รัฐสภา 16 ก.พ.-“กิตติรัตน์ ” เผยกมธ.งบปี 67 ทำงานเกินครึ่งแล้ว เร็วกว่าปฏิทินที่วางไว้ 2 สัปดาห์ เล็งชงเข้าสภาฯ วาระ2-3 วันที่ 20-21 มี.ค. ก่อนส่งต่อวุฒิสภา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เปิดเผยถึงคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ว่า ตั้งแต่เริ่มพิจารณาวันที่ 8 ม.ค.67 ที่ผ่านมาขณะนี้ทำงานมาแล้วครึ่งทางหรือร้อยละ 50.13 สำหรับปีนี้ได้ปรับโครงสร้างการทำงาน อนุกรรมาธิการฯ ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น โดยยังคงรักษาความละเอียดรอบคอบ แต่เชื่อว่าจะพิจารณางบประมาณได้เสร็จเร็วกว่าปฏิทินงบประมาณที่เคยวางไว้ ที่คาดว่าจะพร้อมเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต้นเดือนเมษายน
“ขณะนี้กรรมาธิการประชุมและมีมติเห็นชอบที่จะขอแจ้งต่อสภาฯ ว่าพร้อมเสนอเข้าสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาวาระ 2 และ 3 วันที่ 20-21 มี.ค.นี้ ซึ่งเท่ากับว่าทำงานได้เร็วขึ้น 2 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสภาฯเมื่อพิจารณาแล้วก็จะส่งวุฒิสภาพิจารณาต่อไป ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือ แม้บางครั้งจะมีข้อโต้เถียงกันบ้าง แต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี ไม่มีรายการใดที่ต้องยุติด้วยการลงคะแนนเสียง โดยใช้เหตุใช้ผลพูดคุยกัน” นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า สำหรับในชั้นอนุกรรมการ 8 คณะ ขณะนี้พิจารณากันอย่างเข้มข้น ส่วนอนุกรรมการข้อสังเกต คณะที่ 9 กำลังจะเริ่มทำงานในไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งจะรวบรวมข้อสังเกตทุกอนุกรรมาธิการ เพื่อนำส่งสภาฯอย่างเป็นทางการ ซึ่งในการพิจารณาชั้นอนุกรรมาธิการจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 29 ก.พ.แต่เป็นไปได้ที่บางอนุกรรมาธิการ จะพิจารณาแล้วเสร็จไม่เกินใน 1 สัปดาห์ จากนี้ไป
ส่วนยอดการปรับลดตัวเลขงบประมาณ นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า ในห้องใหญ่ยังไม่พิจารณาปรับลด โดยมอบให้อนุกรรมาธิการ 8 คณะดำเนินการ และตามหลักการเป็นเพียงข้อเสนอเบื้องต้นในการปรับลด ไม่มีสิทธิ์เป็นผู้ปรับลดเอง และเมื่ออนุกรรมาธิการนำเสนอเข้าสู่คณะกรรมาธิการชุดใหญ่ ทุกปีจะมีเปลี่ยนแปลง ไม่เห็นด้วยกับการปรับลดของคณะอนุกรรมการ และในหลักการของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันจะไม่เพิ่มจำนวนเงินในรายการต่าง ๆ จึงไม่สามารถพูดตัวเลขการปรับลดได้ แต่คาดว่า การพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ ปริมาณการขอปรับลดของอนุกรรมาธิการน่าจะมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย ซึ่งต้องมาดูกันเพราะบางรายการแขวนรอให้หน่วยรับงบประมาณมาชี้แจงรายละเอียด หากชี้แจงและมั่นใจจะไม่ปรับลด
“เท่าที่ได้ฟังกรรมการแสดงความคิดเห็นในการพิจารณางบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดจะพบว่า งบประมาณของจังหวัดน้อย ในขณะที่ภารกิจของผู้ว่าราชการจังหวัดต้องนำทัพ บริหารราชการซึ่งมีเรื่องมากมายเพราะอะไร ๆ ก็ต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดู แม้จะมีส่วนราชการจากส่วนกลาง ดูแลอยู่ภารกิจแต่โอกาสที่ภารกิจที่ผู้ว่าจะต้องเพิ่มเติมอะไรก็มีอยู่ จากข้อสังเกตพบว่างบประมาณในแต่ละจังหวัดไม่มาก ดังนั้น ถ้าในระยะยาวต้องการให้อำนาจผู้ว่าฯ ในลักษณะที่พูดกันคือผู้ว่าฯ CEO ก็คงต้องพิจารณาว่าต้องเพิ่มงบประมาณให้จังหวัดมากขึ้นกว่าเดิม” นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า จากการชี้แจงของผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมีปัญหาไม่เหมือนกันผู้ว่าก็สามารถชี้แจงต่อกรรมาธิการได้ว่าทำไมงบโดดออกมา แล้วจะเห็นว่าบางจังหวัด ผู้ว่าราชการมุ่งมั่นที่จะเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว ที่อยากเสนอและของบประมาณเองก็มีโครงการที่อยากเสนอและของงบประมาณเอง เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกับการบูรณาการเกี่ยวกับการท่องเที่ยว บางจังหวัด อยากเห็นเกษตรกรมีรายได้ดีขึ้น สิ่งที่เสนอมาจะเกี่ยวกับส่วนราชการอื่น เช่น กระทรวงเกษตรฯ เพื่อทำให้พืชสำคัญในจังหวัดมีโอกาสทำรายได้ดีขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย