สภาฯ มีมติเห็นชอบรายงาน กมธ. ผลการพิจารณาศึกษา “แลนด์บริดจ์”

รัฐสภา 15 ก.พ. – สภาฯ มีมติ 269 ต่อ 147 เห็นชอบรายงาน กมธ. ผลการพิจารณาศึกษา “แลนด์บริดจ์” แม้ 3 สส. “ก้าวไกล” ลาออก กมธ. รุมจวกรายงาน “ศิริกัญญา” บอกหมดคำพูด กมธ.ประเมินรายได้เวอร์มาก


รัฐสภา วันนี้ (15 ก.พ.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวาระรายงานผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่องการศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (แลนด์บริดจ์) เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน 3 สส. พรรคก้าวไกลที่ลาออกจาก กมธ. ได้ร่วมกันอภิปรายคัดค้าน

โดยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เล่าถึงเหตุผลที่ลาออก เนื่องจากไม่สามารถให้เหตุผลในรายงานฉบับนี้ได้ ซึ่งแทบจะไม่มีการแก้ไขเลยตั้งแต่ตนลาออกมา โดยเพื่อน สส. ไม่พูดว่ามีธงในการดำเนินการ ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องผิดที่ กมธ. ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะที่มาจากทางฝั่งรัฐบาลจะมีคงมีธงจากบ้านว่าควรจะทำโครงการนี้ แต่สิ่งที่จำเป็นต้องกังวลใจ คือ ผลการศึกษาที่นำมาสู่ธงนี้ ศึกษาอย่างรอบคอบ ถี่ถ้วน ถูกต้อง มีสมมติฐานที่สมเหตุสมผลหรือไม่ ตนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ที่มีการสอบถามหน่วยงานที่รับผิดชอบในการทำรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสารตั้งต้นของรายงานฉบับนี้ ว่าธงที่รัฐบาลให้มา จะสามารถเดินตามธงอยู่ได้อย่างมั่นใจได้อย่างไร แต่ตนกลับไม่ได้คำตอบที่ต้องการหลายครั้ง หลายวาระที่สอบถามก็ถูกตัดการสอบถาม ทำให้ข้อมูลก็ยังไม่ได้ ที่ร้ายแรงกว่านั้น กลับใช้รายงานของ สนข. โดยที่ไม่ได้พิจารณาถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเดินเรือ การคำนวณการเติบโตของท่าเรือ ซึ่งตนยังไม่รู้ว่าจะเชื่อรายงานของ สนข. ได้หรือไม่


“รายได้ที่เป็นรายได้จากท่าเรือเวอร์มาก สูงมาก ปีแรก บอกว่าจะได้รายได้จากท่าเรือ 58,000 ล้านบาท ดิฉันคิดว่า กมธ. ไม่มีใครทราบนะคะ ยกเว้นที่มาจาก สนข. ถึงจะทราบเรื่องนี้ ในรายงานความก้าวหน้าฉบับที่ 2 ก็ไม่มีเรื่องนี้ด้วยซ้ำ ดิฉันอ่านแล้ว ไม่มีรายได้ที่มาจากการขายน้ำมัน แต่วันนี้มาแล้วค่ะ 58,000 ล้าน มาจากรายได้ที่มาจากการขายน้ำมัน 50,000 ล้าน และมาจากรายได้ท่าเรือ เพียงแค่ 8,000 ล้านบาทเท่านั้นเอง 50,000 ล้านที่มาจากการขายน้ำมัน มันจะมาได้อย่างไร ลองคิดดู ถ้าเราไม่มีโรงกลั่นเอง” นางสาวศิริกัญญา กล่าว

นางสาวศิริกัญญา กล่าวว่า หมดคำจะพูดว่าเราศึกษาอะไรกันอยู่ รายงานฉบับนี้กำลังรับรองความผิดพลาดอะไรกันอยู่ นายกรัฐมนตรีจะต้องเอาไปพูดจะต่างชาติเรื่องโครงการนี้ ทั้งที่เนื้อในเป็นแบบนี้ เราไม่ได้ทำเป็นฝ่ายค้าน เราจะต้องค้านทุกเรื่อง แต่เราต้องรักษาภาพลักษณ์ความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีของเราอยู่เอาไว้บ้าง ตนไม่ได้มีปัญหาในการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ ถ้าจะมีการรื้อรายงานใหม่ ตนก็จะยินดีมากๆ ที่จะศึกษาใหม่ แล้วมันคุ้มค่า ตนก็ยินดีจะสนับสนุนโครงการใหม่นั้น

ด้านนายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า โครงการนี้จะเกิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ตนย้ำว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้ขัดขวางการพัฒนาพื้นที่ภาคใต้ การที่ตนลาออกก็ไม่ได้เพราะเป็นเด็ก โครงการนี้มีหลายหน่วยงานจัดทำรายงาน ทำไมถึงเลือกเอารายงานของ สนข. มาใช้ แล้วโยนผลการศึกษาของสภาพัฒน์ทิ้งไป ทำไมไม่ใส่มาทั้ง 2 หน่วยงานแล้วเปรียบเทียบกัน


“ท่านประธานครับ เวลาเราซื้อของเราดูที่ไหน เราเชื่อใจเซลล์แมนใช่ไหมครับ ท่านนายกท่านก็บอกเองว่าเป็นเซลล์แมนประเทศไทย เพราะฉะนั้นคนที่เขาจะซื้อ เขาต้องมีความเชื่อถือในท่านนายกและตัวเลข” นายจุลพงษ์ กล่าว

นายจุลพงษ์ ยังระบุว่า ในประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมตนได้ให้ผู้เชี่ยวชาญเทียบปริมาณคาร์บอนที่ขนส่งในโครงการแลนด์บริดจ์กับคาร์บอนที่ขนส่งทางเรือที่ช่องแคบมะลากา ซึ่งพบว่าแลนด์บริดจ์สูงกว่า 14 เท่า ตั้งข้อสงสัยว่าแล้วใครจะให้กู้เงิน ตนอบากข้อให้เลิกพูดเรื่องตัวเลข ความคุ้มทุน และขอให้พูดเรื่องความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่โครงการนี้เกิดขึ้นมาตนลงพื้นที่ ประชาชนบอกว่ากินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไม่รู้จะตายที่ไหน ซึ่งความเป็นมนุษย์ของประชาชนในโครงการ เราจะต้องดูแลมากกว่าสิ่งอื่นใด

ขณะที่นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ตนมีประเด็นที่ต้องแจ้ง ประเด็นแรก ตนไม่เคยคัดค้านโครงการ ถ้ามีโครงการแลนด์บริดจ์หรือโครงการที่ทำให้คนใต้รวยได้ ตนยินดีสนับสนุน แต่ตอนนี้ต้องการพิสูจน์ความจริงของตัวเลขรายงานฉบับนี้ ตนต้องการแค่ความถูกต้อง

ประเด็นที่สอง รายงานรวบรัดการศึกษา และไม่มีการหาความจริงให้รอบด้าน ประเด็นที่สาม ตนขอเรียกรายงานฉบับนี้ว่าย้อนแย้ง ตัดแปะ และใช้ไม่ได้จริง

“จุดแข็งของโครงการ หลีกเลี่ยงปัญหาความติดขัดการเดินเรือในช่องแคบ แต่ความจริง กมธ. ท่านใดไปพิสูจน์ว่าช่องแคบติดขัด เราเห็นกับตาแล้วหรือไม่ เอกชนเขาก็บอกว่าไม่ได้แออัด คับแคบ ที่มันแออัดจริงๆ คือท่าเรือสิงคโปร์ มันไม่ใช่ตัวช่องแคบ แล้วท่านก็ไม่ไปพิสูจน์ และทุกวันนี้ท่าเรือสิงคโปร์เขาก็มีแผนท่าเรือ เพื่อรองรับเรือเพิ่ม ถ้ามันแคบจนมันไปไม่ได้ จะลงทุนเพิ่มทำไม ง่ายสุด ส่งคนไปไลฟ์สดให้จบตรงนี้ จะได้จบๆ ว่ามันแออัดหรือไม่” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ ยังกล่าวว่า จำนวนคนสร้างงาน 280,000 คน ไม่รู้เอาจำนวนตัวเลขนี้มาจากไหน จะจ้างงานเงินเดือนเท่าไหร่ ก็ไม่มีใครก็มโนขึ้นมาได้

“GDP บอกว่าจะโตจาก 4% ไป 5.5% โอ้โฮ GDP รายไตรมาส ท่านมีปัญญาคำนวณล่วงหน้าขนาดนั้นเลยหรือครับ ไปเอาตัวเลขมาจากไหน แล้วค่าเสียโอกาสจากการท่องเที่ยว อาชีพประมงที่เขาต้องเสียไป สิ่งแวดล้อม ไม่เคยถูกนำมาคำนวณแม้แต่เรื่องเดียว” นายศุภณัฐ กล่าว

นายศุภณัฐ ย้ำด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ว่า จะตั้ง กมธ. มาทำไม ถ้าจะยึดตาม สนข. มองว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนร่วม ต้องมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง

“เราลงทั้งเงิน ทั้งที่ดิน ทั้งสัมปทาน ดีลธุรกิจมาลงทุนแลกกับสัมปทาน เราจำเป็นต้องรู้ต้นทุน รายได้ ค่าเสียโอกาสโครงการว่าเท่าไหร่ นักธุรกิจจะลงทุนต้องมีการต่อรอง ถ้าท่านมั่วจะต่อรองได้อย่างไร เพราะไม่มีหลักการ” นายศุภณัฐ กล่าว

จากนั้นหลังสมาชิกใช้เวลาอภิปรายแสดงความคิดเห็นนานเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 15 นาที ที่ประชุมมีมติ เห็นด้วยกับรายงาน 269 เสียง ไม่เห็นด้วย 147 เสียง งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 1 คะแนน เป็นอันว่าที่ประชุมเห็นชอบกับรายงานฉบับนี้ .-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน

รัฐสภา 15 ส.ค.-สส.เพื่อไทย ให้กำลังใจ “แพทองธาร” ผ่านอุปสรรคกลับมารับใช้ประชาชน ด้านเจ้าตัวยิ้มสู้-ยังเข้มแข็ง กำชับ สส.ทำงานสภาเต็มที่ ลงพื้นที่ดูแลประชาชนใกล้ชิด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร​ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระที่สอง วันสุดท้าย ซึ่ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามาติดตามการประชุม ตลอด 3 วันที่ผ่านมา โดยในช่วงเช้า สส.พรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ สส.เขต ได้มีการเข้าพบหารือกับนางสาวแพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อปรึกษาปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องการผลักดันนโยบายต่างๆ ที่จะลงในพื้นที่ เนื่องจากในหลายจังหวัดมีโครงสร้างพื้นฐานพร้อมทุกด้าน แต่ยังขาดเรื่องการประชาสัมพันธ์ จึงอยากให้นางสาวแพทองธาร ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมผลักดันเกี่ยวกับซอฟพาวเวอร์ และจัดกิจกรรมอีเวนท์ต่างๆเพื่อ ให้จังหวัดนั้นๆเป็นที่รู้จักมากขึ้น นอกจากนี้ บรรดา สส. ของพรรคยังได้ให้กำลังใจนางสาวแพทองธาร เนื่องจากกลัวว่า อาจมีความเครียดและกังวลเรื่องคดีความ พร้อมขอให้นายกฯสู้ๆ เข้มแข็ง ผ่านอุปสรรคไปได้และได้กลับมาทำงานเพื่อประชาชน ขณะที่นางสาวแพทองธาร ยังคงยิ้มแย้ม แสดงความเข้มแข็ง และขอให้ สส.ทุกคน เดินหน้าทำหน้าทำงานในสภาอย่างเข้มแข็งเช่นกัน […]

ภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์

กทม. 15 ส.ค.-“ทบ.-ทภ.2” ยืนยันภาพเขมรรื้อถอน “ลวดหนาม-ธงชาติ” เป็นเฟคนิวส์ คาดฝ่ายกัมพูชาทำคอนเทนต์สร้างกระแส ให้เห็นว่าไม่ยอมฝ่ายไทย เตรียมประท้วงขัดข้อตกลง “จีบีซี” แม่ทัพภาค 2 ยันทุกอย่างอยู่ที่เดิม เมื่อวันที่ 15 ส.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีคลิปทหารกัมพูชาอ้างถึงการรื้อลวดหนามหีบเพลงใกล้ฐานปฏิบัติการซำแต ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ว่า อาจจะเป็นการทำภาพวิดีโอ เพื่อนำเสนอให้คนกัมพูชาเห็นการปฏิบัติการตอบโต้ไทยตามแนวชายแดน แต่หลายอย่างไม่ได้ตรงกับพื้นที่จริง อาจจะเป็นเรื่องของการใช้กราฟิกในเรื่องของสีธง ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ตรงนั้น มุ่งหวังสร้างขวัญกำลังใจกับฝ่ายกัมพูชามากกว่า เพื่อแสดงท่าทีว่าได้ทำอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลวดหนาม หรือธง ในพื้นที่บริเวณแนวชายแดน เมื่อดูจากสภาพแวดล้อม ไม่ใช่พื้นที่ที่มีการอ้างถึง “อาจจะมาทำเป็นลักษณะของการทำคอนเทนต์ ให้คนกัมพูชาเห็นว่ามีปฏิกิริยาที่ไม่เอารั้วลวดหนาม ไม่ใช่ภาพที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย ยืนยันไม่ใช่ภาพจริงที่เขาอ้างถึง ส่วนการละเมิดข้อตกลงจีบีซี ในเรื่องการบิดเบือนข่าวสารนั้น เราก็คงต้องประท้วงและแสดงให้เห็นว่าไม่ควรเกิดขึ้น” พล.ต.วินธัย ระบุ พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพบกชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพอ้างว่าเป็นการรื้อถอนลวดหนามในพื้นที่จุ๊บตะโมก บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่ประจำปราสาทตาเมือนธม ยืนยันว่าไม่ปรากฏเหตุการณ์หรือการปฏิบัติใดๆ ของทหารกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้าง ทั้งนี้ […]

เร่งแกะรอยวงจรปิดเส้นทางหนีโจรชิงทอง 163 บาท

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ตำรวจเร่งแกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้ายสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองกลางห้างดัง จ.สมุทรปราการ กวาดทองคำ 163 บาท มูลค่ากว่า 8.6 ล้านบาท เช้าวันนี้ (15 ส.ค.) ทีมสืบสวน สภ.บางบ่อ ประชุมชุดและไล่ดูกล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนี บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) มุ่งหน้า จ.ชลบุรี เน้นจุดเสี่ยงตลอดแนวถนนเทพรัตน รวมถึงเส้นทางรองที่เชื่อมต่อออกพื้นที่ โดยวางแนวทางสอบสวนที่จะนำไปสู่การพิสูจน์ตัวผู้ก่อเหตุ โดยเฉพาะประเด็นชุดไรเดอร์ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยว่า ได้เชิญพยานแวดล้อม พนักงานร้านทอง สอบปากคำอย่างละเอียด ขอเวลาตำรวจทำงาน พร้อมกำชับหากพบตัวคนร้ายให้ใช้ยุทธวิธีจากเบาไปหาหนักด้วยความรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืน.-สำนักข่าวไทย

กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ก.ต่างประเทศ 15 ส.ค.-กต.เชิญรัฐภาคีออตตาวาบรรยายสรุป เรียกร้องกัมพูชาร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด เผย 1 เดือน ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดแล้ว 5 ครั้ง มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเป็นทุ่นใหม่ ไม่ใช่มรดกสงคราม ย้ำไทยมุ่งใช้กลไกทวิภาคี แก้ปมชายแดน จี้หยุดบิดเบือนเฟกนิวส์ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงหลังการบรรยายสรุปแก่คณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านทุ่นระเบิดว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ (15 ส.ค.) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้พหารไทยหลายท่านได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน และเพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ โดยได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศและองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเข้าร่วม โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟัง 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การ นายนิกรเดช กล่าวว่า นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้กล่าวเปิดผ่านวิดีโอคลิป เนื่องจากขณะนี้ท่านติดการกิจอยู่ระหวางเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ที่เมืองอันหนิง ประเทศจีน ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่ประธานการประชุมร่วมกับจีน หลังจากนั้นเป็นการบรรยายของนายรัศม์ […]