ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน 18 ก.พ.- นายกฯ เยี่ยมชม ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ถกพัฒนา-สางปัญหาเมืองสกลนคร ดันเอกชนช่วยสินค้าเมืองสกลสู่ตลาดโลก บอกเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศ กำชับพัฒนาพันธุ์โคขุน ชี้ตลาดโลกต้องการ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เยี่ยมชมพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาคุณภาพดิน การจัดการแหล่งน้ำ ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นายกฯ และคณะ ได้นั่งรถรางเพื่อชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ก่อนร่วมประชุมหารือแผนพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดสกลนคร กับหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่
นายกฯ กล่าวมอบนโยบาย ว่า สกลนครเป็นจังหวัดที่มีโอกาสและเสรีภาพในหลายหลายเรื่อง ซึ่งภาพรวมเป็นเรื่องการบริหารจัดการน้ำและพื้นที่ทำกิน รัฐบาลจะพยายามบริหารให้มีประสิทธิภาพ โดยจะนำไปพิจารณาตามความเหมาะสม และขอให้กรมชลประทานร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อยกระดับศักยภาพการดำเนินงานของสกลนครให้ครอบคลุมและใช้น้ำได้ตลอดทั้งปี ซึ่งอาจจะให้กระทรวงเกษตรฯ มาช่วยดูเพื่อให้ใช้พื้นที่หนองหารได้เต็มศักยภาพ เพื่อรับน้ำและปล่อยน้ำให้ประชาชนมีน้ำใช้ตลอดทั้งปี และอาจจะเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาเข้าไปด้วย
ส่วนเรื่องการคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน รัฐบาลได้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการสร้างโครงข่ายด้านคมนาคม โดยให้กระทรวงคมนาคม ไปเร่งรัดโครงการทางหลวงหมายเลข 222 ซึ่งถ้าสามารถทำได้จะช่วยแบ่งเบาภาระการจราจรได้
ส่วนเรื่องการพัฒนาพันธุ์โคขุน ถือเป็นเรื่องที่สำคัญเพราะว่าตลาดโลกมีความต้องการโคมาก โดยจีนมีความต้องการเยอะก็ต้องพัฒนาเรื่องการส่งออก แต่ตนไม่อยากให้ดูประเทศจีนเพียงประเทศเดียว เพราะจากที่ตนไปซาอุดีอาระเบียก็มีความต้องการโคจำนวนมาก ซึ่งก็ต้องไปดูเรื่องการชำแหละ เพราะถ้าเราจะส่งเอาไปขายเป็นตัวจะได้กำไรน้อย แต่ถ้าชำแหละจะทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเทียบเท่ากับของญี่ปุ่นด้วย ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสินค้าที่นำรายได้มาให้จังหวัดสกลนคร รวมถึงเรื่องไก่ดำ ของโครงการภูพานของสกลที่มีชื่อเสียงซึ่งสามารถต่อยอดอีกมากมาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ควรจะนำไปพิจารณาคือการขยายตัวของประชาชนทวีปแอฟริกา ซึ่งส่วนใหญ่ นับถือศาสนาอิสลาม ฉะนั้นเรื่องการบริโภคโคจึงน่าสนใจ ดังนั้น จะต้องพัฒนาคุณภาพสินค้าฮาลาลด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องสุดท้าย จากการลงพื้นที่วันนี้พบว่าจังหวัดสกลนครมีผลิตภัณฑ์ที่ดีมาก อาทิ สินค้าการเกษตร ซึ่งเกษตรกรไม่สามารถทำได้คนเดียว แต่วันนี้เรามีเอกชนที่มีคุณภาพมาก ยกตัวอย่างเช่นบริษัทกลุ่มเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ตนจึงขอร้องเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ช่วยสนับสนุนสินค้าในพื้นที่เพื่อหาช่องทางการนำไปขายอย่างต่างประเทศ ซึ่งเป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศได้ .-316 .สำนักข่าวไทย