ปลัด มท. เผยประชาชนพอใจภาพรวมลงทะเบียนหนี้นอกระบบ

2 มี.ค. – ปลัดมหาดไทย เผยประชาชนพึงพอใจภาพรวมการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ พร้อมเน้นย้ำ แม้การรับลงทะเบียนจะสิ้นสุดแล้ว แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สำเร็จ กำชับทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต่อไป


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการรับลงทะเบียนประชาชนที่มีความประสงค์ขอให้ทางราชการได้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียน จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนในช่วงเวลา 23.59 น. มีประชาชนลงทะเบียนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรวมทั้งสิ้นจำนวน 153,400 ราย แบ่งเป็นลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 125,787 ราย ลงทะเบียน ณ หน่วยรับลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต จำนวน 27,613 ราย มูลหนี้รวม 11,999.44 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้ จำนวน 126,798 ราย ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นประชาชนพบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจภาพรวมของการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ และเป็นนโยบายที่ประชาชนมีความพึงพอใจเป็นลำดับต้น ๆ ในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวว่า ในวันนี้ แม้ว่าการรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สำเร็จ กระทรวงมหาดไทยยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยกลไกของคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานี้นอกระบบระดับจังหวัด ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการระดับอำเภอ ภายใต้การนำของท่านนายอำเภอ พุ่งเป้าบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 18,929 ราย มูลหนี้ลดลง 777.52 ล้านบาท และมีกรณีที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ประสงค์ดำเนินคดี 317 คดี พร้อมทั้งประสานสถาบันการเงินของรัฐ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำเงินไปชำระเจ้าหนี้ แล้วมาเป็นลูกหนี้ในระบบที่สามารถชำระดอกเบี้ยไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยจากข้อมูลที่ได้รับรายงานในขณะนี้ ธนาคารของรัฐยังสามารถปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยทีมงานกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ยังคงเป็นกลไกในการประสานให้ลูกหนี้ได้รับบริการจากทางธนาคาร แต่การจะได้รับพิจารณาให้สินเชื่อหรือไม่นั้นเป็นอำนาจของทางสถาบันการเงินเป็นผู้พิจารณา


“แต่กระนั้น กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เราจะต้องแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหามิติยาไทย ด้วยการทำให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตด้วยหลักการพึ่งพาตนเอง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานแนวพระดำริ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ให้กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำไปขยายผลให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมกับพี่น้องประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบก็เป็นสมาชิกของหมู่บ้าน/ชุมชนที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทั้งการส่งเสริมการน้อมนำพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” การเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา ไว้บริโภค ซึ่งจะทำให้สามารถลดรายจ่ายครัวเรือน มีอาหารที่สะอาด ปลอดสารเคมี และยังสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ได้อีกด้วย รวมไปถึงการหนุนเสริมระบบคุ้มบ้าน กลุ่มบ้าน โดยรวมครัวเรือนประมาณ 10-15 ครัวเรือน เป็น 1 กลุ่มบ้าน มีโครงสร้างการดูแลกันและกัน เช่น หัวหน้ากลุ่มบ้าน กรรมการกลุ่มบ้าน เพื่อจะได้ช่วยกันดูแลสมาชิกที่อาจต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาในการใช้ชีวิต และส่งเสริมให้มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้รับรู้รายรับและรายจ่าย กระตุ้น ให้เกิดความประหยัด ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต พร้อมทั้งกระตุ้นหนุนเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มจิตอาสาในการดูแลครอบครัวชุมชน การรักษาความปลอดภัย การรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดตั้งธนาคารขยะ ซึ่งสามารถนำรายได้เข้าสู่ชุมชน เข้าสู่ครัวเรือนได้ โดยมีทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำของท่านนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ข้าราชการประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการหมู่บ้าน และทีมงานอาสาสมัครในพื้นที่ เป็นกลไกของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลให้เกิดสิ่งดี ๆ เหล่านี้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย หรือ Partnership ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 17 ด้วยการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่ม OTOP และภาคีเครือข่ายภาคเอกชนอื่น ๆ ร่วมกันสำรวจความต้องการของลูกหนี้นอกระบบที่จะขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐหรือกลุ่มเครือข่าย เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะ ประสบการณ์ ในการประกอบอาชีพ เช่น การทำอาหาร การทอผ้า การย้อมผ้า การรังสรรค์งานหัตถกรรม งานฝีมือต่าง ๆ การเกษตร ปลูกผลไม้ พืชสมุนไพร ตลอดจนถึงการประกอบอาชีพในครัวเรือน ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำมาหาเลี้ยงชีพ รวมถึงภาคีเครือข่ายภาคผู้นำศาสนา อาทิ คณะสงฆ์ ที่เป็นแหล่งรวมสรรพวิชาในการดำรงชีวิต ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงในการร่วมเป็นภาคีเครือข่ายดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทย เช่น หลักสูตรนวดแผนไทยของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ที่สามารถสมัครเข้ารับการฝึกอบรมทั้งหลักสูตรระยะสั้น และระยะยาว และโครงการฝึกอาชีพของวัดต่าง ๆ ในหลาย ๆ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อใช้ในการหาเลี้ยงชีพได้ เป็นต้น

“สิ่งสำคัญเหล่านี้จะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับ “ผู้นำ” ซึ่งคนมหาดไทยถูกคาดหวังจากสังคมไทยและได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลทุกยุคในการเป็นผู้นำการแก้ไขปัญหาและบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กลไกกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ยังคงเดินหน้าทุกกระบวนการที่จะหนุนเสริมทำให้พี่น้องประชาชนได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ได้ใช้กลไกเหล่านี้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามแนวทางที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน แม้ว่าการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะสิ้นสุดลง แต่หากพี่น้องประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว และทุกปัญหาที่ประสบและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะเดินทางไปขอรับคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และประสานการปฏิบัติ บูรณาการทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือในทุกเรื่อง เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย .-317-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“แพทองธาร” ยินดีมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027

กระทรวงวัฒนธรรม 16 ก.ค.- “แพทองธาร” ยินดีความสำเร็จมวยไทยบรรจุในกีฬาทหารโลก 2027 อย่างเป็นทางการ ชี้ เป็นผลลัพธ์การทำงานอย่างมุ่งมั่นของคกก.ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา-กองทัพไทย-สมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ผลักดันสู่เวทีกีฬาสากล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่ายกระดับมวยไทยสู่เวทีโลกอีกขั้น ดิฉันขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง กับความสำเร็จล่าสุดของประเทศไทย — #มวยไทย ได้รับการบรรจุเป็นหนึ่งในชนิดกีฬาของการแข่งขัน CISM World Summer Games 2027 (กีฬาทหารโลก 2027) อย่างเป็นทางการแล้วค่ะ การแข่งขันกีฬาทหารโลก จัดโดย สภากีฬาทหารระหว่างประเทศ เป็นมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ปัจจุบันมีประเทศในสมาชิก 141 ถือเป็นเวทีสำคัญที่ทั่วโลกให้การยอมรับ ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 1st CISM Military Muaythai Challenge เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกของการเปิดเวทีระหว่างประเทศให้มวยไทยเข้าสู่การแข่งขันของกองทัพนานาชาติ การบรรจุมวยไทยในกีฬาทหารโลกครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของประเทศไทย และเป็นผลลัพธ์จากการทำงานอย่างมุ่งมั่นของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power ด้านกีฬา ร่วมกับกองทัพไทย และสมาคมส่งเสริมกีฬาทหาร (ประเทศไทย) ที่ผลักดันให้ “มวยไทย” […]

นักท่องเที่ยวคึกคัก “ตาเมือนธม” ปรับลดกำลังฝั่งละ 3 นาย

สุรินทร์ 16 ก.ค. – แม้เพิ่งผ่านเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ จนนักท่องเที่ยวต้องวิ่งหลบเข้าบังเกอร์เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ แต่วันนี้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและกัมพูชายังคงเข้าไปเที่ยวคึกคัก ล่าสุดมีการปรับลดกำลังบนตัวปราสาทฝั่งละ 3 นาย ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ คึกคัก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยากมาให้กำลังใจทหารที่ทำหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติอย่างแข็งขัน หลังวานนี้ (15 ก.ค.) เกิดเหตุป่วนปราสาทตาเมือนธม ล่าสุดมีการปรับลดกำลังของแต่ละฝ่ายบนตัวปราสาท ฝั่งละ 3 นาย บรรยากาศปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นักท่องเที่ยวทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่เช้าก่อนเวลาเปิด ทั้งรถส่วนตัว รถทัวร์ รถตู้โดยสาร โดยรถทัวร์ 2 คัน ผู้โดยสาร 150 คน มาจากเทศบาลตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี นำสิ่งของมาบริจาคบำรุงขวัญทหาร ตำรวจแนวหน้า ขณะที่กลุ่มคนสวมเสื้อสกรีนข้อความ “รักเธอประเทศไทย” เป็นกลุ่มคุณเจน ญาณปรีดส์ ราว 40 คน เดินทางด้วยรถตู้ 4 คัน มาจากกรุงเทพฯ นอกจากมอบสิ่งของบริจาคเพื่อทหารทุกนายแล้ว ยังมอบเงินพิเศษให้ทหาร 2 […]

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“ภูมิธรรม” ขออดทนอดกลั้นเหตุกัมพูชายั่วยุ อย่าฟัง “ฮุนเซน”

บน.6 ดอนเมือง 16 ก.ค.- “ภูมิธรรม” ลั่นรัฐบาลไม่พอใจกัมพูชามากอยู่แล้ว ขอประชาชน-ทหาร อดทนเหตุยั่วยุต่างๆ อย่าฟัง “ฮุนเซน” แค่ “พ่อนายกฯ เขมร” อยากแก้ปัญหา แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุความวุ่นวายที่ประสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ วานนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิด ซึ่งทราบว่ามีการยั่วยุ โดยพยายามสั่งให้เจ้าหน้าที่ไทยระมัดระวังและอดทนอดกลั้นให้มากที่สุด รวมถึงพยายามป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ต้องคอยระวัง เพราะกัมพูชาจะใช้กลยุทธ์วิธีแบบนี้ในการทำให้เกิดการประทะกัน เกิดความรุนแรง ซึ่งจะถูกนำไปใช้ในเรื่องระหว่างประเทศได้ กำลังพลของไทยส่วนใหญ่เข้าใจ ยืนยันว่าจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ใช้กำลังแก้ปัญหา และไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าเราทำให้เกิดความรุนแรง เพื่อจะเอาพื้นที่กลับมา สำหรับปราสาทตาเมือนธม ก็มีมาตรการในการป้องปรามอยู่แล้ว เปิดบางส่วนปิดบางส่วน ก็ต้องดูเป็นพื้นที่ และเป็นอำนาจในการควบคุมดูแลของแม่ทัพภาคที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลจะมีเหตุซ้ำรอยหรือไม่ เพราะกัมพูชายั่วยุมา ส่วนฝ่ายไทยก็มีอดีตทหารพรานไปชกหน้าทหารกัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพยายามอย่าปลุกความเกลียดชัง สิ่งที่เราห่วงใยคือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไปถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชนชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี “รัฐบาลไม่พอใจกัมพูชาอย่างมากอยู่แล้ว และในแง่การดำเนินการทางการทูต รัฐมนตรีต่างประเทศก็ได้ดำเนินการแต่ละขั้นตอน […]