ระเบียบราชทัณฑ์ “ ทักษิณ” กลับเชียงใหม่ได้

ทำเนียบ 8 มี.ค.-“สมศักดิ์” ชี้ “ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ทำได้ตามระเบียบราชทัณฑ์ ยังไม่มีกำหนดรวมกลุ่มสส.เข้าพบ บอกขอไปแล้วแต่ยังไม่มีสัญญาณตอบรับ


นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปทำบุญเคารพสถูปบรรจุอัฐิบรรพบุรุษตระกูลชินวัตรที่จังหวัดเชียงใหม่วันที่ 14-16 มี.ค.นี้ ระหว่างถูกพักโทษ ว่า ขั้นตอนการถูกพักโทษ ถ้าไม่นอนที่บ้านพักที่แจ้งไว้กับกรมคุมประพฤติ ต้องขออนุญาตว่าจะเดินทางไปไหนอย่างไร ถ้าไม่ได้ออกนอกประเทศ สามารถขออนุญาตได้ โดยกำหนดกรอบระยะเวลา และถ้าร่างกายยังไม่แข็งแรงดี ต้องมีแพทย์หรือพยาบาลไปด้วย การขอเดินทางออกนอกสถานที่ต้องมีรายละเอียดชัดเจน เหมือนเราเป็นนักเรียน จะลาโรงเรียนกี่วันก็แล้วแต่ ส่วนกรมคุมประพฤติมีหน้าที่ดูตามความเหมาะสม

ส่วนจะมีใครไปพบหรือขอสัมภาษณ์นายทักษิณทำได้หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  เงื่อนไขกรมคุมประพฤติเขียนไว้อย่างไรสามารถทำได้ ขั้นตอนการพักโทษแบ่งเป็นประเภทคดีความต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน บางคนต้องถูกจองจำถึง 2 ใน 3 หรือ 1 ใน 3 ซึ่งแล้วแต่ประเภทของโทษ และการพักโทษอดีตผู้ต้องขังบางครั้งที่ไม่มีงานทำหรือครอบครัวรับรองหรือไม่ ถ้าครอบครัวไม่รับรองก็จะไม่ได้เข้าบ้าน จึงให้ไปอยู่ในนิคมต่างๆ


“รัฐบาลที่แล้สร้างนิคม แต่ยังไม่เสร็จ ถ้าเสร็จจะรองรับได้ 20,000-30,000 คน บางจังหวัดที่มีความต้องการหรือยอมรับผู้ต้องขังได้ จะช่วยแก้ปัญหาในภาพรวม ซึ่งโทษที่ติดคุกส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องยาเสพติด 80% ผู้ต้องขังประมาณ 300,000 คน เป็นผู้ต้องหายาเสพติดราว 240,000 คน ซึ่งการพักโทษมีหลายลักษณะ ถ้าเป็นคดีที่เกี่ยวกับจี้ ปล้น ฆ่า ข่มขืน จะมีกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำรวมถึงจะต้องมีวอชลิสต์อีก 7-8 ปี แล้วแต่ประเภท

“การไปจังหวัดเชียงใหม่ของนายทักษิณ จะเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือมีนัยสำคัญกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ก็แล้วแต่คนถามและสังคมจะคิด แต่ท่านไม่ได้อยู่ประเทศไทย 17 ปีก็เป็นเรื่องที่คนคิดถึง และท่านก็คงคิดถึงลูกหลาน เท่าที่จำได้ท่านมีบรรพบุรุษที่จะต้องไปกราบไหว้เป็นประจำ ที่จำได้เพราะผมเคยไป ส่วนจะให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองได้หรือไม่ ไม่ทราบเงื่อนไขของกรมคุมประพฤติ ซึ่งกรณีนายทักษิณไม่แตกต่างจากนักโทษคนอื่น เป็นปกติของการพักโทษ เพียงแต่คนอื่นไม่มีสื่อมวลชนไปตาม ถือเป็นกรณีศึกษาอย่างดี สำหรับญาติพี่น้องผู้ต้องขังคนอื่นที่จะได้เรียนรู้ประกาศหรือกฎระเบียบกรมราชทัณฑ์ไปพร้อมกัน” นายสมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ที่ฝ่ายตรงข้ามหรือกลุ่มเห็นต่าง จะนำประเด็นนี้มาโจมตี เพราะเกี่ยวกับรัฐบาลด้วย นายสมศักดิ์ เชื่อว่าจะตอบคำถามได้ ก็คงไม่น่าเป็นห่วงอะไร


เมื่อถามย้ำว่าจะมี สส.พรรคเพื่อไทยไปพบนายทักษิณด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีนัดหมายอะไร และว่า “ผมก็ยังไม่ได้พบนายทักษิณ อยากไปพบ แต่ท่านยังไม่ให้พบ” เมื่อถามย้ำว่ามีโอกาสไปพบที่จังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ นายสมศักดิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า คงไม่มีโอกาส

ส่วนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นปีใหม่ไทยจะมีโอกาสไปรดน้ำขอพรนายทักษิณหรือไม่นั้น นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยเสียงอ่อยๆ ว่า “ก็คงต้องขอไป ไม่รู้จะให้ไปหรือเปล่า” ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าขอไปแล้ว แต่ท่านยังไม่ตอบรับใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ ตอบกลับว่า “ยังไม่ตอบรับ”

เมื่อถามถึงข้อสังเกตนายทักษิณป่วย แต่ไปจังหวัดที่มีค่าฝุ่นสูง อาจจะกระทบต่อสุขภาพ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า บางครั้งคนเราถ้ายังขยับตัวได้อยู่ ก็คิดถึงบ้านเรือนที่เคยอยู่อาศัยเหมือนพวกเรา อย่างตนออกมาจากจังหวัดสุโขทัยเป็นเดือนแล้วยังไม่ได้กลับ ก็ต้องกลับไปนอนคืนหนึ่ง กลับมากรุงเทพฯ ไม่อย่างนั้นนอนไม่หลับก็เริ่มจะป่วยถ้าไม่ได้เห็น  ใครก็แล้วแต่ ถ้ามีภูมิลำเนาที่ไหนก็ต้องกลับไปหาญาติพี่น้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองอาวุโส ควรก้าวข้ามประเด็นนายทักษิณให้เป็นเรื่องธรรมดาหรือไม่ นายสมศักดิ์ ร้อง “โอ้ย อย่าไปขอร้อง ใครเขาจะมองอย่างไร ก็มองไปเถอะ ตอบคำถามได้ก็ชี้แจงกันไป แบ่งความรู้ให้รู้กันทั่วไป ไม่ต้องไปห่วงใครต่อใคร เป็นสิทธิของแต่ละคน อยากจะมอง พูด คิด อย่างไรที่จะไม่ได้ละเมิดสิทธิคนอื่นก็ว่าไป เรามีหน้าที่ตอบก็ตอบไป สนุกดี

ส่วนจะเป็นการตอกย้ำหรือไม่ว่ารัฐบาลมีนายกรัฐมนตรี 2 คน นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่จะคิด แต่เราก็ไม่รู้ว่าศูนย์กลางอยู่ตรงไหนอะไรอย่างไร แต่วันนี้มีนายกรัฐมนตรีที่มีกฎหมายเป็นเครื่องมือทำงานอยู่ สั่งการดำเนินการ คนอื่นไม่มีเครื่องมือบริหารทำงานต่าง ๆ จะห้ามไม่ให้คนอื่นคิดหรือห้ามคนอื่นพูดคงไม่ได้ มันเป็นเรื่องของการเมือง ทำจิตทำใจไว้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าประเด็นนายทักษิณ ฝ่ายค้านจะหยิบไปอภิปรายทั่วไปด้วย นายสมศักดิ์ ตอบว่า “ขอบคุณที่บอกให้ทราบ”.-316.-สำนักข่าวไทย   

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี

ตัดไฟ 5 จุดชายแดนเมียนมา วันแรก กระทบชาวบ้านหลายหมื่นคน

หลังทางการไทยตัดไฟฟ้าที่เชื่อมโยงไปยังเมืองเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ส่งผลชาวบ้านแห่กักตุนน้ำมัน โรงพยาบาลเมียวดีได้รับผลกระทบในการเก็บเวชภัณฑ์ที่ต้องใช้ตู้แช่

ตร.ปัตตานีเร่งล่า 6 คนร้ายควงปืนปล้นร้านสะดวกซื้อ

อุกอาจ 6 คนร้าย พร้อมอาวุธมีด-ปืน ยกพวกปล้นร้านสะดวกซื้อใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินไป 4,492 บาท ตำรวจเร่งไล่กล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว