อุดรธานี 19 ก.พ.-นายกฯ ระบุ ทำทุกวิธีแล้วแต่แบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ยนโยบายให้ ชี้แค่สลึงเดียวก็ช่วยลดภาระปชช.ได้ แจง GDP ปี 66 โตไม่ถึง 2% เหตุไม่มีเม็ดเงินในระบบ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ปี2566 ขยายตัว 1.7% และทั้งปีขยายตัว 1.9% ซึ่งต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ทุกคนทราบอยู่แล้วว่ารัฐบาลนี้เข้ามายังไม่สามารถใช้งบประมาณได้ แต่ทุกกระทรวงได้ใช้นโยบายเป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น แต่วันนี้ต้องยอมรับว่าไม่มีเม็ดเงินใหม่เข้าในระบบเลย ซึ่งหลายสำนักปรับประมาณการจีดีพีลงอย่างต่อเนื่องทุกเดือน รัฐบาลได้พยายามดำเนินการทุกมาตรการที่มีอยู่
“ขอฝากไว้ว่านโยบายดอกเบี้ยไม่ต้องใช้งบประมาณ ซึ่งขณะนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 2.5 % หากลดลงเหลือ 2.25 % เพียงสลึงเดียวจะช่วยบรรเทาภาระของพี่น้องประชาชนทุกคนได้ แต่เค้าไม่ลดกัน” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีพูดเรื่องนี้มาตลอดแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากธนาคารแห่งประเทศไทย นายกรัฐมนตรี ย้อนถามว่าใครเป็นคนควบคุมดอกเบี้ยนโยบายคือธนาคารแห่งประเทศไทย ตนพูดคุยกับเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ก็บอกว่าเราทำทุกวิถีทางแล้ว รวมถึงสอบถามเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ว่ามีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ระบุว่าได้คุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยว่าถึงเวลาที่จะต้องลด ตนจึงบอกว่าทำไมไม่พูดคุยต่อหน้าสาธารณะชนบ้าง และพูดคุยในภาษาที่ชัดเจน
“ไม่ว่าจะเป็นเลขาสภาพัฒน์ฯ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและผมก็จบเศรษฐศาสตร์มา เราไม่ได้มาเอาชนะกัน แต่ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะลดดอกเบี้ย เพื่อรองบประมาณที่จะคลอดออกมา ผมสอบถามกับเลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ว่าทำอะไรได้อีก หากมีอะไรที่ทำได้ก็ขอให้เสนอมา ผมไม่ได้จมปลักอยู่กับการลดดอกเบี้ยอย่างเดียว แต่การลดดอกเบี้ยเป็นการแบ่งเบาภาระของประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งเห็นอยู่แล้วสำหรับตัวเลขที่ออกมา นโยบายดิจิทัล วอลเล็ตก็พยามออกมาให้เร็วที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายกังวลว่าการเติมเงินเข้าไปในระบบจำนวน 500,000 ล้านบาท จะทำให้เงินเฟ้อ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ตัวเลขเงินเฟ้อติดลบอยู่แล้ว หากจะบอกว่าติดลบจากการที่รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนผ่านมาตรการลดราคาน้ำมัน หรือพยุงราคาไฟฟ้า หากถอดดัชนีตรงนี้ออกไปเงินเฟ้อขึ้นมาไม่ถึง 1% ยังไม่ถึงกรอบต่ำสุดด้วย หลายเรื่องที่รัฐบาลทำต้องใช้เวลา
“รวมถึงโครงการดิจิทัล วอลเล็ตด้วย หากทุกคนเห็นด้วยและพิสูจน์ให้ได้ว่าไม่มีทุจริตและประพฤติมิชอบจะพยายามทำให้เร็วที่สุด อยากจะให้เกิดขึ้น ภายในเดือนพฤษภาคม และนโยบายอื่นพยายามดำเนินการอยู่ รัฐบาลพยายามดำเนินการทุกอย่างที่สามารถทำได้ ณ วันนี้ และยินดีรับฟังว่าอยากให้รัฐบาลทำอะไร แต่ต้องคำนึงว่างบประมาณสามารถใช้ได้หรือไม่ อย่างเร็วที่สุด 1 เมษายน จากเดิมเดือนพฤษภาคม ซึ่งพยายามเร่งอยู่แล้ว.-316.-สำนักข่าวไทย