ค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม 19 ก.พ.-นายกฯ ตรวจเยี่ยมค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม ดูความเป็นอยู่กำลังพล และความพร้อม รพ.ประจักษ์ศิลปาคมรองรับผู้ป่วยบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจวันที่ 3 ของการลงพื้นที่ภาคอีสานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จังหวัดอุดรธานี โดยภารกิจแรกเวลา 08.45 น. นายเศรษฐา พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปยังค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม จังหวัดอุดรธานี ติดตามตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของกำลังพล
โดยนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงอายุอาคารที่อยู่อาศัยของกำลังพลที่ส่วนใหญ่เป็นอาคารไม้ และเก่าทรุดโทรม ซึ่งอาจจะต้องมีการก่อสร้างอาคารใหม่เป็นที่พักสำหรับทหารชั้นประทวน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแนะนำว่าหากกองทัพมีพื้นที่เพียงพอควรก่อสร้างเป็นลักษณะแฟลตชั้นเดียว หรือ สองชั้น มากกว่าตึกสูงเพราะมันถูกกับวิถีชีวิตคนในพื้นที่ต่างจังหวัด ที่อยู่กับดินมากกว่าตึกสูง
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มาเยี่ยมที่อยู่อาศัยในค่ายทหารประจักษ์ศิลปาคม เพราะตั้งใจที่จะช่วยปรับปรุงสวัสดิการและคุณภาพชีวิตของทหารโดยรวมให้ดีขึ้นเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ซึ่งบ้านพักหลายจุดก่อสร้างตั้งแต่ปี 2495 สภาพเก่า ชำรุดทรุดโทรมมาก และจำนวนไม่เพียงพอ ซึ่งควรจะดูแลชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นอย่างเท่าเทียม รัฐบาลตั้งใจจะทดลองปรับปรุงที่พักอาศัยใหม่ ให้สอดคล้องกับชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันมากขึ้น โดยจะทดลองปรับปรุงในพื้นที่ค่ายทหารต่างจังหวัดที่มีพื้นที่เยอะก่อน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปที่ โรงพยาบาลประจักษ์ศิลปาคม ติดตามการบริหารจัดการและการให้บริการรักษาทั้งกำลังพลและประชาชนทั่วไป ซึ่งกำลังพัฒนาโรงพยาบาลทหารให้สามารถรองรับผู้ป่วยและนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้ เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ป่วยในการเข้าถึงระบบสาธารณสุข
โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า โรงพยาบาลทหารในค่ายประจักษ์ศิลปาคม และที่อื่นๆ สามารถพัฒนาให้รองรับกับนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ได้
ซึ่งโรงพยาบาลทหารที่นี่ ดูแลประชาชนที่เป็นผู้ป่วยนอก คิดเป็นสัดส่วน 77% ต่อปี อัตราการรักษา แพทย์ 1 คน ต่อคนไข้ 14,000 คนต่อปี และยังมีรถ mobile ออกพื้นที่ตรวจรักษาประชาชนในอุดรฯ จังหวัดใกล้เคียง และตามแนวชายแดนหนองคาย แต่ยังประสบปัญหาขาดบุคลากร ขาดอุปกรณ์ ขาดระบบไอที ขาดรถพยาบาลเคลื่อนที่ไม่พอ ขณะเดียวกันบุคลากรทางการแพทย์สังกัดกระทรวงกลาโหมก็ลาออกกันเยอะ เพราะไม่มีโอกาสเติบโต ไม่มีโอกาสบรรจุ อัตราเงินเดือนน้อยกว่าเงินสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทั้งหมดนี้ตนตั้งใจจะช่วยแก้ปัญหาให้โดยเร็วที่สุด และพัฒนาเป็นโมเดลโรงพยาบาลทหารนำร่องที่อุดรฯ และขยายไปในที่อื่นๆต่อไป
ทั้งนี้ มีผู้ป่วยที่มารอรับบริการ รวมถึงญาติผู้ป่วยเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก.-316.-สำนักข่าวไทย