ต้องได้ข้อสรุป กองทัพเรือ คืน “สวัสดิการไฟฟ้าสัตหีบ” ให้หรือไม่

รัฐสภา 13 ก.พ.-“จิรายุ” ย้ำ กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพฯ  ต้องได้ข้อสรุป กองทัพเรือ คืน “สวัสดิการไฟฟ้าสัตหีบ” ให้หรือไม่ เผย กองทัพอากาศ ไม่ยอมเปลี่ยน “สนามธูปะเตมีย์” เป็นสวนสาธารณะ


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ ไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม ถึงกรณีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ฝ่ายค้าน ระบุว่า คณะทำงานนี้ ทำงานช้า ว่า ขอเรียนอย่างตรงไปตรงมา ว่าไม่มีอะไรเร็วเหนือแสงเท่ากับคณะกรรมาธิการฯ ชุดนี้ เนื่องจากเพิ่งประชุมครั้งแรก ครั้งเดียว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการพิจารณาคืบหน้าไปมาก โดยวันนี้จะมีการสรุปว่าสุดท้ายแล้ว กองทัพเรือควรจะกลับไปสู่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือไม่อย่างไร โดยเรื่องที่มีการพิจารณาไปแล้วล่าสุด คือเรื่องสวัสดิการไฟฟ้าสัตหีบ ซึ่งเป็นกฎหมายตั้งแต่สมัยก่อน ที่ประกาศให้ทั้ง 5 ตำบล ของอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอำเภอของกองทัพเรือ ซึ่งในเวลาที่ผ่านมา ยังไม่มีการแก้ไขกฎหมาย กองทัพเรือจึงได้นำไฟฟ้ามาดูแลพี่น้องประชาชน

“วันนี้ต้องถามว่า ใน 100 เปอร์เซ็นต์ กองทัพควรจะมีไว้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคง ส่วนที่สองเป็นเรื่องของพี่น้องประชาชนที่ใช้ไฟ“ นายจิรายุ กล่าว


นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ส่วนที่บอกว่า สวัสดิการไฟฟ้าสัตหีบ แพงกว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือไม่นั้น ในการประชุมที่ผ่านมา มีการยืนยันด้วยเอกสารชัดเจนว่า ราคาเหมือนกัน แต่ที่แพงกว่า คือมิเตอร์ชั่วคราว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะสวัสดิการไฟฟ้าสัตหีบของกองทัพเรือ แต่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ก็ราคาไม่เหมือนกับมิเตอร์ถาวรเช่นเดียวกัน

“วันนี้ต้องหาข้อสรุปให้จบว่า ตกลงแล้วกองทัพเรือจะคืนส่วนหนึ่งให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือให้กับรัฐบาล หรือไม่ ถ้าคืน คืนแบบไหน อย่างไร ถ้าไม่คืน มีเหตุผลแบบใด เนื่องจากพื้นที่ตรงนั้นเป็นกองทัพเรือ ใช้ไฟฟ้ามหาศาล การที่จะไปใช้ไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั้งหมด ในเขตความมั่นคงที่มีอาวุธยุทโธปกรณ์ในการป้องกันตนเอง จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือ และประเทศไทยหรือไม่” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวยืนยันว่า เพิ่งมีการประชุมไปเพียงครั้งเดียว เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และในสัปดาห์หน้า จะมีการพิจารณาเรื่องสวัสดิการต่างๆ ของกองทัพเรือ กองทัพบก กองทัพอากาศ และกองทัพไทย ซึ่งจะมีการพิจารณาว่า ตกลงแล้วจะคืนให้กับรัฐบาล หรือจะให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ และจะมีความโปร่งใสอย่างไร


ส่วนการพูดคุยในเรื่องที่ดินของกองทัพอากาศที่เกี่ยวข้องกับสนามบินนั้น นายจิรายุ กล่าวว่า มีการบรรจุไว้อยู่ในกำหนดการที่จะพิจารณา แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ไปพูดคุยกับผู้บัญชาการทหารอากาศแล้ว ก็เป็นนิมิตหมายอันดี เนื่องจากท่านได้ให้นโยบายไปว่า สนามกอล์ฟกานตรัตน์ หรือ สนามงู ที่อยู่กลางสนามบินดอนเมือง สามารถคืนไปให้กับการท่าอากาศยาน เพื่อจะนำไปทำรันเวย์ได้หรือไม่อย่างไร เป็นแนวทางที่สอดรับกับกรรมาธิการ ซึ่งจะมีการพูดคุยกันว่า จะคืนแบบไหน อย่างไร หรือจะคืนไปเลยแล้วปรับเป็นรันเวย์ก็เป็นเรื่องที่การท่าอากาศยานต้องพิจารณา

“ในส่วนของสนามธูปะเตมีย์นั้น ต้องรอการชี้แจงจากกองทัพอากาศ เนื่องจากในอดีตที่ตรงนี้เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ไม่มีอาคารสูง กองทัพอากาศจึงใช้ที่ตรงนี้เป็นที่พักกำลัง และมีการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับความมั่นคง เพราะฉะนั้น การคืนสนามกอล์ฟไปให้กรมการปกครองท้องถิ่นหรือไม่นั้น กองทัพอากาศชี้แจงว่า ถ้าจะคืนคงไม่สามารถไปทำสนามกอล์ฟ หรือสวนสาธารณะได้ แต่ถ้าไม่คืน จะสำรองไว้ กองทัพอากาศ ก็ต้องชี้แจงให้ได้ว่า รายได้จะออกมาแบบไหน จะนำส่งที่ไหนอย่างไร สำหรับเหตุผลที่ไม่สามารถทำเป็นสวนสาธารณะได้นั้น เนื่องจากหากทำเป็นสวนสาธารณะ ประชาชนจะเข้าไปเป็นจำนวนมาก หากเกิดเหตุการณ์อะไรที่ ปัจจุบันทันด่วน จะไม่สามารถควบคุมได้ทางการทหาร ถ้าปล่อยให้หน่วยงานท้องถิ่นไปทำ กองทัพก็ไม่มั่นใจว่า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นมา จะบริหารจัดการได้หรือไม่อย่างไร” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณีการซื้อขาย ใบ สด. 43 ด้วยว่า ทางกระทรวงกลาโหมได้มีการพูดคุย และพิจารณากันว่า ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม ที่จะเป็นช่วงที่มีการเกณฑ์ทหารเป็นประจำนั้น จะเห็นได้ว่าการเกณฑ์ทหาร การจับใบดำ ใบแดง หรือกรณีที่มีการสมัครแล้วเกินจำนวน ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้นั้น

“การขายใบ สด. 43 ขอให้พี่น้องประชาชนตั้งสติ และเชื่อมั่นไว้ก่อนว่า เวลาใครเอามาขายเป็นของปลอมแน่นอน” นายจิรายุ กล่าว

ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า อาจจะมีเจ้าหน้าที่บางคนกระทำ ก็ขอให้แจ้งเป็นข้อมูลมา นอกจากนี้ ขอเตือนไปยังสัสดี เพราะได้ยินมาเหมือนกันว่า บางเขตในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะแถวกรุงเทพฯ ตะวันออก มีการเรียกรับผลประโยชน์ 30,000-50,000 บาท

“ถ้าเป็นเรื่องจริง คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรให้อภัย เพราะรัฐมนตรีก็ได้ให้แนวทางไว้ ไม่ว่าสัสดีหรือใครก็ตามเกี่ยวข้อง แม้จะเกษียณอายุราชการไปแล้ว กฎหมายสามารถเอาผิดย้อนหลัง ริบบำเหน็จ ริบบำนาญ ริบสิทธิประโยชน์ของการเกษียณอายุราชการได้ เพราะฉะนั้น กองทัพต้องโปร่งใส ในยุคของนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”นายจิรายุ กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]