สภาฯ มีมติเห็นชอบรายงาน กมธ. ผลการพิจารณาศึกษา “แลนด์บริดจ์”

รัฐสภา 15 ก.พ. – สภาฯ มีมติ 269 ต่อ 147 เห็นชอบรายงาน กมธ. ผลการพิจารณาศึกษา “แลนด์บริดจ์” แม้ 3 สส. “ก้าวไกล” ลาออก กมธ. รุมจวกรายงาน “ศิริกัญญา” บอกหมดคำพูด กมธ.ประเมินรายได้เวอร์มาก


รัฐสภา วันนี้ (15 ก.พ.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่องการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (แลนด์บริดจ์) เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน 3 สส. พรรคก้าวไกลที่ลาออกจาก กมธ. ได้ร่วมกันอภิปรายคัดค้าน

โดยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เล่าถึงเหตุผลที่ลาออก เนื่องจากไม่สามารถให้เหตุผลในรายงานฉบับนี้ได้ ซึ่งแทบจะไม่มีการแก้ไขเลยตั้งแต่ตนลาออกมา โดยเพื่อน สส. ไม่พูดว่ามีธงในการดำเนินการ ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่ กมธ. ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่มาจากทางฝั่งรัฐบาลจะมีคงมีธงจากบ้านว่าควรจะทำโครงการนี้ แต่สิ่งที่จำเป็นต้องกังวลใจ คือ ผลการศึกษาที่นำมาสู่ธงนี้ ศึกษาอย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน ถูกต้อง มีสมมติฐานที่สมเหตุสมผลหรือไม่ ตนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีการสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบในการทำรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสารตั้งต้นของรายงานฉบับนี้ ว่าธงที่รัฐบาลให้มา จะสามารถเดินตามธงอยู่ได้อย่างมั่นใจได้อย่างไร แต่ตนกลับไม่ได้คำตอบที่ต้องการหลายครั้ง หลายวาระที่สอบถามก็ถูกตัดการสอบถาม ทำให้ข้อมูลก็ยังไม่ได้ ที่ร้ายแรงกว่านั้น กลับใช้รายงานของ สนข. โดยที่ไม่ได้พิจารณาถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเดินเรือ การคำนวณการเติบโตของท่าเรือ ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะเชื่อรายงานของ สนข. ได้หรือไม่


“รายได้ที่เป็นรายได้จากท่าเรือเวอร์มาก สูงมาก ปีแรก บอกว่าจะได้รายได้จากท่าเรือ 58,000 ล้านบาท ดิฉันคิดว่า กมธ. ไม่มีใครทราบนะคะ ยกเว้นที่มาจาก สนข. ถึงจะทราบเรื่องนี้ ในรายงานความก้าวหน้าฉบับที่ 2 ก็ไม่มีเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ดิฉันอ่านแล้ว ไม่มีรายได้ที่มาจากการขายน้ำมัน แต่วันนี้มาแล้วค่ะ 58,000 ล้าน มาจากรายได้ที่มาจากการขายน้ำมัน 50,000 ล้าน และมาจากรายได้ท่าเรือ เพียงแค่ 8,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง 50,000 ล้านที่มาจากการขายน้ำมัน มันจะมาได้อย่างไร ลองคิดดู ถ้าเราไม่มีโรงกลั่นเอง” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า หมดคำจะพูดว่าเราศึกษาอะไรกันอยู่ รายงานฉบับนี้กำลังรับรองความผิดพลาดอะไรกันอยู่ นายกรัฐมนตรีจะต้องเอาไปพูดจะต่างชาติเรื่องโครงการนี้ ทั้งที่เนื้อในเป็นแบบนี้ เราไม่ได้ทำเป็นฝ่ายค้าน เราจะต้องค้านทุกเรื่อง แต่เราต้องรักษาภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีของเราอยู่เอาไว้บ้าง ตนไม่ได้มีปัญหาในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ถ้าจะมีการรื้อรายงานใหม่ ตนก็จะยินดีมากๆ ที่จะศึกษาใหม่ แล้วมันคุ้มค่า ตนก็ยินดีจะสนับสนุนโครงการใหม่นั้น

ด้านนายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า โครงการนี้จะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ตนย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ การที่ตนลาออกก็ไม่ได้เพราะเป็นเด็ก โครงการนี้มีหลายหน่วยงานจัดทำรายงาน ทำไมถึงเลือกเอารายงานของ สนข. มาใช้ แล้วโยนผลการศึกษาของสภาพัฒน์ทิ้งไป ทำไมไม่ใส่มาทั้ง 2 หน่วยงานแล้วเปรียบเทียบกัน


“ท่านประธานครับ เวลาเราซื้อของเราดูที่ไหน เราเชื่อใจเซลล์แมนใช่ไหมครับ ท่านนายกท่านก็บอกเองว่าเป็นเซลล์แมนประเทศไทย เพราะฉะนั้นคนที่เขาจะซื้อ เขาต้องมีความเชื่อถือในท่านนายกและตัวเลข” นายจุลพงษ์ กล่าว

นายจุลพงษ์ ยังระบุว่า ในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมตนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญเทียบปริมาณคาร์บอนที่ขนส่งในโครงการแลนด์บริดจ์กับคาร์บอนที่ขนส่งทางเรือที่ช่องแคบมะลากา ซึ่งพบว่าแลนด์บริดจ์สูงกว่า 14 เท่า ตั้งข้อสงสัยว่าแล้วใครจะให้กู้เงิน ตนอบากข้อให้เลิกพูดเรื่องตัวเลข ความคุ้มทุน และขอให้พูดเรื่องความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่โครงการนี้เกิดขึ้นมาตนลงพื้นที่ ประชาชนบอกว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่รู้จะตายที่ไหน ซึ่งความเป็นมนุษย์ของประชาชนในโครงการ เราจะต้องดูแลมากกว่าสิ่งอื่นใด

ขณะที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนมีประเด็นที่ต้องแจ้ง ประเด็นแรก ตนไม่เคยคัดค้านโครงการ ถ้ามีโครงการแลนด์บริดจ์หรือโครงการที่ทำให้คนใต้รวยได้ ตนยินดีสนับสนุน แต่ตอนนี้ต้องการพิสูจน์ความจริงของตัวเลขรายงานฉบับนี้ ตนต้องการแค่ความถูกต้อง

ประเด็นที่สอง รายงานรวบรัดการศึกษา และไม่มีการหาความจริงให้รอบด้าน ประเด็นที่สาม ตนขอเรียกรายงานฉบับนี้ว่าย้อนแย้ง ตัดแปะ และใช้ไม่ได้จริง

“จุดแข็งของโครงการ หลีกเลี่ยงปัญหาความติดขัดการเดินเรือในช่องแคบ แต่ความจริง กมธ. ท่านใดไปพิสูจน์ว่าช่องแคบติดขัด เราเห็นกับตาแล้วหรือไม่ เอกชนเขาก็บอกว่าไม่ได้แออัด คับแคบ ที่มันแออัดจริงๆ คือท่าเรือสิงคโปร์ มันไม่ใช่ตัวช่องแคบ แล้วท่านก็ไม่ไปพิสูจน์ และทุกวันนี้ท่าเรือสิงคโปร์เขาก็มีแผนท่าเรือ เพื่อรองรับเรือเพิ่ม ถ้ามันแคบจนมันไปไม่ได้ จะลงทุนเพิ่มทำไม ง่ายสุด ส่งคนไปไลฟ์สดให้จบตรงนี้ จะได้จบๆ ว่ามันแออัดหรือไม่” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ ยังกล่าวว่า จำนวนคนสร้างงาน 280,000 คน ไม่รู้เอาจำนวนตัวเลขนี้มาจากไหน จะจ้างงานเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครก็มโนขึ้นมาได้

“GDP บอกว่าจะโตจาก 4% ไป 5.5% โอ้โฮ GDP รายไตรมาส ท่านมีปัญญาคำนวณล่วงหน้าขนาดนั้นเลยหรือครับ ไปเอาตัวเลขมาจากไหน แล้วค่าเสียโอกาสจากการท่องเที่ยว อาชีพประมงที่เขาต้องเสียไป สิ่งแวดล้อม ไม่เคยถูกนำมาคำนวณแม้แต่เรื่องเดียว” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ ย้ำด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า จะตั้ง กมธ. มาทำไม ถ้าจะยึดตาม สนข. มองว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนร่วม ต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

“เราลงทั้งเงิน ทั้งที่ดิน ทั้งสัมปทาน ดีลธุรกิจมาลงทุนแลกกับสัมปทาน เราจำเป็นต้องรู้ต้นทุน รายได้ ค่าเสียโอกาสโครงการว่าเท่าไหร่ นักธุรกิจจะลงทุนต้องมีการต่อรอง ถ้าท่านมั่วจะต่อรองได้อย่างไร เพราะไม่มีหลักการ” นายศุภณัฐ กล่าว

จากนั้นหลังสมาชิกใช้เวลาอภิปรายแสดงความคิดเห็นนานเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 15 นาที ที่ประชุมมีมติ เห็นด้วยกับรายงาน 269 เสียง ไม่เห็นด้วย 147 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน เป็นอันว่าที่ประชุมเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ .-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.

รัฐสภา 31 พ.ค. – เปิดชื่อ “73 อรหันต์” ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 ประชุมนัดแรก 9 มิ.ย.นี้ เคาะประธาน-รองประธาน วางกรอบการทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จำนวน 73 คน ประกอบด้วย สัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) จำนวน 18 คน คือ 1. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง 2. นายจักรพงษ์ แสงมณี 3. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง 4. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม 5. นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ 6. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ […]

สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง

รัฐสภา 31 พ.ค.- สภาวุ่น! งูเห่าไทยสร้างไทย เสนอชื่อ กมธ.งบฯ แข่ง ประธานสั่งพักประชุม 5 นาที สุดท้ายงูเห่ายอมถอย ไปอยู่สัดส่วน ครม.แทน การประชุมสภาผู้แทนราษฎรหลังที่ประชุมมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายงบประมาณ 2569 ในขั้นตอนการเสนอชื่อกรรมาธิการวิสามัญฯ จำนวน 73 คน ในสัดส่วนของพรรคไทยสร้างไทย จำนวน 1 คน โดยนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน และ สส.พรรคประชาชน ได้เสนอชื่อ นายชัชวาล แพทยาไทย ขณะที่นางสุภาพร สลับศรี สส.พรรคไทยสร้างไทย นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ทำให้เกิดการประท้วงกันเนื่องจากมีการเสนอชื่อ 2 คน แต่ปกรณ์วุฒิ ยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยมีหนังจากกรรมการบริหารพรรคว่าจะเสนอชื่อนายชัชวาล เป็นตัวแทนของพรรคทำให้นายฐากูร ยืนยันว่าที่ผ่านมาการเสนอชื่อบุคคลเป็นกรรมาธิการวิสามัญจะต้องถูกเสนอโดยคนของพรรคตัวเอง ไม่ใช่พรรคอื่น ซึ่งวันนี้พรรคไทยสร้างไทยเสนอชื่อตน แต่พรรคการเมืองอื่นเป็นเสนอชื่ออีกคน ทำให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ประธานในที่ประชุม วินิจฉัยว่า ใครจะเป็นผู้เสนอชื่อก็ได้ขอแค่มีผู้รับรอง ก่อนจะให้เวลาทั้ง 2 ฝ่ายหารือกัน […]

“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่

รัฐสภา 31 พ.ค.-“ชาดา” ปลุกรัฐบาล ถ้าไม่แจกเงินหมื่น “นายกฯ เท้ง” มาแน่ ลั่นถ้าทำให้นายกฯ ไม่ได้ ก็เปลี่ยนตัว เอาคนอื่นไปนั่งแทน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อภิปรายในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วาระร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายชาดา กล่าวว่าในฐานะที่อยู่ในสภาฯ มาพอสมควร ขอชื่นชมฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีการพัฒนาในการอภิปรายอย่างมาก ปี 69 มีงบประมาณลงทุน 7 แสนล้านบาท คนพูดกันตลอดเวลาว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ยกตัวอย่าง ในงบลงทุนเป็นงบก่อสร้าง 4.75 แสนล้านบาท ซึ่งงบก่อสร้างไม่เหมือนในอดีตเพราะต้องถูกตัดไปให้ธนาคาร 5% จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเข้ามาดูเพราะเป็นการเอาเปรียบประชาชน ในจำนวนนี้มีค่าธรรมเนียม 2.5% ต่อปี นอกจากนี้ยังมีเรื่องเร่งรัดการเบิกจ่ายอีก 15% ซึ่งธนาคารตัดไป 3% และคิดค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก นายชาดา กล่าวว่างบก่อสร้าง มีเครื่องจักรเหล็กหินวัสดุที่เป็นปูน หากเป็นงานถนนมีแรงงานเพียง 15% เงินส่วนนี้ไม่ได้ไปสู่ระบบข้างล่าง […]

ฝากขังพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก

นครราชสีมา 30 พ.ค. – ตำรวจคุมตัวพระเอกลิเกฆ่าลูกเลี้ยงป่วยออทิสติก และขืนใจลูกวัย 11 ขวบ ฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา อ้างวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโหและมึนเมาสุรา จึงก่อเหตุ ความคืบหน้ากรณีพ่อเลี้ยงพระเอกลิเกสุดโหดใช้ค้อนสำหรับทุบหมู ทำร้ายลูกเลี้ยงนางเอกลิเกที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก จนบาดเจ็บเลือดคั่งในสมอง ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นครราชสีมาบุกรวบตัวผู้ต้องหาคือ นายกิติทัช อายุ 48 ปี พระเอกลิเกชื่อ “รักยิ้ม ทับทิมสยาม” พ่อเลี้ยง ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 พ.ค.) ขณะผู้ต้องหากำลังเตรียมหลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนจะควบคุมตัวมายังสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา เพื่อสอบปากคำ เช้าวันนี้ (30 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา คุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนขยายผล จนผู้ต้องหา ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง อ้างว่าในวันเกิดเหตุถูกผู้ตายด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ด้วยความโมโห พร้อมกับมีอาการมึนเมาจากการดื่มสุรา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหา “ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย” ส่วนข้อหากระทำอนาจารต่อลูกสาววัย 11 ขวบ ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบหลักฐาน หากตรวจพบหลักฐานที่ชัดเจนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลจังหวัดนครราชสีมา […]

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ชน รปภ.ดับ

กทม. 2 มิ.ย. – ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้าในโกดังกรมศุลกากร ก่อนขับรถชน รปภ.ดับ ด้านพนักงานสอบสวนหิ้วนายเจ ทำหน้าที่รับของโจร ไปฝากขังศาล เจ้าตัวฝากถึงเพื่อนรัก “เจอที่ไหน ตายแน่” ความคืบหน้าล่าสุดที่ สน.ท่าเรือ มีรายงานว่าเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆ อีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับกุมบางรายได้ทันที ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตาย แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ ส่วนกรณีที่จะมีเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น มีรายงานว่าไม่มี […]

ปศุสัตว์สระแก้วร่วมสอบสวนโรค “แอนแทรกซ์” หลังพบผู้ป่วยยืนยันรายแรกของจังหวัด

สระแก้ว 2 มิ.ย.​ – สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว เตรียมลงพื้นที่ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เร่งสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ หลังได้รับแจ้งพบผู้ป่วยรายแรกของจังหวัด​ เบื้องต้นยังไม่พบสัตว์ป่วยตายผิดปกติในพื้นที่ แต่วางมาตรการควบคุมเข้มงวดป้องกันและควบคุม​โรคในสัตว์ นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วว่า วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) ได้บูรณาการร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและสำนักงานปศุสัตว์เขต 2 ลงพื้นที่สอบสวนโรค หลังพบชายอายุ 53 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม ด้วยอาการตุ่มแผลตามร่างกาย และได้รับการวินิจฉัยยืนยันว่าติดเชื้อ Bacillus anthracis สาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ จากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ป่วยมีพฤติกรรมชอบบริโภคเนื้อดิบเป็นประจำ เช่น ลาบ ก้อย ซอยจุ๊ ซึ่งเป็นเนื้อที่ซื้อจากชาวบ้านในพื้นที่เพื่อแบ่งกันรับประทานร่วมกับเพื่อนบ้าน และมีพฤติกรรมดื่มสุราเป็นประจำ โดยไม่มีประวัติเลี้ยงสัตว์เคี้ยวเอื้อง ไม่มีประวัติสัมผัสสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ และไม่ได้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค แม้ในพื้นที่จะยังไม่พบรายงานสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาท สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสระแก้วได้วางมาตรการควบคุมเข้มงวด โดยร่วมสอบสวนโรคในพื้นที่เสี่ยง เก็บตัวอย่างสัตว์และสิ่งแวดล้อมเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนเรื่องอันตรายของการบริโภคเนื้อดิบ ขณะเดียวกัน ได้ประสานด่านกักกันสัตว์จังหวัดสระแก้วเตรียมน้ำยาฆ่าเชื้อและรถพ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค […]

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

สระแก้วพบผู้ป่วยติดเชื้อแอนแทรกซ์รายแรก

สระแก้ว 2 มิ.ย.- สระแก้วพบผู้ป่วยแอนแทรกซ์รายแรก ซักประวัติชอบกินก้อย-ซอยจุ๊-เนื้อดิบ จนท.เตรียมลงพื้นที่สอบสวนโรคเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์รายแรกของจังหวัด เป็นชาย อายุ 53 ปี อาชีพรับจ้างตัดไม้ อยู่ที่ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ จังหวัดชลบุรี ด้วยอาการตุ่มแผลบริเวณศีรษะ ด้านหลังคอ แขน และขา การตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อแอนแทรกซ์ จากการซักประวัติพบว่า ผู้ป่วยมีพฤติกรรมเสี่ยง คือ ดื่มสุราทุกวัน และชอบบริโภคก้อย ซอยจุ๊ เนื้อดิบเป็นประจำ ล่าสุดได้รับประทานเนื้อดิบเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คาดว่าผู้ป่วยติดเชื้อจากการบริโภคเนื้อสัตว์ป่วยที่ไม่ได้รับการปรุงสุก วันนี้ (2 มิถุนายน 2568) จะลงสอบสวนโรคเพื่อเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัสเชื้อ เน้นย้ำให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้วและพื้นที่ใกล้เคียง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ ที่ป่วยหรือตายผิดปกติ ล้างมือและชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัย บริโภคอาหารที่ปรุงสุก ร้อน และสะอาดเท่านั้น หากพบสัตว์ป่วยหรือตายผิดปกติ […]