ เพราะ เรือดำน้ำเป็นการเอาเงินประโยชน์ให้เขา โดยที่ไม่ได้ประโยชน์กลับมา รัฐบาลบอกว่ากลัวงบประมาณไม่พอ แต่ปัญหาคือตัดทิ้งแล้วเอาเข้างบกลาง ตกลงแล้วเราจะเชื่อน้ำงิ้วของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้หรือไม่ และเขาจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า พูดแล้วก็ยิ่งแค้น ถ้ามีกระป๋องจะเตะกระป๋องโชว์ ความฝันที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางการต่อเรือจบลงแล้ว แล้วนายกรัฐมนตรีก็เคยพูดว่าการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ไม่เป็นไรมาก ถ้ามีความเชื่อมโยงกับการพัฒนาเศรษฐกิจ

“ของไม่จำเป็น บาทเดียวเราก็ไม่จ่าย แต่ถ้ามันจำเป็นและเกิดประโยชน์ ต่อให้เป็นหมื่นล้าน แสนล้านก็ต้องจ่าย ก็ต้องหามาจ่าย ก็ต้องกู้มาซื้อ กู้มาลงทุน มันไม่เกี่ยวกับเงินมากหรือน้อย มันอยู่ที่จำเป็นและเกิดประโยชน์กับประชาชนหรือไม่ ดังนั้นอย่าไปคิดว่าหมื่นล้าน ทำไมถึงบอกว่าถูก 9-10 ปีก่อน เราซื้อเรือฟริเกต ที่ปัจจุบันได้รับพระราชทานชื่อว่าเรือรบหลวงภูมิพล ในวันนั้นวงเงินที่ซื้อ 1.5 หมื่นล้านบาท ถ้าไปซื้อมาในปัจจุบัน ไม่มีทางซื้อได้ในราคานี้ ยกเว้นต่อเอง” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ประชาชนจะไว้วางใจกองทัพได้ก็ต่อเมื่อมีความโปร่งใส มีการเปิดเผยข้อมูลกับสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ และชี้แจงตอบกลับในลักษณะที่เข้าอกเข้าใจประชาชน แต่ถ้าปิดหูปิดตาประชาชนความไว้เนื้อเชื่อใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร

“วันนี้ต้องขอบคุณอยู่ 2 เหล่าทำคือกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่วันนี้ให้ความร่วมมือกับ กมธ.ดีมาก ส่วน ผบ.ทบ. ก็กำลังสร้างความสัมพันธ์เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น เข้าใจว่าการสื่อสารของกองทัพกับประชาชนบางครั้งมีข้อจำกัดแต่ถ้าสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจแล้วให้ กมธ.ช่วยในการประชาสัมพันธ์บอกเล่าเก้าสิบกับภาคประชาชน ซึ่งเชื่อว่ามันจะมีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่แล้วแต่ถ้ามีการสื่อสารมากขึ้นจะทำให้เกิดการไว้เนื้อเชื่อใจกันมากที่สุด ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วยเห็นดีไปตลอด แต่หมายถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ ระบุว่า ในส่วนที่ดินสนามกอล์ฟของกองทัพอากาศ ตนคิดว่าสิ่งสำคัญที่สุดคือจะโอนให้กับท้องถิ่นหรือไม่ ถ้าโอนให้กับท้องถิ่นได้ ก็จะประเสริฐที่สุด จะเป็นเรื่องดีที่สุด แต่ถ้ากองทัพยังดำเนินการต่อ ต้องชี้แจงให้ได้ว่าจะมีการจัดสรรให้กับนายทหารเท่าไหร่ มีความโปร่งใส มีการจ่ายเงินเข้ารัฐเท่าไหร่ เปิดให้ประชาชนได้เข้าใช้ในอัตราราคาที่เป็นธรรมได้หรือไม่ แต่หากจะดีที่สุดต้องโอนให้กับท้องถิ่นและให้บริหารจัดการเอง

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ตนเต็มใจอย่างยิ่งที่ต้องมาร่วมงาน เพราะถือว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องปทุมธานีทั้งหมด ยืนยันว่าถ้าสมมุติเป็นอย่างที่นายวิโรจน์พูด ก็ถือว่าอยากได้สนามกีฬา และเราก็พร้อม เพราะในปีที่ผ่านมาเราอุดรูรั่วเรื่องทุจริตคอร์รัปชันไว้ ตนอยากเห็นการพัฒนา เชื่อว่าอยู่ที่วิธีการหารือ นอกจากนี้ จังหวัดปทุมธานี ถือว่ายังไม่มีสนามกีฬาที่เป็นของจังหวัด มองว่าชาวปทุมธานีไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน จะได้รับประโยชน์ในส่วนนี้

ตนอยากได้ ทำให้เป็นศูนย์กีฬาที่ออกกำลังกายของพี่น้องประชาชน เป็นปอดของพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนทำไมต้องไปเสี่ยงอุบัติเหตุข้างนอก เช่น การปั่นจักรยาน สิ่งเหล่านี้ตนยืนยันว่า อบจ. พร้อมและตั้งงบประมาณผูกพันไว้รอแล้ว.-312 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]

“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน

กทม. 5 ส.ค.-“เป๊ก ผลิตโชค” ส่อโดนแจ้ง 2 ข้อหา รอผลตรวจเลือด 7 วัน พิสูจน์หาสารเสพติดในร่างกาย พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวานนี้ คนขับรถกระบะได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว โดยให้การว่า ตนกำลังจะขับรถกลับบ้าน เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อยู่ดีๆ “เป๊ก ผลิตโชค” ก็กระโดดขึ้นมาบนฝากระโปรงรถ ตอนนั้นรู้สึกตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมัน ลงมาพูดคุยกับ “เป๊ก” จากนั้น “เป๊ก” ก็เข้ามาสวมกอด ยกมือไหว้ แล้วเบนไปหานายชุติเทพ มีเรื่องทะเลาะวิวาทกัน ตนก็ขึ้นรถแล้วขับออกไป และไม่ทราบว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น จนกระทั่งมาเปิดดูข่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่ปรากฏภาพ “เป๊ก ผลิตโชค” ขึ้นไปเกาะบนหลังคารถ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามาให้ปากคำ ด้าน “เป๊ก ผลิตโชค” ยังไม่ได้เริ่มสอบปากคำ เพราะยังอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ยินดีที่จะเข้าไปสอบปากคำที่โรงพยาบาล ถ้าหากแพทย์อนุญาต หรือ “เป๊ก ผลิตโชค” […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย