ปชป.พร้อมเปิดศึกซักฟอก จี้นายกฯ ตอบกระทู้เอง

รัฐสภา 7 มี.ค.-“จุรินทร์” ยัน ปชป.พร้อมเปิดศึกซักฟอก มั่นใจฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้ดี ชี้แตะ “ทักษิณ” ได้ จี้ นายกฯ มาตอบกระทู้เอง

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ว่า พรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด แต่มีความพร้อม เพราะแต่ละคนได้ติดตามการทำงานของรัฐบาลมาตลอด และถือเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาล ซึ่งการเปิดอภิปรายมาตรา 152 ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของญัตติที่เกี่ยวกับการเสนอปัญหา เพื่อให้รัฐบาลชี้แจงว่าจะแก้ไขอย่างไร มั่นใจว่าภาพรวมจะเป็นประโยชน์ และช่วยขันน็อต ในประเด็นที่รัฐบาลยังทำงานบกพร่อง เชื่อว่า ฝ่ายค้านสามารถสะท้อนปัญหาได้ดี


ส่วนหัวข้อในการอภิปรายนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ยังไม่มีการคุยกันลึก แต่ในการอภิปรายก็สามารถพูดคุยได้ทุกประเด็นที่เป็นปัญหาของประเทศ และเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่มีข้อจำกัด

ส่วนจะมีเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตรหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากมีผู้พูดขึ้น ก็สามารถพูดถึงได้ เพราะเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ความไม่ยุติธรรมสองมาตรฐานเกิดขึ้น เพราะรัฐบาล หากไม่รู้เห็นเป็นใจเรื่องดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้น


เมื่อถามว่า การอภิปรายแบบลงมติ จะมีน้ำหนักกว่าการอภิปรายแบบไม่ลงมติหรือไม่ นายจุรินทร์ ระบุว่า ขึ้นอยู่กับญัตติ แต่ส่วนใหญ่การอภิปรายไม่ไว้วางใจพูดถึงเรื่องทุจริต ผิดกฎหมาย รวมถึงการไร้ประสิทธิภาพในบริหาร ซึ่งไม่ได้แปลว่าการอภิปรายมาตรา 152 จะหยิบเรื่องนี้มาพูดไม่ได้ ดังนั้น ไม่ต้องกังวล เชื่อว่าฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้

“ตนขอไม่ประเมินการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่มั่นใจว่าเราทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาการตรวจสอบรัฐบาลก็ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า ไม่ใช่การติ เป็นเพียงการทำหน้าที่ และเมื่อดูจากผลสำรวจประชาชนก็พอใจในการทำงานของฝ่ายค้านอยู่แล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว

สำหรับกรณีที่สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีไม่เข้ามาตอบกระทู้ที่สภาฯ เท่าที่ควรนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า สัปดาห์นี้ก็ต้องติดตามต่อไป ตนคิดว่า เป็นหน้าที่ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง  ทั้งนี้ นายกฯ กำชับอย่างเดียวไม่พอ แต่ต้องมาตอบกระทู้ด้วยตัวเองด้วยเช่นกัน.-312.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]