กทม. 17 ก.พ.-“นลินี” ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้บริหาร Air India เสนอเปิดเส้นทางบินเมืองรอง กระจายนักท่องเที่ยวจากหัวเมืองหลัก ปลื้มหลังใช้นโยบายวีซ่าฟรี จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด
นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย หารือผู้บริหาร Air India เสนอเปิดเส้นทางสู่เมืองรอง กระจายนักท่องเที่ยวจากหัวเมืองหลัก เช่น กรุงเทพและภูเก็ต เผยในช่วง 3 เดือนหลังจากการประกาศใช้มาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วัน จำนวนนักท่องเที่ยวอินเดียกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด- 19
นางนลินี เปิดเผยภายหลังการหารือกับคุณ Sumeet Gosain หัวหน้าฝ่ายขายต่างประเทศ (Head of International Sales) และคณะผู้บริหาร Air India ที่มาเข้าพบที่ทำเนียบ ว่า ตนได้เสนอให้ Air India เปิดเส้นทางการบินตรงสู่ประเทศไทย ในจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจากกรุงเทพและภูเก็ตที่ทางสายการบินมีการทำการบินอยู่แล้ว เพื่อเป็นการสนับสนุนการเชื่อมโยง และเป็นการโปรโมทจังหวัดอื่น ๆ ของไทยให้เป็นที่รู้จักกับนักท่องเที่ยวอินเดียมากขึ้น โดยทั้งนี้ จากการที่ Air India อยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของบริษัทครั้งใหญ่ (Transformation Program) และมีการสั่งซื้อเครืองบินล็อตใหญ่ จำนวนกว่า 470 ลำ จากทั้งบริษัทแอร์บัส (Airbus) และโบอิ้ง (Boeing) นั้น ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญให้ทาง Air India สามารถพิจารณาเพิ่มจำนวนความถี่ของเที่ยวบินและเปิดเส้นทางใหม่ ๆ มายังประเทศไทยได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทาง Air India ยังพร้อมจะสนับสนุนและส่งเสริมการเดินทางมายังไทยของกลุ่มคนแต่งงาน และกลุ่มผู้เข้าร่วมประชุมหรือสัมมนาเพิ่มเติมด้วย
นางนลินี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนและทางผู้บริหาร Air India ยังได้มีการหารือถึงโอกาสที่เกิดขึ้นจากนโยบาย วีซ่าฟรีในแง่ของการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งทางผู้บริหาร Air India ได้กล่าวชื่นชมนโยบายดังกล่าวว่าเป็นการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวอินเดียอย่างมาก และที่สำคัญยังเป็นการเพิ่มเติมความแข็งแกร่งของไทยในฐานะประเทศจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชาวอินเดียต้องการเดินทางไปเยือน
“ไทยได้ประกาศมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วัน ให้กับนักท่องเที่ยว ชาวอินเดีย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2566 – 10 พฤษภาคม 2567 พบว่า ในช่วง 3 เดือนแรก มีนักท่องเที่ยวชาวอินเดียเดินทางมาไทยเฉลี่ยเดือนละ 160,000 คน และทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวอินเดียที่เดินทางเข้าไทยในปี พ.ศ. 2566 มีมากกว่า 1.62 ล้านคน ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้กว่าร้อยละ 14.16” นางนลินี กล่าวทิ้งท้าย.-315.-สำนักข่าวไทย