“ชาดา” ปรี๊ด ! โต้ “โรม” อย่าเล่นใต้ดิน

รัฐสภา 14ก.พ.-สภาเดือดจัด! “โรม” ยกภาพ “ชาดา” ถ่ายกับกลุ่ม ศปปส. อ้างทำปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินจริง ถามจะสร้างความปลอดภัยได้อย่างไรในเมื่อรัฐสร้างผีขึ้นมาเอง ทำ “ชาดา” โมโหจัด ลุกโต้เสียงสั่น ถ้าอยู่เบื้องหลังจริงสนุกกว่านี้ ลั่นอย่าเล่นใต้ดิน ยืนยันประเทศมีขบวนการล้มเจ้า ไล่รับไม่ได้ ให้ไปอยู่ประเทศอื่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม โดยระหว่างการพิจารณาญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่องขอให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้มีความเหมาะสมและทันสมัย

นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ลุกขึ้นอภิปรายว่า หลังจากมีข่าวการขวางขบวนเสด็จออกมา ต้องยอมรับว่าบรรยากาศเป็นไปด้วยความหวาดกลัว ซึ่งตอนนี้ได้เลยจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ตนเข้าใจดีว่า ทุกคนล้วนมีความรู้สึกกับเรื่องนี้ไปต่าง ๆ นานา แต่หากไม่พิจารณาเรื่องนี้อย่างมีวุฒิภาวะด้วยสติที่มั่นคง สิ่งที่ทุกคนกำลังสร้างคือบรรยากาศแห่งความหวาดกลัว ส่งผลให้เกิดการทำร้ายร่างกายกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อหน้าตำรวจและสื่อมวลชน รวมถึงธารกำนัลกลางเมืองหลวงที่มีคนผ่านไปผ่านมา


นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างใจเย็น ทำให้สถานการณ์ไม่ลุกลามบานปลาย วิธีการควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม มีวุฒิภาวะ สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง เชื่อว่าหากลุ่มเคลื่อนไหวมีเจตนาทำสิ่งที่มากกว่าการบีบแตร เจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความปลอดภัยอยู่คงจะมีมาตรการมากขึ้น ซึ่งตามพระราชบัญญัติรักษาความปลอดภัยพ.ศ 2560 มาตร5 ประกอบมาตรา 7 ให้อำนาจอย่างกว้างขวางและเพียงพอที่จะรักษาความปลอดภัยได้อยู่แล้ว ผู้มีอำนาจสามารถใช้ดุลยพินิจปรับเปลี่ยนมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

“อยากขอให้ทุกคนมีสติ หากสิ่งที่นักเคลื่อนไหวทำมีความผิดจริงตามกฎหมาย ผมเข้าใจ หากจะปรับใช้กฎหมาย สิ่งสำคัญคือต้องโปร่งใสและสอดคล้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง อยากถามผู้มีอำนาจว่า ความผิดที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับกฎหมายที่จะปรับใช้หรือไม่ มิฉะนั้นจะกลายเป็นความขัดแย้งใหม่และลุกลามบานปลายจนไม่จบสิ้น ปัญหาเดิมยังไม่แก้ ปัญหาใหม่กำลังจะมา วันนี้ผมรู้สึกผิดหวังกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ดีของบ้านเมือง กับการบอกว่าตนเองและคณะรัฐมนตรีไม่สนับสนุนความรุนแรง และขอให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดเพื่อปกป้องสถาบัน แต่กลับไม่บอกให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ใช้ความรุนแรงเลย แบบนี้จะกลายเป็นการเขียนเช็คเปล่าให้กับผู้ที่ใช้ความรุนแรงหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมากลุ่มที่เคลื่อนไหวพยายามใช้วิธีอย่างสงบในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยการตั้งคำถามและกิจกรรมติดสติ๊กเกอร์ ซึ่งอาจทำให้คนบางคนปวดร้าวในจิตใจ แต่ไม่ได้ทำร้ายใคร


นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยทั้งชาติ ได้ประท้วงนายรังสิมันต์อภิปรายเกินกว่าญัตติที่เสนอ นายรังสิมันต์จึงลุกขึ้นชี้แจงว่า ตนต้องการบอกว่าการรักษาความปลอดภัยต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และที่สำคัญคือต้องมีสติ หากไม่พูดความเป็นจริงที่เกิดขึ้นและไม่มีสติ จะรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า กลุ่มศปปส.โพสต์ข้อความปลุกปั่นในโซเชียลมีเดีย ว่าจะเชือดไก่ให้ลิงดู หรือกลุ่มอาชีวะราชภักดี ที่ขู่จะจัดการสายน้ำ ตามวิถีอาชีวะปะทะก่อนค่อยคุย ซึ่งในช่วงนี้มีการใช้รูปของกลุ่มศปปส. ซึ่งถ่ายคู่กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยไม่เบลอหน้า นายเกชาจึงลุกขึ้นประทิ่วงอีกครั้งว่านายรังสิมันต์อภิปรายเกินเลยญัตติ

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า มีอีกหลายข้อความที่ถูกกล่าวขึ้นโดยบุคคลสำคัญ แม้กระทั่งนายชาดา พูดถึงการเนรคุณแผ่นดิน มีการปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินกว่าความเป็นจริงมาก และทำให้คนทั้งสังคมไม่รู้สึกปลอดภัย รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร ในเมื่อสุดท้ายผีที่สร้างขึ้นมามันมาจากพวกท่านเอง ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อยๆ หากไม่มีการดึงสติแล้วคำขู่เกิดขึ้นจริงใครจะรับผิดชอบ และสุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรง แล้วไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ควรจะหาว่ารัฐบาลเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย

นายชาดา ลุกขึ้นใช้สิทธิ์ประท้วงนายรังสิมันต์ โดยกล่าวว่า มีสมาชิกท่านหนึ่งนำรูปของตนมาอภิปราย ส่อให้เกิดเจตนาไม่ดี ซึ่งการอภิปรายของตนเองครั้งล่าสุด เกิดขึ้นในวันเลือกนายกรัฐมนตรีและมีประชาชนขอถ่ายรูปกับตนเป็นล้านคน การที่ตนจะร่วมกิจกรรมที่ดีงามไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด ซึ่งผู้ที่อภิปรายส่อจตนาไม่ดีอย่างมาก สร้างความแตกแยก และกำลังจะนำตนไปสู่ในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน

“วันนี้ผมไม่คิดจะอภิปราย แต่ผมเสียหาย เป็นการชี้จูงทางความคิดที่ท่านกำลังให้เด็กทำอยู่ ที่พวกท่านกำลังทำอยู่ มันคือความรู้สึกของคนอกตัญญู การกระทำอย่างนี้ มันคือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง มันไม่ใช้ความรู้สึกของคนดี มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ใช่การอธิบายเชิงสร้างสรรค์ ปากบอกต้องการความสงบให้ตั้งอยู่ตรงกลาง แต่พฤติกรรมไม่ใช่ ซึ่งวันนี้ผมฟังการอภิปรายตลอดเวลา และการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่เสียหายมาก ประธานในที่ประชุมอนุญาตได้อย่างไร ให้เสนอแบบนี้ได้อย่างไร แล้วถ้าผมจะเสนอแบบนี้บ้างจะมีปัญหาหรือไม่” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายชาดา กล่าวว่า ไม่อยากพูดว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม และไม่อยากพูดซึ่งไม่เกี่ยวกับญัตติด้วย และประธานการอนุญาตได้อย่างไร ซึ่งประธานต้องมาขอโทษตน ในฐานะที่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ถูกต้องและไม่เป็นกลาง แต่ตนจะฟ้องที่นำรูปของตนมาอภิปราย เพราะสิ่งที่ท่านทำพยายามเรียกร้องให้ถูกกฎหมาย และให้ตั้งสติ ตัวฟังแล้วรู้สึกดี ซึ่งญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักขาขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำเด็กหรือใครก็ตาม กี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย

 “การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทยไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการในประเทศนี้ที่จะล้มล้างที่จะบั่นทอน อย่าพูดว่าไม่มี ถ้าทำกับผมแบบนี้ พูดกับผมแบบนี้ เดี๋ยวผมจะพูดให้หมด ยืนยันว่า วันนี้ไม่ได้อยากจะพูดแต่หัวใจความรักชาติมันเต็มเปี่ยม สิ่งที่ท่านทำไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ ปากบอกว่าพัฒนา แต่สิ่งที่ทำเมื่อสักครู่นี้เลวทรามมากในความรู้สึกผม  ซึ่งประธานปล่อยภาพนี้ออกมาได้อย่างไร ใครอนุญาต ผมไม่ว่าสมาชิกแต่ขอถามประธาน การอภิปรายอยู่ดีๆ สร้างปัญหาเอง อย่าพูดว่าไม่มีขบวนการล้มเจ้า ผมยืนยันว่ามี ซึ่งผมพร้อมจะถ่ายรูปกับคนทุกคนที่ปกป้องสถาบัน แต่เขาจะเอาไปทำอะไรผมไม่รู้ ผมไม่เกี่ยว มันคนละเรื่อง ต้องมีสามัญสำนึกในการกระทำ อย่ามาพูดดูดีแต่ปฏิบัติไม่ดี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายชาดา กล่าวว่า จะลุกโต้ทุกคนที่พูด อย่ามาขัดแย้งกับตน อย่ามาทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อย่ามาเล่นใต้ดิน แล้วอย่ามาเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน ประธานต้องบอกว่าใครเป็นคนอนุญาต และว่า “ประธานสภาฯ หรือเจ้าหน้าที่มีวิจารณญาณไหม มีสมองไหม ผมคิดว่าเป็นกระบวนการที่ไม่สร้างสรรค์ ผมเข้าใจความคิดเห็นมีความแตกต่าง เข้าใจว่าความแค้นของท่านในวันที่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ผมไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนความคิดเห็นต่างก็ไม่เป็นไร แต่อย่ามาทำมือถือสากปากถือศีล” นายชาดากล่าว

ด้านนายพิเชษฐ์ ชี้แจงว่า  ไม่ได้ดูภาพ หากเกิดการพาดพิง จะหาคำตอบในเรื่องนี้ว่าอนุญาตได้อย่างไร พร้อมขอนายรังสิมันต์อย่าตอบโต้ และให้โอกาสนายชาดา ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นตามที่มีการนำเสนอ อยากให้การประชุมนี้เป็นการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมาตอบโต้กันไปมา เพราะจะทำให้ขยายความขัดแย้งมากขึ้น ขอคำขอความร่วมมือสมาชิกอภิปรายอย่างสร้างสรรค์และตรงประเด็น ให้มีแนวทางที่รอบคอบกว่านี้

ขณะที่นายรังสิมันต์ ชี้แจงว่าภาพที่นำเสนอได้ยื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างถูกต้องและพิจารณาตามระบบ ซึ่งเป็นอำนาจของประธานเป็นผู้พิจารณาคนสุดท้าย ซึ่งโดยทั่วไปการขึ้นรูปรัฐมนตรีสามารถทำได้อยู่แล้ว รออยู่ในที่ประชุม ขอให้นายชาดาใจเย็นๆ เพราะการขึ้นรูปไม่ได้ปรักปรำว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือปรักปรำนายชาดา เพิ่มเติม

ทำให้นายชาดาโต้กลับในทันทีว่า ไม่ได้ปรักปรำเพิ่มเติมหมายความว่าปรักปรำมาก่อนแล้วใช่หรือไม่ แต่นายรังสิมันต์พยายามชี้แจงว่าข้อความที่ขึ้นในรูปไม่ได้เป็นประโยคของนายชาดา แต่เป็นข้อความของผู้ที่ก่อความรุนแรง แล้วเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความเป็นจริงอาจจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ว่านักการเมืองอย่างเรา ๆ ถูกโยงไปยังกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ตลอดเวลา  ทั้งที่การกระทำอาจไม่ถึงขนาดนั้น จึงอยากให้มีสติ เพราะหลายคนเข้ามาเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว มีสติกันหน่อย เป็นหลัก เป็นฐานให้กับบ้านเมือง

นายชาดา จึงโต้กลับทันทีว่า การกระทำบ่งบอกถึงเจตนาชัดเจน ว่า “การกระทำนั้นบ่งบอกถึงเจตนาอย่างชัดเจน และมีการส่อเจตนาที่ไม่ดี และเรื่องดังนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก… ผมรู้สึกว่าเจตนาของท่านพยายามเชื่อมโยงว่าผมอยู่เบื้องหลัง ถ้าผมอยู่เบื้องหลังจริงจะสนุกกว่านี้ ผมบอกได้เลยครับ ขออย่าให้มีพฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นในสภาฯ อีก ผมถือว่าท่านไม่ใช้สติในการพิจารณาการกระทํา …คนไทยทุกคนรับได้ (ขบวนเสด็จ) มีแผ่นดินอยู่ มีแผ่นดินคุ้มกะลาหัว ถ้ารับไม่ได้ ไปอยู่ประเทศอื่น”นายชาดา กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”

วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลักพุ่งเหินฟ้าคารถ 6 ล้อ

รอดตายปาฏิหาริย์! วัยรุ่นซิ่งเบนซ์เสียหลัก ก่อนพุ่งเหินฟ้าติดคาบนรถ 6 ล้อ พลเมืองดีเข้าช่วยเหลือออกมาจากรถ ปลอดภัย

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า