รัฐสภา 5 มี.ค.- “ครูธัญ” วอนทุกฝ่ายแยกแยะเหตุการณ์ สาวประเภทสองทวงคืนศักดิ์ศรี ชี้ เป็นเสียงกรีดร้องของความไม่เป็นธรรม แนะ คนเสพสื่อมีสติ ขอรัฐแก้ปัญหาโครงสร้าง-กม.ค้าบริการให้ทุกอาชีพได้รับการคุ้มครอง
นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ หรือ ครูธัญ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงศึกวันเทยไทย ที่สาวประเภทสองไทยรวมตัวไม่ได้นัดหมาย ภายในซอยสุขุมวิท 11/1 ทวงคืนศักดิ์ศรี สางแค้น หลังถูกสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ รุมทำร้าย ว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องแยกเป็นหลายๆ เรื่อง โดยเรื่องแรกมีการตอบโต้มีวิวาทะ มีการโพสต์และมีการพูดถึงความเป็นชาติ ดังนั้นเวลาที่ ใช้คำว่า ชาติไทย ชาติฟิลิปปินส์ จึงไปกระตุ้นความเป็นชาตินิยมขึ้นมา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ กลุ่มดังกล่าวไม่ได้เป็นตัวแทนของสาวประเภทสองฟิลิปปินส์ทั้งหมด ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มคนที่เป็นฟิลิปปินส์ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า กลุ่มสาวประเภทสองดังกล่าวได้ยกลักษณะที่เหยียดคนไทย หรือ จากคำบอกเล่าในข่าวว่า มีการใส่ร้ายกะเทยไทย ในเรื่องของการขโมยของ และเรื่องอื่นๆ ซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ก็เหมือนกับเป็นการโพสต์ที่เรียกแขก และที่สำคัญกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ โดยเฉพาะคนข้ามเพศ อยู่ในสถานะที่สังคมไม่ค่อยได้ให้โอกาสในพื้นที่ หรือยอมรับ จึงเป็นเหมือนกับปัจจัยที่กดดันหลายๆ อย่าง เสมือนหลังชนฝา จึงเป็นเรื่องที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรม
ส่วนที่เริ่มมีการตอบโต้ผ่านสังคมออนไลน์กันมากขึ้นนั้น นายธัญวัจน์ กล่าวว่าอยากให้ทุกคนที่เสพสื่อมีสติว่า ความจริงแล้วเป็นเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่ใช้วิวาทะตอบโต้ หรือใช้การเหยียดคนไทย จึงอยากให้แยกแยะ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล ซึ่งคิดว่าต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจ
“ที่สำคัญจะต้องร่วมกันหาทางออก เพราะความจริงแล้วปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะว่ามีเรื่องของการกดทับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสาวประเภทสอง หรืออาชีพบริการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นที่สีเทาที่มีระบบมาเฟียดูแล ทำให้กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพตรงนี้ไม่มีที่ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม จนมีคำพูดว่าตรงนี้เป็นศาลเตี้ยหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมกดทับคนเหล่านี้และพวกเราต้องมองเห็นว่า พวกเขาต้องการอะไรและเราต้องแก้ปัญหาโครงสร้างและแก้ไขปัญหาทางกฎหมาย เพื่อให้ทุกอาชีพได้รับการคุ้มครอง” นายธัญวัจน์ กล่าว
นายธัญวัจน์ กล่าวว่า ขณะนี้พรรคก้าวไกล ได้ยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับการค้าบริการทางเพศแล้ว และขณะนี้ มีกลุ่มมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการสวิง (Service Workers in Group Foundation)มีข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการยกเลิกและปราบปรามการค้าประเวณี ซึ่งได้มีการยื่นข้อเสนอให้กับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปเรียบร้อยแล้ว พรรคก้าวไกลก็จับตาและหากมีการเสนอกฎหมายตรงนี้ ก็พร้อมที่จะเสนอกฎหมายประกบ ขณะที่มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ ซึ่งทำงานร่วมกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก็บอกว่าจะต้องมีกฎหมายคุ้มครองเกี่ยวกับพนักงานบริการ ดังนั้น จึงคิดว่ารัฐมีหน้าที่สำคัญที่จะต้องให้ 2 กลุ่มมาพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด และผลักดันกฏหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นส่งผลต่อภาพพจน์ของคนข้ามเพศหรือไม่นั้น นายธัญวัจน์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นขึ้นอยู่กับคนตีความ ซึ่งในส่วนของตน มองว่าเป็นการต่อสู้และเป็นเสียงกรีดร้องของความไม่เป็นธรรม และเห็นว่าภาพที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ทุกฝ่ายควรมองภายใต้เสียงร้องและความโกรธเกรี้ยว ว่าได้มีการปกป้องดูแลคนเหล่านั้น ในฐานะที่รัฐให้สิทธิ์คนเหล่านั้นแค่ไหน ปล่อยให้ไปอยู่ใต้ระบบมาเฟีย ถูกเอาเปรียบในทุกทางและไม่สามารถแจ้งความตำรวจได้ เพราะผิดกฎหมาย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเสมือนภูเขาน้ำแข็งมากกว่า จึงเห็นว่าอยากให้ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหา
ส่วนที่มองว่าเป็นเรื่องของการเสียภาพพจน์และเสียโอกาสการจัดงานไพรด์หรือไม่นั้น มองว่า สิ่งนี้เป็นภาพของการต่อสู้ และคิดว่างานไพรด์เป็นภาพของคนที่ไม่ได้สิทธิ์ และไม่ได้รับความเป็นธรรม ลุกขึ้นมาเดินเพื่อที่จะ ให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม และเห็นว่าเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องหยิบประเด็นเหล่านี้ขึ้นมาแก้ไข และเห็นว่าการที่มีสาวประเภทสอง ที่ลุกขึ้นมาบอกว่าตัวเองเสียประโยชน์ และไม่ได้รับสิทธิ์เท่าเทียมถือเป็นเรื่องที่ดี.-312.-สำนักข่าวไทย