ปลัด มท. เผยประชาชนพอใจภาพรวมลงทะเบียนหนี้นอกระบบ

2 มี.ค. – ปลัดมหาดไทย เผยประชาชนพึงพอใจภาพรวมการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ พร้อมเน้นย้ำ แม้การรับลงทะเบียนจะสิ้นสุดแล้ว แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สำเร็จ กำชับทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบต่อไป


นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการรับลงทะเบียนประชาชนที่มีความประสงค์ขอให้ทางราชการได้ช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดรับลงทะเบียน จนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการเปิดรับลงทะเบียนในช่วงเวลา 23.59 น. มีประชาชนลงทะเบียนลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบรวมทั้งสิ้นจำนวน 153,400 ราย แบ่งเป็นลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ จำนวน 125,787 ราย ลงทะเบียน ณ หน่วยรับลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานเขต จำนวน 27,613 ราย มูลหนี้รวม 11,999.44 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้ จำนวน 126,798 ราย ซึ่งจากการรับฟังความคิดเห็นประชาชนพบว่า ประชาชนมีความพึงพอใจภาพรวมของการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ และเป็นนโยบายที่ประชาชนมีความพึงพอใจเป็นลำดับต้น ๆ ในการแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวว่า ในวันนี้ แม้ว่าการรับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบยังไม่สำเร็จ กระทรวงมหาดไทยยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยกลไกของคณะกรรมการอำนวยการแก้ไขปัญหานี้นอกระบบระดับจังหวัด ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และคณะกรรมการระดับอำเภอ ภายใต้การนำของท่านนายอำเภอ พุ่งเป้าบริหารจัดการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ทั้งการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ ซึ่งขณะนี้สามารถไกล่เกลี่ยสำเร็จ 18,929 ราย มูลหนี้ลดลง 777.52 ล้านบาท และมีกรณีที่ไม่สามารถไกล่เกลี่ยได้ประสงค์ดำเนินคดี 317 คดี พร้อมทั้งประสานสถาบันการเงินของรัฐ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อให้ลูกหนี้สามารถนำเงินไปชำระเจ้าหนี้ แล้วมาเป็นลูกหนี้ในระบบที่สามารถชำระดอกเบี้ยไม่เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยจากข้อมูลที่ได้รับรายงานในขณะนี้ ธนาคารของรัฐยังสามารถปล่อยกู้ให้กับลูกหนี้ได้อีกจำนวนหนึ่ง โดยทีมงานกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ยังคงเป็นกลไกในการประสานให้ลูกหนี้ได้รับบริการจากทางธนาคาร แต่การจะได้รับพิจารณาให้สินเชื่อหรือไม่นั้นเป็นอำนาจของทางสถาบันการเงินเป็นผู้พิจารณา


“แต่กระนั้น กระทรวงมหาดไทยเห็นว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่เราจะต้องแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการแก้ปัญหามิติยาไทย ด้วยการทำให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ชีวิตด้วยหลักการพึ่งพาตนเอง โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการใช้ชีวิต ซึ่งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ได้พระราชทานแนวพระดำริ “หมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village)” ให้กระทรวงมหาดไทยได้น้อมนำไปขยายผลให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมกับพี่น้องประชาชนในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ซึ่งพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบก็เป็นสมาชิกของหมู่บ้าน/ชุมชนที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ทั้งการส่งเสริมการน้อมนำพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ “ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” การเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงปลา ไว้บริโภค ซึ่งจะทำให้สามารถลดรายจ่ายครัวเรือน มีอาหารที่สะอาด ปลอดสารเคมี และยังสามารถนำไปจำหน่ายสร้างรายได้ได้อีกด้วย รวมไปถึงการหนุนเสริมระบบคุ้มบ้าน กลุ่มบ้าน โดยรวมครัวเรือนประมาณ 10-15 ครัวเรือน เป็น 1 กลุ่มบ้าน มีโครงสร้างการดูแลกันและกัน เช่น หัวหน้ากลุ่มบ้าน กรรมการกลุ่มบ้าน เพื่อจะได้ช่วยกันดูแลสมาชิกที่อาจต้องการความช่วยเหลือหรือคำปรึกษาในการใช้ชีวิต และส่งเสริมให้มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้รับรู้รายรับและรายจ่าย กระตุ้น ให้เกิดความประหยัด ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ฟุ่มเฟือยกับสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต พร้อมทั้งกระตุ้นหนุนเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มจิตอาสาในการดูแลครอบครัวชุมชน การรักษาความปลอดภัย การรักษาสิ่งแวดล้อม การจัดตั้งธนาคารขยะ ซึ่งสามารถนำรายได้เข้าสู่ชุมชน เข้าสู่ครัวเรือนได้ โดยมีทีมอำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน ภายใต้การนำของท่านนายอำเภอ ปลัดอำเภอ ข้าราชการประจำตำบล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะกรรมการหมู่บ้าน และทีมงานอาสาสมัครในพื้นที่ เป็นกลไกของกระทรวงมหาดไทยในการดูแลให้เกิดสิ่งดี ๆ เหล่านี้กับพี่น้องประชาชน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยยังให้ความสำคัญในการส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย หรือ Partnership ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ข้อที่ 17 ด้วยการบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่ม OTOP และภาคีเครือข่ายภาคเอกชนอื่น ๆ ร่วมกันสำรวจความต้องการของลูกหนี้นอกระบบที่จะขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐหรือกลุ่มเครือข่าย เพื่อจัดทำเป็นฐานข้อมูลในการให้คำแนะนำ คำปรึกษา เพื่อส่งเสริมทักษะ ประสบการณ์ ในการประกอบอาชีพ เช่น การทำอาหาร การทอผ้า การย้อมผ้า การรังสรรค์งานหัตถกรรม งานฝีมือต่าง ๆ การเกษตร ปลูกผลไม้ พืชสมุนไพร ตลอดจนถึงการประกอบอาชีพในครัวเรือน ที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการทำมาหาเลี้ยงชีพ รวมถึงภาคีเครือข่ายภาคผู้นำศาสนา อาทิ คณะสงฆ์ ที่เป็นแหล่งรวมสรรพวิชาในการดำรงชีวิต ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงในการร่วมเป็นภาคีเครือข่ายดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทย เช่น หลักสูตรนวดแผนไทยของโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ที่สามารถสมัครเข้ารับการฝึกอบรมทั้งหลักสูตรระยะสั้น และระยะยาว และโครงการฝึกอาชีพของวัดต่าง ๆ ในหลาย ๆ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อใช้ในการหาเลี้ยงชีพได้ เป็นต้น

“สิ่งสำคัญเหล่านี้จะสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับ “ผู้นำ” ซึ่งคนมหาดไทยถูกคาดหวังจากสังคมไทยและได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลทุกยุคในการเป็นผู้นำการแก้ไขปัญหาและบูรณาการทุกภาคีเครือข่ายให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กลไกกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ภายใต้การนำของท่านผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ยังคงเดินหน้าทุกกระบวนการที่จะหนุนเสริมทำให้พี่น้องประชาชนได้รับการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ได้ใช้กลไกเหล่านี้แก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามแนวทางที่กำหนดไว้ ขณะเดียวกัน แม้ว่าการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจะสิ้นสุดลง แต่หากพี่น้องประชาชนยังคงได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว และทุกปัญหาที่ประสบและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเอง สามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะเดินทางไปขอรับคำปรึกษา ขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และประสานการปฏิบัติ บูรณาการทุกหน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือในทุกเรื่อง เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย .-317-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สภาถกงบฯ 69 วันที่ 2 “ปชน.” ซัดงบ ก.เกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์

รัฐสภา 14 ส.ค.- สภาฯ ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 วันที่ 2 “สส.ปชน.” ซัดงบกระทรวงเกษตรฯ ไม่ตอบโจทย์คนไทย ดูดีบนกระดาษ แต่ใช้ในชีวิตจริงของเกษตรกรไม่ได้ ข้องใจ ทำไมต้องทำโครงการตลาดกลางที่พะเยา ทั้งที่มูลค่าส่งออกแพ้เชียงราย-น่าน เสี่ยงผูกขาด หรือเป็นเหตุผลทางการเมือง ฉะ “ล้งแห่งชาติ” ของ อ.ต.ก. ล้มเหลวงตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระ 2 – 3 เป็นวันที่ 2 โดยพิจารณามาตรา 14 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ โดยนายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก สส.ลำพูน พรรคประชาชน อภิปรายงบประมาณในส่วนขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อ.ต.ก.) ว่า มีสองโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ให้กับคนไทยทั้งประเทศ และเสี่ยงต่อการใช้เงินภาษีอย่างไม่คุ้มค่า เสี่ยงต่อการล้มเหลวของโครงการ ได้แก่โครงการตลาดกลางที่ จ.พะเยา และโครงการล้งแห่งชาติ […]

มทภ.2 เผย “ในหลวง” ทรงติดตามกองทัพสู้ศึกชายแดน ถวายรายงานทุกวัน

สาธิตเกษตร 14 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” บรรยายพิเศษ รร.สาธิต ม.เกษตรฯ เผย “ในหลวง” องค์จอมทัพไทย ทรงติดตามกองทัพ สู้ศึกชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุถวายรายงานสถานการณ์ทุกวัน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ร่วมบรรยายพิเศษสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาและบทบาทหน้าที่ของกองทัพบก และคนไทยทุกคน พล.ท.บุญสิน เล่าถึงสถานการณ์ทหารแนวหน้าให้เด็กๆ ฟัง พี่เขาฝากมาว่า หากพี่น้องคนไทยสู้ ลูกหลานเราสู้ พี่ๆ ทหารก็สู้ พี่ๆ ทหารฝากบอกว่าไม่ต้องห่วงพวกผม ขอเพียงกำลังใจจากคนไทยเท่านั้น นี่คือทหารไทย เมื่อถึงเวลามีจิตวิญญาณของพระนเรศวร พวกเราไม่ต้องหวังว่าสถานการณ์ทหารไทยจะสู้หรือไม่ ชัดเจนอยู่แล้ว เพื่อแผ่นดินที่บรรพบุรุษได้รักษาไว้ เราจะต้องปกป้อง ใครรุกล้ำดินแดนของเรา ต้องผลักดันออกไป ยืนยันว่าเราไม่ได้รุกล้ำประเทศอื่น เรารบในประเทศไทยทั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยอยู่ตลอดเวลา ท่านได้สอบถามสถานการณ์ไปที่แม่ทัพทุกวัน โดยกองงานของพระองค์ ได้สอบถามสถานการณ์จากแม่ทัพ และได้รายงานทุกวัน สิ่งเหล่านี้คือจอมทัพไทย และตั้งแต่ประวัติศาสตร์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์นำกองทัพ และปัจจุบันก็ยังเป็นเช่นเดิม ดังนั้นทหารทุกคนพร้อมสละชีพเพื่อชาติทุกคน […]

รวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมพวก ตามหมายจับคดีรุกป่า

14 ส.ค.- “บิ๊กเต่า” บุกรวบ “จอนนี่ มือปราบ” พร้อมเมียและพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 กรณีรุกที่ดินนิคมลำโดมน้อย สร้างรีสอร์ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ในจังหวัดอุบลราชธานี เข้าควบคุมตัวนายยุทธพล ศรีสมพงษ์ และนางสาวจิราพร สีบุระ ภรรยา พร้อมพวก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตภาค 3 ในความผิด ม.157 ซึ่งบัญญัติว่าด้วยความผิดของเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหา เมื่อปี 2564 นายยุทธพล (จอนนี่) และภรรยา ได้ทำการซื้อที่ดินว่างไม่มีเอกสารสิทธิใน ต.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี และก่อสร้างรีสอร์ตโดยไม่ขออนุญาต ซึ่งทางนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อยแจ้งว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าไม้ส่วนกลาง 20% ต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการจัดที่ดินฯ แต่ทั้งสองยังคงดำเนินการร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน จัดประชาคมและรับรองเท็จว่าที่ดินไม่มีข้อพิพาท ไม่อยู่ในเขตป่าสงวน พร้อมแก้ไขเอกสารเพื่อปกปิดข้อเท็จจริง รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้รับรองสิ่งปลูกสร้างแม้ทราบว่าไม่ได้รับอนุญาต […]

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้ตะวันตก ฝนฟ้าคะนอง

กรุงเทพฯ 14 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]