ปชป.ย้ำจุดยืนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องไม่มีคดีทุจริต-คดี ม.112

พรรคประชาธิปัตย์ 9 มี.ค. – “ประชาธิปัตย์” ย้ำจุดยืนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ต้องไม่มีคดีทุจริต และคดี ม.112 เหตุคดีเหล่านี้ไม่เกี่ยวแรงจูงใจทางการเมือง กังวลอาจนำคดีจำนำข้าวพิจารณาด้วย วอนอย่าใช้ “ทักษิณโมเดล” นำ “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน หวั่นประชาชนลุกฮือ


วันนี้ (9 มี.ค.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวถึงกรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า จะมีนิรโทษกรรมโดยการนับเวลาจากช่วงเหตุการณ์ โดยเริ่มนับจากวันที่ 1 มกราคม 2548 และจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อจะเก็บสถิติคดีที่เกิดขึ้นที่เกี่ยวกับแรงจูงใจทางการเมือง เพื่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งในชั้นตำรวจ คดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลยุติธรรม และองค์กรอื่น และในส่วนของมาตรา 112 นั้นยังไม่มีความชัดเจนของคณะกรรมการชุดดังกล่าว

ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องการนับช่วงเวลาของกรรมาธิการ แต่สิ่งที่จะเป็นปัญหาคือความไม่ชัดเจนของกรรมาธิการในเรื่องคดีทุจริต ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญจะยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา แล้วจะพิจารณาไปในแนวทางใด ตนไม่ได้ก้าวล่วงแต่มีความเป็นห่วง แต่ถ้ารวมคดีทุจริตไปด้วย พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยแน่นอน เพราะที่ผ่านมาองคาพยพของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยมีความพยายามที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมคดีทุจริต ทั้งที่ศาลตัดสินไปแล้ว และคดีที่ยังไม่แล้วเสร็จ อาจจะทำให้หลุดไปด้วย รวมถึงคดี ม.112 พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าไม่ควรที่จะมีการนิรโทษกรรม เพราะทั้งคดีทุจริตและคดี ม.112 ไม่ได้มีเหตุแรงจูงใจจากทางการเมืองที่จะต้องให้เกิดการกระทำความผิดในเรื่องดังกล่าว


ฉะนั้น 2 เรื่องนี้เป็น 2 เรื่องที่สำคัญที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ติดตามและแสดงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยถ้าจะมีการนิรโทษกรรมในคดีทุจริตและคดีที่เกี่ยวข้องกับ ม.112 ส่วนคดีอื่นๆ คณะกรรมาธิการจะพิจารณาก็ต้องติดตามดูว่ามีองค์ความผิด ฐานความผิดใดบ้างที่จะหยิบยกขึ้นมาพิจาณา ซึ่งทำถูกต้องแล้วที่ไม่เอาตัวบุคคลเป็นที่ตั้ง

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการนิรโทษกรรมจากกฎหมายดังกล่าว นายราเมศ ยอมรับว่ากังวล เพราะในกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ผ่านมามีการให้สัมภาษณ์ของบุคคลในรัฐบาลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกกลั่นแกล้งทางการเมืองจนเกิดเป็นคดีทุจริตรับจำนำข้าว ซึ่งนี่เป็นอีกกรณีหนึ่งที่เขาอ้างว่าตั้งต้นมาจากปฏิวัติรัฐประหาร แล้วนำมาสู่การดำเนินคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ความเป็นจริงแล้วในส่วนของคดีจำนำข้าว เกิดขึ้นด้วยระบอบประชาธิปไตย ตรวจสอบภายใต้ฝ่ายนิติบัญญัติที่ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วได้มีการยื่นเพื่อดำเนินคดีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะนั้น และไม่ได้เป็นกระบวนการที่เกิดจากการกลั่นแกล้ง ซึ่งท้ายที่สุดคดีก็ขึ้นสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็หนีคดี หนีออกนอกประเทศ

“ถามว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ก็ต้องกลับไปอ่านมาตรา 157 การที่มีความผิดก็ต้องตั้งต้นมาจากเจตนาว่ามีความผิดแสวงหาผลประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อตนเองหรือผู้อื่นคำพิพากษาศาลฎีการะบุไว้ชัดเจน เชื่อว่าคณะกรรมาธิการจะมีการนำคดีทุจริตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาพิจารณาด้วย” นายราเมศ กล่าว


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอ้างว่ายึดหลักยุติธรรม หลักกฎหมาย ในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ขณะนี้แนวทางของรัฐบาลทำตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง หลักนิติธรรมที่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันรัฐบาลนี้เหยียบย่ำคำว่าหลักนิติธรรมไม่มีชิ้นดี วันที่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา รัฐบาลแถลงเรื่องยึดหลักนิติธรรมไว้เป็นประเด็นแรกๆ แต่กลับทำตรงกันข้ามกันโดยสิ้นเชิง

นายราเมศ ยังกล่าวถึงกรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีข่าวว่าจะเดินทางเข้าประเทศ ว่าไม่มีใครห้าม น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นคนไทย สามารถกลับเข้าสู่ประเทศได้ แต่เมื่อกลับเข้าสู่ประเทศแล้วก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ว่าจะคดีที่เป็นมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องจับตาดูว่าจะใช้กรณีทักษิณโมเดลหรือโล่ทักษิณ เป็นแนวทางในการที่จะทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหลักการหรือไม่

เบื้องต้นคิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เมื่อเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว กรมราชทัณฑ์ก็เป็นหน่วยงานหลัก ส่วนจะใช้ระเบียบตัวใด ตนคิดว่าไม่อยากให้ใช้ระเบียบคุมขังนอกเรือนจำ ซึ่งเป็นระเบียบใหม่ กับกรณีต่างๆ เหล่านั้น ซึ่งพรรคจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะไม่แน่ใจว่าจะใช้กระบวนการใด หากใช้ทักษิณโมเดลอีกตนเชื่อว่าความขัดแย้งในบ้านเมืองจะมากขึ้นพี่น้องประชาชนที่ไม่เห็นด้วยก็จะมากขึ้น.-314-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย