อุดรธานี 19 ก.พ.-นายกฯ Kick-off มอบสัญญาเช่า “หนองวัวซอโมเดล” ให้ชาวอุดรฯ ใช้ประโยชน์ที่ดินกองทัพ ยืนยัน สิทธิทำกินเป็นเรื่องสำคัญ เตรียมขยายโครงการอีกหลายพื้นที่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้กับผู้เช่าที่ราชพัสดุตามโครงการ “ธนารักษ์เอื้อราษฎร์“ ประจำปีงบประมาณ 2567 ภายใต้โครงการนำร่อง “หนองวัวซอโมเดล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งเป็นที่ดินของกองทัพที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ โดยรัฐบาลใช้เวลาเพียง 3 เดือนเศษหลังนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายเมื่อครั้งเป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566
จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิทรรศการของกรมธนารักษ์ โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์ และวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทองสานน้ำโขง เป็นโครงการสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในพื้นที่และฟังการบรรยายสรุปของทหารช่างและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือสสน.ที่มาช่วยบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ การปรับปรุงพื้นที่ พัฒนาแหล่งน้ำให้ประชาชนได้อุปโภคและบริโภค และมีแอปพลิเคชันตรวจสอบระดับน้ำในพื้นที่ได้ตลอดเวลา ปัจจุบันการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในโครงการหนองวัวซอ โมเดล ใช้งบประมาณ 98,824,460 บาท
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาแจกที่ดินทำกินให้กับประชาชนในวันนี้ จึงอยากจะขอเล่าเรื่องพื้นฐานก่อนว่าที่อยากจะทำเรื่องนี้เพราะเรื่องสิทธิทำกินเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งทางกระทรวงกลาโหมและทุกเหล่าทัพให้ความร่วมมือ เนื่องจากมีพื้นที่อยู่มากในฐานะนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยและศึกษาข้อมูลเชิงลึกกับทุกคนแล้ว
“ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับแม่ทัพทุกเหล่าทัพ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ที่อยากจะให้ที่ดินทำกินกับประชาชน และภายในเวลาแค่ 4-5 เดือน กองทัพทำงานอย่างรวดเร็ว มีคนได้รับประโยชน์กว่า 500 ครอบครัว และจะไม่หยุดยั้ง จะทำงานต่อไป ต่อไปจะเป็น จ.นครพนม จ.สมุทรปราการ และจ.กาญจนบุรี โดยกองทัพเรือและกองทัพอากาศจะมีส่วนร่วมด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องระบบชลประทานเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลต้องบริหารจัดการ ต้องให้ความมั่นใจว่าทุกพื้นที่จะมีน้ำใช้ ประชาชนต้องมีสิทธิทำมาหากินได้อย่างเต็มที่ มีเกียรติมีศักดิ์ศรีและใช้ประโยชน์ได้ รัฐบาลเข้าใจปัญหาของประชาชนเป็นอย่างดีและจะขับเคลื่อนแก้ปัญหาให้ประชาชนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ของกองทัพบก โดยมณฑลทหารบกที่ 24 ดูแลอยู่และกรมทหารปืนใหญ่ที่ 3 เป็นหน่วยที่ใช้ประโยชน์ ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 40,000 ไร่ เดิมทีเป็นพื้นที่ใช้ซ้อมรบและยิงปืนใหญ่ ขณะนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ไม่อยู่ในเขตอันตราย สามารถให้ประชาชนใช้ประโยชน์ได้กว่า 10,000 ไร่ ล่าสุดกำหนดขั้นตอนการพิจารณาจัดให้เช่าตามหลักเกณฑ์ ระเบียบและกฎหมายราชพัสดุเรียบร้อยแล้ว และมีประชาชนยื่นเอกสารล้วกว่า 434 ราย รวม 584 แปลง
ทั้งนี้ ภายหลังความสำเร็จ “หนองวัวซอโมเดล” กองทัพจะขยายการใช้พื้นที่ให้ประชาชนเพิ่มเติม เช่น บ้านแก่งประลอมและบ้านพุราด อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ของกองทัพไทย อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการของกองทัพเรือ และพื้นที่สนามบินนครพนมของกองทัพอากาศ เป็นต้น.-316.-สำนักข่าวไทย